น้ำเสียงของทรราชเย็นชา ใบหน้าหล่อเหลานั้นแฝงไปด้วยแววข่มขู่
ซือหลิงหลงรู้สึกขลาดกลัวขึ้นมาเล็กน้อย
'ถ้างั้น ฉันไม่รักษาดีกว่า..... '
เฮ่อเหลียนเย่ว์มองซือหลิงหลง น้ำเสียงแฝงไปด้วยแววข่มขู่ไม่ยอมให้ปฏิเสธ “ตอนนี้จะมาบอกว่าไม่อยากจะรักษาก็ไม่ได้แล้ว รักษาให้มันซะ”
ซือหลิงหลงรู้สึกมึนงงไปชั่วครู่ แต่ก็ไม่มีท่าทีคลุมเครืออีกต่อไป หันไปสั่งการนางกำนัล “เอามันไปวางไว้บนตั่งข้างๆนั่นก่อน”
แม้ว่านางกำนัลจะรู้สึกไม่พอใจอยู่บ้าง แต่ต่อหน้าเฮ่อเหลียนเย่ว์ นางได้แต่ทำตามอย่างเชื่อฟัง
หลังจากที่จิ้งจอกหิมะถูกวางลง ร่างของสุนัขจิ้งจอกนอนตะแคงอยู่ ขนปุกปุยอ้วนกลมนอนนิ่งอยู่ตรงนั้นไม่เคลื่อนไหว ซือหลิงหลงเดินเข้าไปจะทำการตรวจรักษาให้กับจิ้งจอกหิมะ
แต่แล้วในขณะที่ยื่นมือออกไปกำลังจะแตะถูกตัวจิ้งจอกหิมะ สุนัขจิ้งจอกที่เดิมทียังมีท่าทีเซื่องซึมกลับหันมาแยกเขี้ยวยิงฟันให้เธอ และทำท่าจะกัดเธอ
สายตาของนางกำนัลมีแววได้ใจเล็กน้อย จิ้งจอกหิมะตัวนี้ไม่ชอบให้คนอื่นแตะต้อง แต่ไหนแต่ไรมานอกจากฮ่องเต้แล้วจะไม่ใกล้ชิดใครเลย แม้แต่นางที่คอยดูแลมันอยู่ตลอดเวลา มันก็ไม่ยอมให้นางอุ้ม
เมื่อเห็นว่าเขี้ยวที่แหลมคมของจิ้งจอกหิมะกำลังจะกัดมือที่จะยื่นไปจับของซือหลิงหลง ฝูไท่ที่ยืนอยู่ข้างๆก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกตกใจ
เฮ่อเหลียนเย่ว์คิดจะยื่นมือออกไปขวาง แต่ยังไม่ทันที่เขาจะยื่นมือออกไป ก็พบว่ามือของซือหลิงหลงเคลื่อนไหวได้รวดเร็วมาก ใช้มืออ้อมไปทางด้านล่างกรามของจิ้งจอกหิมะแล้วปิดปากของมัน จากนั้นก็ใช้ความเร็วราวกับสายฟ้าฟาดดึงหูของมันกดลงไปกับตั่ง ใช้ข้อศอกกดทับไปที่ร่างกายท่อนบนของจิ้งจอกหิมะ ส่วนข้อศอกอีกข้างก็กดร่างกายส่วนล่างของจิ้งจอกหิมะเอาไว้
แค่ชั่วพริบตาเดียว จิ้งจอกหิมะก็ถูกซือหลิงหลงกดเอาไว้กับตั่งจนขยับตัวไม่ได้
“นิ่งๆหน่อย ข้าไม่ทำร้ายเจ้า”
น้ำเสียงของซือหลิงหลิงพูดไม่ได้ว่าอ่อนโยน แต่แฝงด้วยแววข่มขู่เล็กน้อย จิ้งจอกหิมะดิ้นรนอยู่สองสามที และไม่กล้าจะเคลื่อนไหวอีก ซือหลิงหลงใช้จังหวะนี้แนบฝ่ามือไปบนหน้าท้องของสุนัขจิ้งจอก ฝ่ามือหายลงไปท่ามกลางขนยาวหนานุ่มสีขาว ลูบไปมาบริเวณหน้าท้องของมันสองสามที
'ท้องมีอาการอืด ไม่มีน้ำในช่องท้อง ดวงตาไม่ได้ขุ่นมัว...... '
เฮ่อเหลียนเย่ว์ได้ยินเสียงวินิจฉัยในใจของซือหลิงหลง มั่นใจว่านางรู้เรื่องการตรวจวินิจฉัยสัตว์เลี้ยงจริงๆ ก็ไม่ได้แสดงท่าทีที่ดูจะหยาบคายต่อนางเกินไปออกมา
เมื่อซือหลิงหลงลูบวนไปรอบหนึ่ง เหมือนกับว่าในที่สุดก็วินิจฉัยโรคได้แล้ว สีหน้าก็มีแววแปลกประหลาดเล็กน้อย
เฮ่อเหลียนเย่ว์ฟังการตัดสินในใจของซือหลิงหลง มุมปากกระตุก สีหน้าก็ดูแปลกประหลาดเช่นเดียวกัน
ขณะเดียวกันหมอหลวงก็เร่งฝีเท้ามาถึง เห็นสีหน้าของฮ่องเต้แล้ว ก็เอ่ยขึ้นอย่างระมัดระวัง “ฮ่องเต้พ่ะย่ะค่ะ”
“อะแฮ่ม” ซือหลิงหลงไอแห้งๆหนึ่งที ทันใดนั้นก็ถามนางกำนัลที่อยู่ข้างๆว่า “วันนี้มันกินอะไรไปบ้าง”
เมื่อนางกำนัลได้ยินซือหลิงหลงถาม ก็เผลอคิดว่านางกำลังจะต่อว่าตนเองที่ดูแลองค์เสวี่ยซาไม่ดีทำให้ทรงไม่สบาย ก็รีบตอบโต้ทันทีว่า “ก็กินเหมือนปกติเพคะ เนื้อวัว แล้วก็เนื้อไก่”
“กินไปเท่าไหร่”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฮ่องเต้คลั่งรักมัดใจสนมตัวร้าย