หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์ นิยาย บท 176

สรุปบท ตอนที่ 176 ทำไมพ่อของเรายังไม่ฟื้นอีก: หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์

อ่านสรุป ตอนที่ 176 ทำไมพ่อของเรายังไม่ฟื้นอีก จาก หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์ โดย เมียวเมียว

บทที่ ตอนที่ 176 ทำไมพ่อของเรายังไม่ฟื้นอีก คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายโรแมนซ์ หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย เมียวเมียว อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ตอนที่ 176 ทำไมพ่อของเรายังไม่ฟื้นอีก

เฮ้อ หรือจริง ๆ แล้วทั้งหมดเป็นเพราะว่าเธอใจดีเกินไป

ถ้าทาวัตฟื้นขึ้นมาตอนนี้และเห็นวรินทรในสภาพนี้ ไม่รู้ว่าเขาจะร้องไห้หรือหัวเราะ

ถึงทาวัตยังไม่ฟื้น แต่ก็ยังรู้สึกตัวอย่างชัดเจน เขารู้สึกถึงมือเล็ก ๆ ที่ลูบบนร่างของเขาในขณะเดียวกันก็ได้ยินเสียงถอนหายใจเบา ๆ

ระหว่างที่ทาวัตยังไม่ฟื้น เธอรู้สึกไม่พอใจนัก ในใจอยากให้เขาฟื้นขึ้นมา อยากทำให้คน ๆ นี้ดูดี...

หลังเช็ดตัวให้ทาวัตเสร็จ วรินทรก็เช็ดเหงื่อบนหน้าผากตนเอง นำผ้าขนหนูวางไว้อีกฝั่งหนึ่ง ก่อนบิดขี้เกียจ

ในที่สุดก็ได้พักผ่อนได้สักที

เธอนอนคว่ำหน้าอยู่ข้างเตียง หนุนศีรษะบนต้นแขนของตนเองและหลับไป

ในความฝัน เธอเหมือนจะเห็นทาวัต คนที่เธอรักอย่างไม่มีกฏเกณฑ์ใด ๆ ได้กลับมาแล้ว

เช้าวันวันต่อมา แสงแดดส่องผ่านหน้าต่างเข้าไปยังห้องพักผู้ป่วย ทำให้สว่างไสวไปเกือบทั้งห้อง

วรินทรกำลังนอนคว่ำอยู่ข้างเตียงของทาวัต ใบหน้าด้านข้างของเธอที่กำลังนอนหลับงดงามราวดอกพุดสีขาว

แสงอาทิตย์ตกระทบกับขนตาที่โค้งงอของเธอมันสั่นเล็กน้อยดั่งผีเสื้อกำลังร่ายรำ ทอดเงาลงมาจากเบ้าตา จมูกและริมฝีปากจมหายไประหว่างมือ ปรากฎเฉพาะดวงตาคู่หนึ่ง ช่างน่ารักและบริสุทธ์ มองจากระยะไกลเหมือนดั่งนางฟ้าที่ตกสวรรค์มายังโลกมนุษย์

แดดด้านนอกหน้าต่างร้อนขึ้นเรื่อย ๆ อุณหภูมิในห้องผู้ป่วยค่อย ๆ เพิ่มขึ้น แต่ก็ไม่อาจปลุกวรินทร

อยู่ ๆ ประตูห้องผู้ป่วยถูกกระชากเปิดออก ส่งเสียงดังจนทำให้วรินทรที่กำลังหลับฝันขมวดคิ้ว

หลังจากนั้นก็ตามด้วยเสียงของกวินตำหนิขึ้นอย่างเบา ๆ“อาฮะ พ่อป่วยอยู่นะ ต้องพักผ่อน อาทำเสียงดังอย่างนี้จะทำให้พ่อตื่นนะ”

“โทษที อาตื่นเต้นเกินไปหน่อย” ทีนาร์เอ่ยขอโทษเบา ๆ ทำให้วรินทรที่กำลังหลับอยู่รู้สึกงงงวยว่าสองคนนี้ไปผูกมิตรกันตั้งแต่เมื่อไหร่?

เปลือกตาของวรินทรกระตุกสองสามครั้ง จากนั้นเธอก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมา เป็นเพราะว่าเพิ่งจะตื่นนอนสายตาจึงยังพร่ามัว และเผลอบิดเกียจออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ

กวินเดินเข้ามาในห้องผู้ป่วย ก็เห็นวรินทรตื่นขึ้นมาอย่างสบายอกสบายใจ เขาเดินเข้าไปอย่างรวดเร็ว และจุ๊บบนใบหน้าของวรินทรหนึ่งครั้ง “อรุณสวัสดิ์ฮะ หม่ามี๊” จากนั้นก็ยื่นถุงในมือให้วรินทรในนั้นมีเสื้อผ้าที่วรินทรมักจะใส่บ่อย ๆ

“อรุณสวัสดิ์เด็กดี แม่ยังไม่ได้ล้างหน้าเลย” วรินทรขยี้ตาและอ้าปากหาว รับเอาถุงเสื้อผ้า ทำเหมือนไม่เห็นทีนาร์ ก่อนเดินเข้าห้องน้ำไป

แม้ทีนาร์จะรู้ว่าวรินทรอยู่ที่นี่ ก็ไม่ได้แปลกใจอะไร เธอเดินไปข้าง ๆ ทาวัต ดูอาการของเขา สีหน้าดีขึ้นไม่น้อย แต่ยังคงยังไม่ได้สติ หรืออาจจะกำลังหลับอยู่

“กวิน ทำไมพ่อของเรายังไม่ฟื้นอีกล่ะ คงไม่เป็นอะไรหรอกใช่มั้ย?” ในฐานะที่เธอเป็นน้องสาวของทาวัต ย่อมต้องห่วงทาวัตเป็นธรรมดา

อีกทั้งแต่ไหนแต่ไรมาเธอไม่เคยเห็นทาวัตมีสภาพแบบนี้มาก่อน พี่ชายในความทรงจำของเธอนั้นแข็งแกร่งและหยิ่งผยองอยู่เสมอ เวลาเจ็บป่วยน้อยครั้งที่จะเข้าโรงพยาบาล บางครั้งอยู่บ้านไม่กี่วันก็หายเอง

ตอนนี้เขานอนอยู่ตรงนี้ จึงพูดได้ว่าเขาเจ็บหนักจริง ๆ

“ปลอดภัยแล้วฮะ คุณหมอบอกว่าพ่อแค่ต้องพักผ่อนอีกหน่อย เดี๋ยวก็ฟื้นแล้ว” กวินนั่งบนเก้าอี้ข้างเตียง เขาเองก็กังวลที่ทาวัตยังไม่ฟื้น แต่ถ้าหากทาวัตยังไม่ฟื้น เขาก็ไม่กล้าไปหยิกพ่ออย่างเอาเป็นเอาตายแบบหม่ามี๊ได้

“เปล่านะ หม่ามี๊อย่ามาเปลี่ยนรื่อง” กวินเบิกตากว้างเบิ่งตากลม ๆ มองวรินทรอย่างอยากรู้อยากเห็น

“ยังจะพูดว่าเปล่า เราเอาข้าวเช้ามามั้ย หม่ามี๊ดูแลพ่อทั้งคืนไม่ได้หลับไม่ได้นอน ส่วนเรานอนหลับที่คฤหาสน์แล้วใช่ไหม? ” วรินทรยื่นมือออกมาจิ้มไปที่สมองเท่าลูกแตงโมของกวินสั่นสะเทือนอย่างอย่างรุนแรง

กวินยู่ปาก ไม่ได้หลับไม่นอนทั้งคืนที่ไหนล่ะ? ก่อนหน้านี้ยังเห็นหม่ามี๊ไม่เต็มใจจะทำ ไม่ได้หลับไม่ได้นอนนี่....แล้วเมื่อกี้แม่ทำอะไรอยู่? ถกสัจธรรมชีวิต?

“ผมไม่ได้กินข้าวเช้าก็มาที่นี่เลย พ่อยังไม่ฟื้น ผมกินไม่ลง” กวินกล่าวเสร็จ ก็ทำท่าไม่พอใจแล้วยังลูบไปที่ท้องน้อย ๆ ที่กำลังหิวกิ่ว มองดูแล้วน่าสงสารมาก

วรินทรอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา บีบไปที่แก้มกลมของกวิน แล้วกล่าวว่า “ยังจะงอนอีก? ถ้าพ่อเราฟื้นขึ้นมา ต้องมีคนค่อยป้อนน้ำป้อนข้าวเขานะไปกันเถอะ เดี๋ยวหม่ามี๊จะพาเราไปกินของอร่อย”

“แบบนี้จะดีเหรอฮะ?”กวินลังเลเล็กน้อย ในขณะที่พ่อยังคงนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย เขากับหม่ามี๊ก็ไปกินของอร่อย จะไม่โหดร้ายเกินไปเหรอ“ทำไมจะไม่ได้ละ เชื่อฟังหม่ามี๊ย่อมไม่ผิด” วรินทรตบเท้าของกวินเบา ๆ แต่ไม่ได้ปล่อยเขาลง อุ้มเขาออกจากห้องไป

“หม่ามี๊ ปล่อยผมลงเถอะ อายเขา...” กวินหลบหน้าอย่างอาย ๆ โตขนาดนี้แล้วยังจะให้แม่อุ้ม น่าอายจริง ๆ

แต่กวินคงลืมไปว่าเขาเพิ่งจะอายุ 5 ขวบ โตตรงไหน?

ทาวัตที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยรู้สึกตัว ได้ยินที่สองแม่ลูกพูดคุยอย่างชัดเจนได้ยินว่าพวกเขาทิ้งเขาไปเพื่อของกินเล็ก ๆ น้อย ๆ แทบอยากจะคว้าพวกเขากลับมาตีเข้าให้สักที

แต่ทาวัตเป็นสุนัขจิ้งจอกที่ชาญฉลาด เขารู้ ตอนนี้เขายังไม่ฟื้นไม่ได้ เขาจึงนอนหลับเหมือนปกติ

เขาแกล้งทำเป็นหลับชั่วคราว

วรินทรเพิ่งพากวินออกไปได้ไม่นาน ทีนาร์ก็ซื้อผลไม้ด้านล่างของโรงพยาบาลขึ้นมาแล้ว เมื่อพบว่าในห้องผู้ป่วยนอกจากทาวัตแล้ว กวินและวรินทรไม่อยู่ ก็รู้สึกโกธรเล็กน้อย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์