หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์ นิยาย บท 177

สรุปบท ตอนที่ 177 ไม่ใช่เวลานี้: หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์

ตอนที่ 177 ไม่ใช่เวลานี้ – ตอนที่ต้องอ่านของ หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์

ตอนนี้ของ หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์ โดย เมียวเมียว ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายโรแมนซ์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 177 ไม่ใช่เวลานี้ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ตอนที่ 177 ไม่ใช่เวลานี้

พี่ชายฉันทำเพื่อลูกเธอถึงได้มีสภาพแบบนี้วรินทรไม่ดูแลพี่ชายของเธอแล้วยังจะทิ้งไปอีก เนรคุณจริง!

ทีนาร์หมายหัววรินทรไว้ในใจ ก่อนวางตระกร้าผลไม้ไว้บนโต๊ะข้าง ๆ

“ใช่แล้ว!” อยู่ ๆ ทีนาร์ก็คิดได้ว่า เมื่อไม่มีวรินทร เธอก็สามารถเรียกธารีให้มาดูแลพี่ชายของเธอได้ ใช้โอกาสนี้สนับสนุนความรักของธารี

พอคิดขึ้นได้เธอก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาธารีอย่างรวดเร็ว

วรินทรพากวินมาร้านอาหารที่ด้านล่างตึก อีกไม่นานก็จะมื้อเที่ยงแล้ว ดังนั้นวรินทรจึงตัดสินใจไม่กินมื้อเช้า และสั่งมื้อเที่ยงมากินแทน แล้วจึงสั่งเมนูสำหรับเด็กให้กวิน

เมื่อสองแม่ลูกจัดการกับอาหารเสร็จก็ออกจากร้านอาหาร

กวินลูบพุงน้อย ๆ เลียริมฝีปาก ในมือถือถุงมื้อเที่ยงที่เตรียมสำหรับทาวัต ถ้าเขาฟื้นขึ้นมา ก็จะได้กินได้ทันที

“พวกเรากลับกันเถอะ” วรินทรหรี่ตา เงยหน้ามองอาคารของโรงพยาบาล ที่จริงก็ออกมาแค่แป๊บเดียว แต่จู่ๆ ก็รู้สึกกังวลขึ้นมา

เอ๊ะ เกิดอะไรกับเธอกันนะ

วรินทรจูงมือกวินเข้าไปในโรงพยาบาล พอออกจากลิฟต์ก็เดินไปทางห้องผู้ป่วยวีไอพีของทาวัต

“หืม วรินทร กวิน พวกเธอก็อยู่ที่นี่เหรอ” ธรรศและนรชัยออกมาจากห้องผู้ป่วย เห็นวรินทรและกวินเดินมาก็ทักทาย

เมื่อคืนตอนที่ทาวัตและวรินทรพบว่ากวินหายไปก็ไม่ได้บอกพวกเขาสองคนเช้าวันนี้พอพวกเขาได้ฟังปกเกศรายงาน จึงรีบมาที่โรงพยาบาลทันที

“พวกนายมาที่นี้ได้ยังไง?” วรินทรขมวดคิ้ว คิดในใจว่า พวกเขาข่าวไวจริง ๆ ถึงได้มาเร็วขนาดนี้

“พี่ชายตัวเองได้รับบาดเจ็บทั้งที ทำไมพวกเราจะไม่มาล่ะ” ธรรศหันไปมองประตูห้องผู้ป่วย ในแววตาปรากฎระลอกคลื่นความอึดอัด ไม่กล้าสบสายตากับวรินทร

เดิมทีเขาโกหกใครไม่เป็น กลัวว่าไม่ระวังแล้วจะเผลอพูดอะไรออกไป ตอนนั้นคงไม่มีใครช่วยเขาได้

“ตอนนี้เธออย่าเพิ่งเข้าไปเลย ทาวัตยังไม่ฟื้น เธอเข้าไปก็ไม่มีประโยชน์” นรชัยเอ่ยปากและมองวรินทรด้วยสีหน้าจริงจัง

วรินทรแปลกใจเล็กน้อย นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นนรชัยพูดเยอะขนาดนี้ ทำไมรู้สึกว่าวันนี้เขาสองคนทำตัวแปลก ๆ

กวินเห็นเอโบกมือให้เขาจากอีกฝั่งของกำแพงด้านหลัง เขากระตุกแขนของวรินทร กล่าวว่า “หม่ามี๊ฮะ ผมไปเข้าห้องน้ำนะฮะ เดี๋ยวจะรีบกลับมา”

“ไปเถอะ” วรินทรพยักหน้าและปล่อยมือ

หลังจากกวินเดินจากไป วรินทรกอดอก เลิกคิ้ว ประเมินท่าทางของพวกเขาริมฝีปากสีชมพูยิ้มแสยะ “พูดมาเถอะ พวกนายสองคนคิดจะทำอะไร ทำไมถึงไม่ให้ฉันเข้าไป?”

“ไม่ใช่ไม่ให้เธอเข้าไป แต่รู้สึกว่าตอนนี้ยังไม่เหมาะที่จะเข้าไป...” ธรรศพูดโพล่งในสิ่งที่คิดในใจออกไปจนหมด

นรชัยรีบเข้าไปบิดแขนของธรรศอย่างแรง เพื่อให้หยุดพูด ธรรศเจ็บจนหน้าเบี้ยว

วรินทรหรี่ตา จับผิดการกระทำของนรชัย ในใจรู้สึกสงสัยรุนแรง

ทาวัตยังนอนพักอยู่ด้านใน พวกเขาไม่ยอมให้เธอเข้าไปดูแลก็ช่างมันเถอะแต่มาขวางเธอ ดูยังไงก็น่าสงสัยเกินไป

ธรรศมองตอบสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยของวรินทร ในใจอยากจะตีปากตัวเองที่พูดเหลวไหล

วรินทรเม้มปากดูพวกเขาอีกชั่วครู่ ทันใดนั้นเธอก็ขยับกาย ร่างเล็กกระโจนผ่านระหว่างเขาสองคน ถึงนรชัยและธรรศจะช่วยกันห้าม แต่วรินทรก็ยังผ่านเข้าไปได้

นอกจากเป็นแม่ของกวินแล้ว ดูเหมือนว่าระหว่างเธอกับทาวัตก็ไม่มีความสัมพันธ์อื่นอีก

ถึงตอนนี้เธอจะเข้าไปจับธารีและโยนออกไป แต่จะทำในฐานะอะไรล่ะ?

วรินทรเม้มริมฝีปากแน่น จ้องมองใบหน้าหล่อเหลาของทาวัตอยู่อึดใจ ก่อนปิดประตูลงอย่างเงียบเชียบและเดินจากไป

เมื่อเธอหันหลังกลับ ธารีที่ตอนแรกก้มหน้ายิ้มเขินอาย อยู่ ๆ ก็เงยหน้าขึ้น และยิ้มไปทางที่วรินทรเคยยืนอยู่

วรินทร...เทียบกับฉันแล้ว สุดท้ายแล้วเธอก็ยังอ่อนหัด

เป็นคนที่ทาวัตชอบแล้วจะทำไม เป็นคนที่เขารักแล้วจะทำไม ตราบใดที่เธอไม่รู้ เขาก็จะไม่มีวันได้เปิดเผยความรู้สึก ถ้ายังมีฉัน พวกเธอทั้งสองคนก็อย่าหวังว่าจะได้อยู่ด้วยกันตลอดไป

ธารีหัวเราะเยาะ หลังจากนั้นก้มหน้าลง ยื่นมือออกไปลูบใบหน้าของทาวัตที่กำลังหลับเบา ๆ ดวงตาเต็มไปด้วยความรักนุ่มนวลและเด็ดเดี่ยว

“ทาวัตคะ ถ้าคนที่คุณชอบเป็นฉัน ไม่ใช่ว่าจะดีกว่ารักเขาหรอกเหรอ ” เธอพึมพำ กระซิบเบา ๆ แต่คำพูดที่เปล่งออกมากลับเหมือนเป็นคำสาบานว่าถึงแม้จะตายก็ไม่จะเลิกล้มเด็ดขาด

ทาวัตที่กำลังแกล้งหลับอยู่สัมผัสได้ว่าเมื่อกี้มีคนจูบหน้าผากขตัวเอง สัมผัสแผ่วเบาราวขนนก เขาคิดว่าคน ๆ นั้นเป็นวรินทร จึงอยากลืมตาขึ้นมา แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไม เรื่องมันกลับยิ่งวุ่นวายขึ้นเรื่อย ๆ

วรินทรออกจากโรงพยาบาลอย่างขุ่นเคือง ตัวเองก็ไม่รู้ว่าโมโหอะไร

ยิ่งไม่รู้ว่า เธอเริ่มโมโหหึง เวลามีผู้หญิงอื่นเข้าใกล้ทาวัตไปแล้ว

พอดีกับมีโทรศัพท์โทรเข้ามา วรินทรคว้าโทรศัพท์ขึ้นรับทันที โดยไม่ดูว่าใครโทรเข้ามา น้ำเสียงที่พูดกระโชกโฮกฮาก เดือดดาลเป็นอย่างยิ่ง อารมณ์ขุ่นมัวฉุนเฉียว “ฮัลโหล?”

“วรินทร คุณเป็นอะไรไป เหมือนว่าคุณจะกำลังโกรธอยู่นะ” เป็นประภาพที่โทรมา จู่ ๆ วรินทรก็เดือดดาลเป็นฟืนเป็นไฟโมโหอย่างรุนแรง ทำเอาเขามึนงงไปชั่วครู่

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์