สรุปตอน ตอนที่ 40 คนโรคจิตอารมณ์ร้าย – จากเรื่อง หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์ โดย เมียวเมียว
ตอน ตอนที่ 40 คนโรคจิตอารมณ์ร้าย ของนิยายโรแมนซ์เรื่องดัง หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์ โดยนักเขียน เมียวเมียว เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
ตอนที่ 40 คนโรคจิตอารมณ์ร้าย
ที่แท้มันก็เป็นเพียงแค่การเล่นเกมส์เท่านั้น
“ไม่ต้องคิดมากหรอกค่ะชัย ฉันไม่เก็บมันมาคิดหรอก” คาร่าทำทีเป็นยิ้มแย้มแต่แสงไฟในห้องก็ทำให้เห็นว่าใบหน้าเธอซีดเผือดไม่น้อย
นรชัยพยักหน้ารับแผ่วเบา
เมื่อธรรศล้างไพ่เสร็จก็เริ่มแจกไพ่ใหม่อีกครั้ง ครั้งนี้คนที่เป็นคิงไม่ใช่เขาอีกแล้วและไพ่ในมือของเขาก็คือหกโพแดง
วรินทรมองไพ่ในมือของตัวเองก็เม้มปากอย่างขัดใจก่อนจะเหลือบไปเห็นไพ่ในมือของทาวัต ดวงตากลมของเธอก็เป็น
ประกายไพ่คิงนี่นา
เธอรีบแย่งไพ่ในมือของทาวัตก่อนยัดไพ่ของเธอใส่มือของเขา จากนั้นก็โยนไพ่ลงบนโค๊ะทันที “ขอโทษนะคะ ฉันเป็นคิง!”
ทาวัตประหลาดใจก่อนที่จะค่อยๆผุดรอยยิ้มขำขันออกมา มือหนาของเขาโยนไพ่ในมือลงบนโต๊ะ
รอบนี้มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ นรชัยได้คู่กับธรรศเสียนี่
“หนูริน เธออย่าคิดว่าฉันมองไม่เห็นนะว่าเมื่อครู่เธอเป็นคนแย่งไพ่มาจากมือพี่ชายของพวกเราน่ะ!” ธรรศกัดฟันชี้หน้าวริ
นทร
“ใครว่ากันล่ะ มีพยานหรือไงคะ?” วรินทรลอยหน้าลอยตาจ้องมาที่เขา
“ใครว่าไม่มีล่ะ พี่ ชัย เมื่อครู่พวกนายก็เห็นใช่ไหม?” ท่าทางของธรรศดูร้อนรน ราวกับว่าเขาสังหรณ์ใจได้ว่าวรินทรที่ได้คิงรอบนี้จะแกล้งเขา!
ใจใจของวรินทรเหมือนมีกลองรัวอยู่ในนั้น เธอมองไปที่ทาวัตอย่างคาดหวังปนออดอ้อนว่าเขาจะไม่หักหลังเธอใช่ไหม
ทาวัตพิงหลังลงกับโซฟาด้วยท่าทางสบายๆ ชายหนุ่มคีบบุหรี่ไว้ระหว่างนิ้วมือริมฝีปากพ่นควันออกมาเบาๆ ดวงตาคมปรายตามองธรรศแวบหนึ่ง “ไม่เห็น”
เขาพูดออกมาแค่สองคำก็ไม่มีใครกล้าว่าอะไรเขาได้
วรินทรถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เหลือบตามองเขาอย่างซุกซนและยิ้มหวานให้
ใบหน้าเล็ก ๆ ที่บอบบางนั้นเปรียบเสมือนดอกไม้ ดวงตาพราวระยับเหมือนมีดาวส่องประกายอยู่ในนั้น จมูกโด่งรั้นเชิดขึ้น
น้อยๆ ริมฝีปากอิ่มนิ่มหยุ่นเหมือนวุ้น เวลายิ้มออกมาทำให้โลกของเขารู้สึกสดใส
นรชัยส่ายหัวอย่างระอา ก่อนหันมามองธรรศด้วยสายตา ‘ทำไมถึงได้โง่อย่างนี้นะ’ ลูกพี่ของพวกเขาไม่ช่วยผู้หญิงของตัวเองแล้วจะมาช่วยนายหรือไงล่ะ? ตัวก็โตแต่สมองดันไม่โตตาม
“ฉันก็ไม่เห็น” นรชัยส่ายหน้าปฏิเสธ
ธรรศทำสีหน้าตะลึง นี่เขากำลังถูกสองคนนี้รวมหัวกันทรยศสินะ
วรินทรแกล้งเลิกคิ้วทำสีหน้าครุ่นคิดก่อนพูดขึ้น “เดินออกไปข้างนอกหาเสาต้นหนึ่ง จูบไปด้วยบอกรักไปด้วยเป็นเวลาห้า
นาที!”
อะไรนะ?!
ธรรมทำสีหน้าไม่เชื่อหูตัวเอง บอกไปใครเขาจะเชื่อว่าคุณชายใหญ่ของบริษัท EA กรุ๊ปจะถูกผู้หญิงคนหนึ่งเล่นงานได้
แถมยังเปล่าเปลี่ยวจนถึงขั้นหาเสาเพื่อระบาย?!
“พี่...” ธรรศทำหน้าสงสารใส่ทาวัต ชายหนุ่มคงไม่เห็นเขาแล้วไม่ช่วยหรอกใช่ไหม
ทาวัตพ่นควันบุหรี่อย่างสบายใจพลางยิ้มน้อยๆ “เด็กดี ลูกผู้ชาย กล้าท้าคนอื่นก็ต้องยอมรับคำท้าให้ได้นะ”
ธรรศโมโหจนลุกขึ้น “คิดว่ากำลังพูดกับเด็กตัวเล็กๆอยู่หรือไง?!”
จากนั้นเขาก็เดินกระฟัดกระเฟียดออกจากห้องไป
เมื่อผ่านไปห้านาทีประตูห้องก็ถูกเปิดออกอีกครั้ง ธรรศเดินเข้ามาในห้อง ชายหนุ่มจมูกแดงใบหน้าเขียว ดวงตาของเขา
มองไปรอบๆเหมือนหาอะไรสักอย่างก่อนจะหยิบสเปรย์สีขึ้นจากพื้นแล้วเดินออกไปอีกครั้ง
วรินทรรู้สึกชื่นชมผู้หญิงคนนี้จากใจจริง ในใจก็ชื่นชมว่าเตะได้ดี ทั่วทั้งประเทศ C จะมีผู้หญิงสักกี่คนที่กล้ารังแกคุณชายใหญ่อย่างธรรศ
คาร่าชำเลืองมองวรินทรครั้งหนึ่ง เธอมีความรู้สึกแปลกๆ เหมือนกับว่าผู้หญิงสองคนนี้มีนิสัยคล้ายๆกันอย่างไรไม่รู้...
“บ้าเอ้ย! ผู้หญิงอย่างเธอกล้าดีอย่างไรมาเตะฉัน! คอยดูว่าฉันกล้าโยนเธอออกไปจากที่นี่...อ้าก! ยายผู้หญิงบ้า เธอเตะ
ไปที่ไหนกัน? รีบเก็บขาสั้นๆของเธอกลับไปเดี๋ยวนี้ เธอรู้ไหมว่าฉันคือใคร หา?!” ธรรศสงเสียงร้องออกมาอย่างน่าสงสาร เขาไม่เคยลงไม้ลงมือกับผู้หญิงมาก่อนแต่ผู้หญิงน่าตายคนนี้มันน่าโยนออกไปจากที่นี่นัก
เสียงรบกวนที่นี่ทำให้ผู้จัดการรีบวิ่งมาดู ตอนที่ผู้จัดการร้านกำลังจะมาฟ้ามทัพก็ถูกนรชัยหยุดไว้เสียก่อน
เขายังอยากมองดูท่าทางโมโหของธรรศอีกหน่อย เปิดหูเปิดตามากเลย
“พอได้แล้ว” ทาวัตเอ่ยขึ้นมาด้วยสีหน้าเรียบเฉย น้ำเสียงและอานาจท่าทางของเขาทำให้ทุกคนที่อยู่ที่นี่หยุดและเงียบลง
ทันที
ขนาดมษยาที่กำลังจะลงมือเตะธรรศซ้ำอีกครั้งก็ถึงกับหยุดชะงัก หญิงสาวมองมาที่ทาวัตอย่างอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหวาดกลัว
ผู้ชายคนนี้น่ากลัวจังเลย ดวงตาคมของเขาเย็นชาเป็นบ้า แม้แต่ลมหายใจของมษยายังรู้สึกติดขัดหายใจลำบาก
“คุณผู้หญิงคนนี้ ถ้าเขาทำอะไรเสียมารยาทกับคุณก็บอกพวกเรามาเถอะครับ พวกเราจะจัดการเขาให้คุณแน่นอน” นรชัยเดินไปดึงร่างสูงของธรรศที่นั่งกองอยู่กับพื้นให้ลุกขึ้นก่อนจะเอ่ยเสียงเย็น
ทำอะไรเสียมารยาทกับเธองั้นหรือ? มษยาชะงักกึก
เขาก็แค่กอดจูบลูบคลำเสาแล้วเธอมาเจอเข้าโดยบังเอิญเท่านั้น เขา...ไม่ได้ทำอะไรเธอเลยด้วยซ้ำ
แต่เธอกลับเป็นคนทำร้ายเขาก่อน?!
มษยาขมวดคิ้วทันทีและหลุบตาลง ท่าทางแบบนั้นอยู่ในสายตาของทาวัต เขาเห็นมันได้อย่างชัดเจน
“ถ้าคุณไม่มีเหตุผลที่ดีมอบให้กับพวกเรา งั้นพวกเราจะแจ้งความข้อหาทำร้ายร่างกายนะครับ” ทาวัตเอ่ยออกมาเนิบๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์
ก็รู้นี่นาว่าตอนที่หายไปกำลังท้อง ทำไมไม่ถามถึงเด็ก...