หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์ นิยาย บท 371

ตอนที่371ที่เธอเป็นแบบนี้ มันคุ้มไหม

มือของฉันอดไม่ได้ที่จะลูบลงไปบนใบหน้าที่สวยงามนี้ สายตาที่แสนเย็นชาของประภาพ อยู่ดีๆก็ดูอบอุ่นขึ้นมาทันตาเห็น ดูนอบน้อมและอบอุ่น ตอนนี้เขาไม่สนใจว่าเธอจะจับได้หรือเปล่า

ตอนนี้เธออาการโคม่าอยู่ ไม่ว่าสายตาเขาจะเป็นยังไง เธอก็ไม่เห็นอยู่ดี

เขาได้แต่อยู่ในที่ๆเธอมองไม่เห็น แอบมองเธอด้วยสายตาอ่อนโยนอย่างเช่นตอนนี้

เขาได้แต่มีความหวังเล็กๆ ถ้าเกิดวรินทรฟื้นขึ้นมาแล้วลืมเรื่องที่เกิดที่ทะเลทั้งหมด จะดีแค่ไหนกันนะ?

“วรินทร...” เขาเรียกเธอด้วยเสียงเบา เขากำลังจะเอนกายลงไปจูบเธอ แต่ทันใดนั้นประตูก็เปิดออก

ผู้หญิงคนที่กำลังเข้ามา คือผู้ช่วยของประภาพ เธอไม่มีชื่อ มีแค่รหัส เรียกว่า สิบสอง

“ดเหมือนว่าคุณ จะชอบเธอมากจริงๆ” สิบสองเดินเขามา ตรงนั้นไม่มีคนนอก เธอก็เลยไม่ต้องระมัดระวัง เธอเดินไปที่หน้าประภาพ พอเห็นว่าเขาไม่มีท่าทีอะไรตอบกลับ ก็เลิกคิ้วขึ้น

ที่แท้ นี่ก็คือเหตุผลของเขานั่นเอง

เพื่อผู้หญิงคนนี้ เขาไม่ลังเลที่จะละเมิดคำสั่งของคนนั้นซ้ำแล้วซ้ำอีก เพื่อจะปกป้องผู้หญิงคนนี้ เขาคิดแม้แต่จะต่อต้านคนๆนั้น

สิบสองฉีกยิ้มออกทันที ยังกับดอกไม้บานที่เปล่งปลั่งสะหรั่งอย่างถึงที่สุด

ประภาพไม่ได้ตอบอะไร และไม่ได้รู้สึกอึดอัดกับคำพูดเมื่อกี้ด้วย พร้อมกับยื่นมือออกไปปัดผมออกจากหน้าของวรินทร

“วางแผนมาตั้งหลายปี ทีละขั้นทีละตอน แต่กลับมาเป็นแบบนี้เพื่อผู้หญิงแค่คนเดียว นี่ไม่ใช่สไตล์ของนายเลยนะ”สิบสองยืนพิงอยู่โต๊ะพร้อมกับหยิบกาแฟขึ้นมาดื่ม ปรากฏว่ากาแฟมันเย็นหมดแล้ว

สิบสอง มองหน้าเขาอย่างประหลาดใจ จะบอกว่า เขามัวแต่ดูแลผู้หญิงคนนี้จนไม่มีเวลาแม้แต่ชงกาแฟแก้วใหม่เลยเหรอ?

“คณก็น่าจะรู้ มันก็คือการถูกวางแผน ไม่ใช่การวางแผน” ประภาพตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา พร้อมกับขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วก็ไปยืนข้างๆสิบสอง เพื่อดื่มกาแฟแก้วนั้นของตัวเอง

ทันทีที่เขาหันหลังไป น้ำตาของวรินทรก็ไหลออกมา

ทันทีที่เขาดื่มกาแฟ การกระทำนี้ ก็ทำให้สิบสองประหลาดใจเป็นอย่างมาก

นี่คือประภาพที่เธอรู้จักงั้นเหรอ? ตั้งแต่ไหนแต่ไรเขาไม่เคยดื่มของเย็นหรือกินของค้างคืนมาก่อน เป็นคนที่จู้จี้จุกจิกที่สุดเท่าที่เธอเคยเจอมาด้วยซ้ำ

แต่ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเธอคนนี้ เธอมองเขาไม่ออกจริงๆว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่

“ถ้านายเป็นแบบนี้ มันคุ้มไหม?” สิบสองเลิกคิ้วขึ้น ตอนนี้ใบหน้าไม่ได้มีรอยยิ้มเหมือนเมื่อกี้อีกแล้ว แต่กลับมีแต่ความกังวลใจ

ประภาพวางกาแฟในมือของเขาลง ในที่สุดก็รู้สึกกระปี้กระเปร่าขึ้นมาบ้างแล้ว ทีนี้ก็กลับไปนั่งข้างวรินทรได้แล้ว เขาค่อยๆนั่งลง พร้อมกับมองใบหน้าที่สวยงามใบนี้ แล้วก็พูดออกมาว่า “ต้องรับมือกับภัยร้ายด้วยรอยยิ้ม”

รับมือกับภัยร้ายด้วยรอยยิ้มงั้นเหรอ?

สิบสองหยิบถ้วยกาแฟฟาดไปที่หลังของเขาอย่างรุนแรงจนมีเสียงออกมา “เพล้ง”

ประภาพรู้สึกเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แล้วก็หันกลับไปมองหน้าเธออย่างรุงแรงพร้อมกัเตือนว่า “ถ้าวรินทรตื่นเธอตายแน่ อย่าลืมว่าตัวเองเป็นใคร!”

ถึงแม้ว่าเขาจะค่อนข้างสนิทกับสิบสอง ปกติมักจะหยอกล้อเล่นกันตลอด แต่ว่าถ้าเกิดลืมตัวขึ้นมา ก็คงจะไม่ดีเท่าไหร่นัก

สิบสองเพิ่งจะรู้ตัวว่าตัวเองทำอะไรลงไป เมื่อกี้เธอไม่ได้ควบคุมตัวเองเลยแม้แต่น้อย แถมยังตีเขาอีก ยังดีที่ตีแค่ที่หลัง ถ้าเกิดว่าเป็นที่หน้าเขา วันนี้เธอคงจะไม่ได้มีชีวิตรอดออกไปนอกประตูนี้เป็นแน่

“ถ้านายเป็นแบบนี้ สุดท้ายก็จะสูญเสียทุกอย่างไป ผู้หญิงคนนี้มีดีตรงไหน? ฉันรู้จักกับนายมานานมาก นายยังไม่เคยทำดีกับฉันขนาดนี้เลย” สิบสองพูดอย่างโกรธเคือง ทนไม่ได้ที่จะประชดประชันเขาออกไป

ถึงจะพึ่งผ่านเหตุการณ์เมื่อกี้ไป เธอก็ไม่ได้มีความกลัวเลยแม้แต่นิดเดียว

ประภาพหันมามองหน้าเธอด้วยสายตาเรียบๆ แล้วก็หันกลับไปมองวรินทรอีกครั้งหนึ่ง

สิบสองไม่พอใจหนักกว่าเดิม พร้อมกับตอบไปด้วยความโกรธว่า “ต้องรู้จักกันนานขนาดไหน นายถึงจะหลงหัวปักหัวปลำขนาดนี้บ้าง!”

“20ปี นานพอไหม?”ประภาพเอ่ยเสียงเบา ไม่รู้ว่าเขากำลังพูดอยู่กับสิบสอง หรือว่าพูดกับวรินทรกันแน่ “ฉันกับเธอ รู้จักกันมา20ปีแล้ว”

ประโยคนี้ทำให้สิบสองช็อกเล็กน้อย เท่าที่เธอรู้ ประภาพเจอกับวรินทรที่อังกฤษ นับไปนับมาก็แค่ไม่กี่ปีนี้เอง

แต่เขากลับบอกว่า...รู้จักเธอ 20ปี?

งั้นก็แสดงว่ารู้จักตั้งแต่เด็กๆเลยงั้นเหรอ?

“พวกนาย...รู้จักกันได้ยังไงน่ะ?”สายตาของสิบมองจับจ้องไปยังร่างของวรินทร

ถ้าจะให้พูดตามความจริง ผู้หญิงคนนี้ก็ค่อนข้างสวย ดูน่าทะนุถนอม

“ฉันรู้จักเธอตั้งแต่ตอนเด็กมากๆ แต่เธอ...ไม่รู้จักฉัน” ประภาพยื่นมือไปเอามือเล็กๆของเธอมากุมไว้และมองเธอด้วยสายตาอ่อนโยน

เขารู้จักวรินทรตั้งแต่แรก แค่ไม่เคยเห็นกันเท่านั้นเอง

จนถึงวันหนึ่ง เขาอดสงสัยไม่ได้ก็เลยแอบไปดูวรินทร

วรินทรในตอนนั้นเด็กมาก น่าจะอายุประมานสามขวบเท่านั้นเอง แต่เธอกลับซนมาก เขาเห็นเธอเอาไม้ไล่หมาที่มารังแกแมวของเธอ

ความรู้สึกแรกที่เขามีต่อเธอก็คือ ผู้หญิงคนนี้หยาบกระด้างมาก

แต่ว่าเขาก็ได้เห็นมุมของเธอที่แตกต่างไป

หลังจากบ่ายวันนั้น เธออยู่ในอ้อมแขนของแม่ นั่งอยู่บนชิงช้า เหมือนแมวที่อยู่ในกรงเล็บของตัวเอง รอยยิ้มตอนนั้นสวยงามละหวานหยดย้อย เธอนั่งฟังแม่ของเธอเล่านิทาน

หลังจากนั้นล่ะ?

ตอนนั้นเขาห้ามความอยากเข้าใกล้เธอไม่ได้เลย เพียงแค่เป็นแบบนั้นได้ไม่นาน ก็ถูกทำลายไป

“นายจะบอกฉันว่าพวกนายโตมาด้วยกันงั้นสิ?” สิบสองพูดออกมาเบาๆ แล้วก็ส่ายหัวพร้อมหมุนตัวจะเดินออกนอกประตูไป “หวังว่านายจะไม่เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นนะ”

ทันทีที่เปิดประตู สิบสองก็หยุดลง ค่อยๆหันมาพร้อมกับกระซิบคำว่า “เก้า” หลังจากนั้นก็ออกไปและปิดประตูลง

ประภาพเหลือบตาลงไปมองใบหน้าของวรินทร พอได้ยินสิ่งที่สิบสองพูด ปลายนิ้วก็หดลงเล็กน้อย

ในบางครั้ง เขาก็ทั้งรักและทั้งเกลียดตัวตนของตัวเอง สิ่งที่เกลียดคือการชอบหาเรื่องมากมายใส่ตัว แต่สิ่งที่รักก็คือการที่ได้มาเจอเธอ

น่าเสียดาย ที่ประภาพไม่เคยพูดมันออกมา

เขาช้าไปแค่สองปีเท่านั้น แค่สองปี แต่กลับเป็นทั้งชีวิต

——

เมกับพรตคุกเข่าต่อหน้าทาวัตกับกวิตพร้อมกับก้มหัวลงพร้อมกับกุมมือไว้ รอให้ทั้งสองคนนี้ลงโทษพวกเขา

ทาวัตไม่เคยคิดว่าเรื่องราวมันจะวุ่นวายแบบนี้ ดูจากความสามารถของทั้งสองคนนี้ น่าจะทำอะไรให้เขาได้มากกว่านี้อีกเยอะ

บางครั้งก็กลัวว่ามันจะเป็นเพราะโชคชะตาจริงๆ ถึงตอนแรกมันจะดูเหมือนเป็นปัญหาที่แก้ได้โดยง่าย แต่อยู่ดีๆเรื่องราวก็กลับซับซ้อนไปหมด

อย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้

“หาจันทร์ทราเจอรึยัง?” ทาวัตยกมือขึ้นลูบหัวของตัวเองอย่างเครียดและถามด้วยน้ำเสียงเย็นเฉียบ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์