“มีมี่ พี่หยางคือคนรักของเจ้าเช่นนั้นหรือ?" เย่วซินเอ่ยมีมี่ นางสังเกตเห็นสายตาของทั้งสองที่มองกันและท่าทางที่แสดงออกมานั้นทำให้นางนึกสงสัย
"โอ้...เจ้าช่างตาแหลมคมยิ่งนัก..." ไป๋หลันเอ่ยชมเย่วซินหลังจากที่ได้ยินนางถามเรื่องพี่หยาง
"ใช่แล้ว!!... เจ้าห้ามคิดหลอกกินเต้าหู้พี่หยางของข้าเด็ดขาดเลยเข้าใจหรือไม่" มีมี่เอ่ยเสียงดังอย่างจริงจังกันท่าสหายของตน
"มันจะเป็นเช่นนั้นไปได้อย่างไรเล่ามีมี่ คนรักของเจ้าก็คือพี่ชายของข้าและเย่วซิน เช่นนั้นพวกข้าย่อมมีสิทธิ์ กอด...จูบ…ลูบ...คลำ...ด้วยเช่นกัน เจ้าอย่าขี้งกไปหน่อยเลยน่า...พวกข้าขอแค่นี้เอง" ไป๋หลันเอ่ยขัดยืดยาวเพราะมีมี่คิดจะหวงก้างพี่ชายที่นางเคยแอบเต๊าะอยู่ประจำทุกวันที่มีโอกาส
"ผู้ชายของเจ้าก็มีทำไมต้องมาทำกับพี่หยางด้วยเล่า" มีมี่ยังไม่ยอมลงให้
"มันไม่เหมือนกันนี่...พี่หยางของเจ้าไม่สึกหรอหรอกน่า..." ไป๋หลันยังรบเร้าไม่ยอมถอย
"จริงด้วยมีมี่เจ้าไม่สงสารข้าบ้างหรือ คนรักก็ยังไม่มี ข้าเองเพิ่งเคยมีพี่ชายครั้งแรกก็อยากจะออดอ้อนบ้างเท่านั้นเอง" เย่วซินเป็นคนพูดน้อยและสงบนิ่งมากที่สุด แต่นางพูดมาแต่ละครั้งมีมี่ก็อดใจอ่อนไม่ได้สักครา
"เออ ๆ...ก็ได้ ถ้าเป็นพวกเจ้าข้ายอมก็ได้ วุ้ย...กว้างกว่ามหาสมุทรก็ใจข้านี่แหละ..." มีมี่เอ่ยอย่างจำยอมและไม่ลืมเอ่ยประชดตัวเอง
"ประเสริฐแท้ ๆ สหายของข้าฮ่า ๆ ๆ..." ไป๋หลันหัวเราะชอบใจที่ได้แกล้งสหายของตน
"พวกเจ้าสามคนคุยอะไรกันหรือดูอารมณ์ดีกันเชียว" เฉินหยางโผล่พรวดเข้ามาเพราะพวกนางไม่ได้ลงกลอนเอาไว้และได้ยินพวกนางหัวเราะเสียงดัง
ไป๋หลันพยักหน้าให้เย่วซินแล้ววิ่งไปกอดแขนพี่ชายอย่างออดอ้อนทันที ส่วนเย่วซินที่ได้รับสัญญาณจากสหายก็เข้าใจจึงเดินเข้าไปกอดแขนข้างที่ยังว่างของพี่ชายบุญธรรมอย่างออดอ้อนเช่นกัน
มีมี่ที่เห็นสหายทั้งสองออดอ้อนคนรักของนางก็ไม่ยอมน้อยหน้าเดินเข้าไปสวมกอดด้านหน้าพร้อมกับซบใบหน้าลงบนอกแกร่งทันที
"พวกเรากำลังพูดกันว่าคิดถึงพี่หยางมาก ๆ เจ้าค่ะ" มีมี่เอ่ยบอกเสียงออดอ้อน
"เช่นนั้นหรือ? พี่ก็คิดถึงพวกเจ้าเช่นกัน เจ้าก็ด้วยนะซินเอ๋อร์อยู่ที่นี่ให้สบายใจพี่รักเจ้าเหมือนกับน้องสาวคนหนึ่ง" เฉินหยางเอ่ยและเน้นไปที่เย่วซินเพราะนางจะได้รู้สึกอบอุ่นและสนิทยิ่งขึ้น
"เจ้าค่ะพี่ใหญ่" เย่วซินเอ่ยอย่างตื่นตันใจ
"เอาล่ะ ๆ พวกเจ้าเลิกเกาะพี่เป็นลิงเช่นนี้เสียที ได้ฤกษ์แล้วรีบออกไปกันเถิด องค์ไท่จื่อและประมุขหนานก็มาแล้วเช่นกัน" เฉินหยางเอ่ยบอกน้องสาวทั้งสามคนที่ยามนี้กอดเขาเป็นลูกลิงไม่ยอมปล่อย
บุตรทั้งสี่คนเดินออกมาจากเรือนโดยมีเฉินหยางเดินนำหน้าน้องสาวด้วยท่าทางองอาจใบหน้าอ่อนโยนอบอุ่นจนสาวน้อยทั้งหลายถึงกับยืนบิดกายด้วยความเขินอาย
ตามมาด้วยไป๋หลันที่วันนี้สวมอาภรณ์สีโปรดคือสีเขียวอ่อนมองแล้วสดชื่นเย็นตาใบหน้าเรียวเล็กได้รูปดวงตากลมโตพราวระยับ คิ้วเรียวสวยรับกับจมูกโด่งเชิดขึ้น ปากแดงอวบอิ่มจนผู้คนที่มองต่างเผลอไผลในความงดงามนั้น
วันนี้ไป๋หลันไม่ได้ห้อยป้ายหยกขาวดูดซับกลิ่นเพราะอยากให้ทุกคนที่มาร่วมงานได้รับความหอมสดชื่นถ้วนหน้ากัน ผู้คนในงานต่างได้กลิ่นหอมนี้และพยายามถามว่าเป็นกลิ่นของดอกไม้ชนิดใดจะได้นำไปปลูกที่จวนบ้าง แต่คำตอบที่ได้คือเป็นกลิ่นหอมที่ติดกายบุตรสาวของจวนอย่างคุณหนูหลินไป๋หลันมานั่นเอง
ตามมาด้วยมี่ฮวาหรือมีมี่ที่สวมอาภรณ์สีชมพูกลีบบัวเกล้าผมครึ่งศีรษะปักด้วยปิ่นเงินมีระย้ามุกสีขาวห้อย ใบหน้าเย้ายวนชวนหลงใหลจนไม่อาจละสายตา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลินไป๋หลัน
1...