อ่านสรุป ตอนที่ 41 เทคนิคการจูบของลูกพี่เป็นอย่างไรบ้าง จาก หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์ โดย เมียวเมียว
บทที่ ตอนที่ 41 เทคนิคการจูบของลูกพี่เป็นอย่างไรบ้าง คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายโรแมนซ์ หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย เมียวเมียว อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
ตอนที่ 41 เทคนิคการจูบของลูกพี่เป็นอย่างไรบ้าง
ตั้งแต่เล็กจนโตธรรศยังไม่เคยโดนใครทำร้ายร่างกายหนักขนาดนี้มาก่อน โดยเฉพาะอีกฝ่ายเป็นแค่ผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งด้วยแล้ว
ความภาคภูมิใจของไอ้ธรรศถูกทำลายแทบไม่เหลือชิ้นดี
ใบหน้าของมษยาหวาดกลัวจนซีดเผือดไปหมด หญิงสาวคิดไม่ถึงว่าอารมณ์เพียงชั่ววูบของตัวเองจะนำเรื่องยุ่งยากมาให้เธอขนาดนี้
อีกอย่างคนกลุ่มนี้ก็ดูจะมีอิทธิพลมากอีกด้วย
เธอเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศแค่วันเดียวก็หาเรื่องใส่ตัวเข้าเสียแล้ว ทำไมเธอถึงได้เป็นคนดวงจู๋ขนาดนี้นะ!
แถมตอนนี้เธอยังโดดเดี่ยวไร้พรรคพวกอีกด้วย ในตอนนั้นเองที่มีเสียงนุ่มๆของใครบางคนลอยมาจากด้านหลังเธอ “ขออภัยที่ต้องเสียมารยาทกับทุกคนด้วยนะครับที่น้องสาวผู้ดื้อรั้นของผมทำเรื่องไว้หายนะขนาดนี้ ได้โปรดอย่าถือสาเธอเลยนะครับ”
ใบหน้าซีดเผือดของมษยาเปลี่ยนเป็นดีใจ เธอรีบหันหน้าไปมองต้นเสียงอย่างรวดเร็ว
ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งค่อยๆเดินออกมาจากมุมห้อง เขาสวมใส่เสื้อสูทสีขาวทั้งตัว รองเท้าสีดำเงา ร่างกายของชายหนุ่ม
แสดงออกถึงความสง่างามและมีออร่า เปล่งประกายราวกับพระอาทิตย์ขนาดย่อมๆเลยทีเดียว แม้ว่าชายหนุ่มจะไม่ได้ยิ้มแต่ก็สามารถรู้สึกถึงความอบอุ่นจากเขาได้ไม่ยาก
เขาเป็นหนุ่มรูปงามคนหนึ่งเลยล่ะ เหมือนนายแบบในนิตยสารชื่อดังอย่างไรอย่างนั้น เป็นเสน่ห์ที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร เป็นผู้ชายที่หล่อทุกสามร้อยหกสิบองศาจริงๆ
ตอนที่เห็นหน้าของผู้ชายคนนี้ครั้งแรก วรินทรรู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตาอีกฝ่ายมาก แต่ว่าใบหน้าแบบนี้ เธอไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน
“พี่คะ!” มษยาร้องอย่างดีใจก่อนวิ่งเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของชนุตร์
ชนุตร์ตกใจอยู่บ้างแต่มือหนาของเขาก็ยกขึ้นมาลูบหัวเธอเบาๆ เขามองไปที่ทาวัตที่ยืนล้วงกระเป๋าอยู่ข้างหน้าเขาด้วยดวงตาที่เป็นประกายวาบ
ทาวัตรับรู้ถึงสายตาที่ชนุตร์มองมาที่เขาอย่างเปิดเผย เขาขมวดคิ้วก่อนจะมองตอบด้วยดวงตาเย็นยะเยือก
“ไม่จำเป็นต้องขออภัยหรอกครับ ขอโทษก็พอ” นรชัยจ้องหน้าชนุตร์อยู่หลายวินาที แม้แต่ธรรศเองก็ยังจ้องอีกฝ่ายเช่นกัน
ในเวลาแบบนี้เขาก็ไม่คิดจะเสียเวลาลงไปทะเลาะกับผู้หญิงคนนี้อีก
มษยามองหน้าชนุตร์อย่างขอความเห็นใจ ใบหน้าของหญิงสาวฉายแววไม่ยินยอม แต่ท้ายที่สุดร่างเล็กก็เดินไปข้างหน้าธรรศอย่างมั่นคงและนิ่งสงบ “เรื่องเมื่อสักครู่ฉันขอโทษคุณจริงๆนะคะ ขอโทษด้วยค่ะ”
ใบหน้าของธรรศดำคล้ำ เขาไม่ได้รู้สึกดีขึ้นกลับคำขอโทษของมษยาเลยสักนิด ไอ้ผู้หญิงคนนี้ ใบหน้าของเธอไม่ได้รู้สึกผิดต่อเขาเลยด้วยซ้ำเหมือนเธอแค่ต้องการขอโทษให้ปัญหามันจบๆไปก็เท่านั้น
“ไม่เป็นไรครับ แค่รีบพาผู้หญิงคนนี้ออกไปให้ไกลจากสายตาผมก็พอ” ธรรศเผยรอยยิ้มเย้ยหยัน เขามองมษยาเหมือนกับมองดูผู้ป่วยที่ยังไม่ได้ทานยาอย่างไรอย่างนั้น
เขาจะถือเสียว่าวันนี้ได้รับประสบการณ์แปลกใหม่ก็แล้วกัน ผู้หญิงที่ดูดีไม่จำเป็นต้องเป็นกุลสตรีเสมอไป บางทีพวกเธอยังปากร้ายอีกด้วย
มษยาโกรธจนหน้ามืดไปหมด เธอยังอยากพูดอะไรออกมาอีกแต่ชนุตร์กลับดึงเธอไว้เสียก่อน ทำให้เธอไม่มีทางเลือกนอกจากยอมล่าถอยแต่โดยดี
“งั้นก็ขอบคุณมากนะครับ” ชนุตร์เผยรอยยิ้มน้อยๆออกมาก่อนจะดึงร่างเล็กของมษยาให้ตามเขาออกไป
ในช่วงที่เขาเดินผ่านร่างของวรินทร ความโค้งของริมฝีปากของเขาดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นมาทันที รอยยิ้มนั้นเหมือนแสงอาทิตย์ที่สว่างไสวทำให้คนมองรู้สึกอบอุ่น
ทำเอาวรินทรตาพล่าเล็กน้อย ร่างกายของเธอหันกลับไปมองสองพี่น้องอย่างไม่รู้ตัวจนกระทั่งร่างของทั้งสองหายออกไปจากสายตา จิตใจของเธอว้าวุ้นไปหมด เธอคุ้นหน้าผู้ชายคนนั้นจริงๆนะเนี่ย
“พี่คะ พี่รู้ไหมว่าว่าผู้ชายเมื่อครู่เขาเป็นโรคจิตจริงๆนะคะ! ทำไมยังต้องให้ฉันขอโทษเขาด้วย” มษยาดึงแขนชนุตร์อย่างกระเง้ากระงอด หญิงสาวยู่ปากอย่างไม่พอใจ
“น้องนี่นะ ทำไมซนขนาดนี้ พี่คลาดสายตาแปปเดียวก็หายไปแล้ว” ชนุตร์เอื้อมมือไปบีบจมูกรั้นของน้องสาวด้วยความหมั่นไส้ น้ำเสียงนุ่มๆของเขาอ่อนโยนเหมือนสายน้ำต่างจากสถานการณ์เมื่อครู่ราวกับคนละคน
แม้ว่าจะเป็นโทนเสียงนุ่มๆเหมือนกันแต่ฟังอย่างไรก็แตกต่างกันอยู่มาก
“เอ่อ พี่คะ แล้วผู้หญิงที่พี่อยากเจอ พี่พบเธอแล้วหรือยังคะ” มษยาถามชนุตร์ขึ้นอย่างแปลกใจ เธอรู้มาว่าชนุตร์มีผู้หญิงที่
เขาชอบมากอยู่คนหนึ่ง ตอนที่พี่ชายของเธอเรียนอยู่ที่อังกฤษเขามักจะนั่งจ้องรูปถ่ายของผู้หญิงคนหนึ่งอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเช้ากลางวันเย็น ดังนั้นมษยาจึงมั่นใจมากว่าพี่ชายของเธอต้องตกหลุมรักผู้หญิงคนนั้นแน่ๆ
แต่เธอก็ไม่รู้ว่าเป็นคนงามมาจากบ้านไหนถึงได้มีความสามารถทำให้พี่ชายของเธอหลงใหลได้ปลื้มถึงขนาดนี้
“ฮ่าฮ่าฮ่า ฉันก็รู้อยู่แล้วว่าฉันยังต้องเหลือความดวงดีไว้อยู่บ้าง เร็วเขา พวกนาย เปิดแพ่ออกมาเดี๋ยวนี้!” ธรรศยิ้มหัวเราะ
ออกมาเสียงดัง เขาชี้ไม้ชี้มือไปที่สี่คนตรงข้าม เขามีความสุขจนหัวเราะออกมาเสียงดัง
วรินทรเม้มปาก เธอแอบชำเลืองมองไพ่ในมือของทาวัต ในใจก็ภาวนาว่าเธอคงไม่ได้ดวงซวยขนาดนั้นหรอกใช่ไหม
เมื่อไพ่ในมือถูกวางลง วรินทรถึงกับอ้าปากค้าง ถ้าวันนี้เธอซื้อล็อตเตอรี่ต้องถูกโชคครั้งใหญ่แน่นอน
สองโพดำ! ในมือของเธอคือแปดโพดำ เป็นดอกเดียวกันพอดี
ทันใดนั้นในหัวของวรินทรก็นึกถึงคำพูดที่ผู้ใหญ่สอนสืบต่อกันมา กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นคืนสนอง
เธอได้แต่หวังว่าธรรศจะไม่สั่งให้เธอออกไปกอดจูบลูบคลำต้นไม้ใหญ่ข้างนอกก็พอ...
“เทคนิคการจูบของรุ่นพี่พวกเราเป็นอย่างไรบ้าง?” ดวงตาของธรรศเป็นประกายระยิบระยับราวกับดวงดาวยามที่เขามองเห็นไพ่ของทั้งสองคนมีดอกเดียวกัน
วรินทรกระแอมไอ ในหัวนึกไปถึงรสจูบของเขาในวันนั้นที่ชายหนุ่มเมาก่อนจะเม้มปากตอบออกมาแผ่วเบา “ก็เฉยๆ”
คำพูดธรรมดาเพียงสามคำทำให้สีหน้าของทาวัตหมองคล้ำลง ดวงตาคมจ้องไปที่วรินทรนิ่งๆแต่ฉายแววลึกล้ำ
นรชัยรู้สึกว่าตัวเขาเองควรขยับออกห่างจากทาวัตสักหน่อย แต่การทำเช่นนั้นก็เท่ากับว่าร่างสูงของเขาขยับเข้าไปใกล้คาร่ามากขึ้น เพราะความใกล้ชิดที่เกิดขึ้นทำให้เธอได้กลิ่นน้ำหอมของเขาได้ชัดขึ้น ใบหน้ารูปไข่ของหญิงสาวแดงก่ำ
“ตลอดห้าปีที่ผ่านมาตอนเธอใช้ชีวิตอยู่ข้างนอก เธอคิดถึงใครมากที่สุด?” ธรรศยังคงถามต่อไป แม้ว่าเขาจะเมาอยู่แต่
ชายหนุ่มก็ยังรู้สึกได้ถึงสายตากดดันจากทาวัตได้ สายตาคมที่มองเขาเหมือนกับจะยิงให้เป็นพรุนทำให้เขาไม่กล้าถามคำถามที่รุนแรงเกินไปนัก
คาร่าหันมามองวรินทรอย่างแปลกใจ ในฐานะที่เธอเป็นเพื่อนรักคำตอบย่อมต้องเป็นทาวัตอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ช่วงเวลาห้าปีที่ผ่านมาคำตอบจะยังเหมือนเดิมไหมนะ?
ทาวัตถือแก้วไวน์ไว้ในมือ ใบหน้าของชายหนุ่มยังคงเฉยเมยไม่แสดงออก ดวงตาคมเหลือมองใบหน้าด้านข้างของวรินทรที่ตอนนี้ทำสีหน้าลำบากใจ ในใจของเขาก็รู้สึกตื่นเต้นและคาดหวังอยู่บ้าง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์
ก็รู้นี่นาว่าตอนที่หายไปกำลังท้อง ทำไมไม่ถามถึงเด็ก...