หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์ นิยาย บท 372

ตอนที่372ทนทุกข์ทรมาน

ปกเกศเดินเข้ามาน้ำเสียงแฝงไปด้วยความกังวล ตอบว่า “นายครับยังไงก็หาไม่เจอเลยครับ”

พอพูดถึงจันทร์ทรา อยู่ๆพรตก็นึกอะไรขึ้นมาได้ พลางรีบตอบอย่างไว “ท่านครับ จันทร์ทราไปหาคุณผู้หญิงก่อนพวกเราก้าวนึง ไม่แน่ว่าตอนนนี้อาจจะอยู่ในกำมือของพวกนั้นก็เป็นได้”

พอพูดจบก็หันไปมองหน้าเม สายตาเต็มไปด้วยความรุนแรงและแข็งขัน หลายปีมานี้ น้อยคนนักที่จะกลายมาเป็นคู่แข่งเขาได้ จะให้เขาไม่ตื่นเต้นได้ยังไงล่ะ

แต่พอกลับมารายการถึงได้รู้ว่าเป็นคนบ้านเดียวกัน....

ถ้าไม่ได้โตมาพร้อมกับจันทร์ทราคงจะไม่มีวันเข้าใจเธอแน่ๆ พรตคงจะกระอักเลือดแน่ๆถ้ารู้ว่าจันทร์ทราตั้งใจจะทำร้ายเขา

“นายน้อยครับ เป็นความผิดของผมเอง ลงโทษผมเถอะครับ” เมพูดอย่างเฉียบขาด ผิดก็คือผิด เพราะว่าเขาทำพลาดเอง เขาก็จะไม่หาข้อแก้ตัวใดๆทั้งนั้น ไม่ว่ากวินจะลงโทษเขายังไงเขาก็จะยอมทั้งนั้น

พลางนึกถึงครั้งที่แล้วที่เอฟไม่ได้ปกป้องแม่ของนายน้อยให้ดี และนายน้อยก็เพิกเฉยต่อเขาไป

พวกเขาไม่กลัวบทลงโทษอะไรใดๆทั้งนั้น แต่ถ้าเกิดว่าโดนนายน้อยเพิกเฉย คงจะทำใจยอมรับไม่ได้แน่ๆ

แต่ถึงแม้ว่ากวินจะโกรธมาก เพราะว่าเมไม่ได้ดูแลแม่เขาให้ดีเลยทำให้คนอื่นมาใช้ประโยชน์จากตรงนี้ได้ แต่ว่า ครั้งนี้ก็ไม่ใช่ความผิดของเขาทั้งหมด คนของพ่อเขาธรรมดาที่ไหนกันล่ะ?

แต่ว่า ยังไงก็ต้องลงโทษ

“ฉันขอลงโทษให้นายไปประเทศ Bเพื่อตามหาแม่ฉัน หาเจอแล้วถึงจะอนุญาติให้กลับมา”กวินกำลังมองแผนที่ที่ใกล้ทะเลอยู่ แล้วก็เลือกประเทศที่ไม่ค่อยติดทะเล แล้วออกคำสั่ง

ประเทศBห่างจากประเทศCค่อนข้างมาก และก็ยังล้อมรอบประเทศ cอีก ดังนั้นโอกาสที่วรินทรจะอยู่ที่นั่นมีน้อยมาก

เพราะฉะนั้นประเทศCกับบริเวณริมทะเลใกล้เคียงคือเป้าหมายของพวกเขา

การที่กวินทำแบบนี้ ตัวเขาเองยังรู้สึกแปลกใจ แต่แค่รู้สึกว่าชื่อนี้มันมีอะไรซักอย่าง ที่ทำให้ไม่อยากจะปล่อยไป

เมถอนหายใจ ยังดีที่ไม่ได้ถูกส่งไปที่เกาะไซปันเหมือนเอฟ แต่กลับได้ไปประเทศที่ใกล้ประเทศCหน่อย ยังดี

พอทาวัตได้ยินที่กวินสั่งดังนั้น ก็ออกคำสั่งกับพรตอย่างชัดเจน “นายก็ต้องไปกับเม เจอเธอเมื่อไหร่ก็กลับมาเมื่อนั้น”

พรตหน้าเสียทันที อะไรนะ? ไปกับเมเนี่ยนะ? จะไม่ตามหาไปตีกันไปหรอกเหรอ?

เมหันหน้ามา ดวงตาเต็มไปด้วยประกายความเกลียดชัง เหมือนกำลังจะบอกว่า ถ้ามีอะไรผิดพลาดขึ้นมา ต้องตาย!

ไม่รอให้ยืดยาด เอฟกับพรตก็รีบไปเก็บกระเป๋า เตรียมพร้อมไปประเทศB

“สถานการณ์ของธารีเป็นยังไงบ้าง?” หลังจากเงียบไปซักพัก ทาวัตก็ถามออกมา นิ้วเรียวยาวเคาะเบาๆที่หน้าตัก แววตาดูเปลี่ยนไป ทำให้คนมองไม่ออกว่าเขาคิดอะไรอยู่

“ล้างท้องแล้ว แต่ยังอยู่ในอาการโคม่า” ปกเกศก้มหัวพร้อมตอบด้วยความเคารพ

“ตอนนี้อยู่ที่ไหน?”

“อยู่ที่คฤหาสน์ของเธอนั่นแหละครับ”

คฤหาสน์งั้นเหรอ? ริมฝีปากของทาวัตดูราวกับคนกระหายเลือด เธอมอบของขวัญที่ยิ่งใหญ่ให้เขาขนาดนี้ แล้วเขาจะยอมให้เธอมีชีวิตที่สะดวกสบายขนาดนั้นได้ยังไงล่ะ?

“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จับเธอไปขังไว้ที่ห้องใต้ดิน เธอฟื้นขึ้นมาเมื่อไหร่ให้รีบรายงานฉันโดยด่วน” เขาสั่งด้วยเสียงเยือกเย็นราวกับมีดคม

โดยเฉพาะปกเกศ ใบหน้าที่นิ่งของเขาได้แปลกไปเล็กน้อย

ห้องใต้ดินนี้ ไม่เหมือนกับคราวที่แล้ว ครั้งนี้คือห้องใต้ดินจริงๆ

หนาวเย็น อับชื้น มืดมน อับแสง รวมทุกสิ่งที่เลวร้ายอยู่ในนั้น

การขังไว้ในห้องใต้ดินที่มืดมนนั้น เป็นการลงโทษที่ร้ายแรงที่สุด การโดนขังไว้ในนั้น ก็เป็นเหมือนนักโทษที่ผิดมหันต์

ดูเหมือนว่าครั้งนี้ ธารีคงจะต้องตายจริงๆ ถึงจะใช้ยาพิษอะไร ก็ไม่มีประโยชน์หรอก

“นายน้อยครับ ตอนนี้ประเทศ B กำลังอยู่ในฤดูหนาว ตอนนี้ชายฝั่งถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ ถึงแม้ว่าเมจะพาคนไป20คน ก็หาไม่เจอหรอกครับ” หลังจากผ่านไปซักพัก เอฟก็รายงานสภาพอากาศของประเทศBให้นายน้อยฟัง

และเมก็เป็นคนกลัวหนาว แค่อากาศของประเทศCเขาก็ทนแทบจะไม่ไหวอยู่แล้ว นับประสาอะไรกับประเทศB หิมะหนาแน่นขนาดนั้น อากาศก็ติดลบ

ไม่ใช่ว่าร่างกายเขาไม่แข็งแรงแต่เขาแค่ไม่ถูกกับอากาศหนาวเท่านั้น คงจะทุกข์ทรมานน่าดู

“ก็เพราะแบบนี้แหละ ฉันถึงให้เขาไป” กวินตอบออกมาเบาๆ ถ้าบทลงโทษคือแค่ให้เขาไปตามหาคน มันจะไม่ง่ายไปหน่อยเหรอ?

อยู่ด้วยกันมานานขนาดนี้ เขาจะไม่รู้ได้ยังไงว่าเมกลัวหนาว?

เอฟกับเอเหงื่อตก รู้สึกว่าไม่ควรจะไปหาเรื่องนายน้อย เพราะไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะถึงตาของตัวเองบ้าง

คงจะไม่ได้ถูกนายน้อยหลอกหรอกใช่ไหม?

ทาวัตขมวดคิ้ว มองท่าทีของกวิน ดูเหมือนกับท่าทีของวรินทรแทบทุกอย่าง

กวินน้อยหน้าตาเหมือนเขามาก แต่ว่านิสัยกลับเหมือนวรินทรหลายอย่างมาก

ยิ่งคิดถึงวรินทรที่ไม่รู้ว่าตอนนี้จะเป็นตายร้ายดียังไง อุณหภูมิในร่างกายของทาวัตก็กลับมาเยือกเย็นอีกครั้ง หน้าเขานิ่งสนิทราวกับไม่มีอารมณ์ใดๆ

ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ทั้งหมด เขาจะตายหาให้เจอ แล้วก็จะให้พวกมัน

ตายยังดีกว่ามีชีวิตอยู่

พอกวินเห็นดังนั้นก็รู้สึกถึงบรรยากาศมาคุ ก็รีบกุมนิ้วก้อยของทาวัต พร้อมพูดด้วยเสียงเบาๆว่า “ปะป๊า เราไปหาหม่ามี๊กันเถอะ”

ถ้ายังปล่อยให้ปะป๊าเป็นแบบนี้ต่อไป เขาก็จะไม่หยุดคิดถึงหม่ามี๊ ตราบใดที่ยังหาหม่ามี๊ไม่เจอ ปะป๊าจะต้องเข้มแข็ง

“หืม?”ความสดใสของทาวัตค่อยๆกลับคืนมา รับรู้ได้ถึงอุณหภูมิอุ่นๆที่มือ อารมณ์ขุ่นมัวเมื่อกี้ค่อยๆจางหาย มองหน้าของกวินน้อยแล้วทำให้ใจของเขาอ่อนลง

“เรารออีกซักหน่อยเถอะ” ทาวัตยื่นมือไปลูบหัวของกวินน้อย แล้วก็ดูเวลา พร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

กวินน้อยเห็นทาวัตที่อยู่ดีๆก็ยิ้มออกมา ก็รู้สึกแปลกๆ

ตอนที่อยู่ในทะเล ปะป๊าก็ยิ้มแบบนี้ แล้วตอนที่ปะป๊ายิ้มแบบนี้ แสดงว่าในใจเขามีแผนอยู่แล้ว ดังนั้นเขาแค่เชื่อปะป๊าก็พอแล้ว

——

สองวันถัดมา วรินทรยังคงไม่ฟื้น ด้านนอกหิมะตกแล้ว และไม่มีแนวโน้มว่าจะหยุด แถวยังหนักขึ้นเรื่อยๆ เป็นอากาศที่หายากในประเทศนี้ ยากที่จะเจอสถานการณ์ที่หิมะตกไม่หยุดทั้งวันแบบนี้

ภายในห้องกลับอากาศอบอุ่นเหมือนอยู่ในฤดูใบไม้ผลิ ไม่หนาวเลยแม้แต่นิดเดียว

ประภาพนอนฟุบหน้าอยู่ที่เตียงของวรินทร หลายวันมานี้เขามัวแต่ดูแลเธอไม่ได้พักผ่อน ถึงแม้เป็นร่างกายที่ทำจากเหล็กก็คงจะอ่อนล้าเหมือนกัน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์