สรุปตอน ตอนที่ 45 ให้ผมดูแลคุณ – จากเรื่อง หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์ โดย เมียวเมียว
ตอน ตอนที่ 45 ให้ผมดูแลคุณ ของนิยายโรแมนซ์เรื่องดัง หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์ โดยนักเขียน เมียวเมียว เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
ตอนที่ 45 ให้ผมดูแลคุณ
“คุณ คุณชาย ผมคงไม่ได้มาสายใช่ไหมครับ?” สไรท์เตอร์ดันแว่นที่ตกลงมาที่จมูกขึ้นไปให้อยู่ตำแหน่งเดิมของมัน
ทาวัตพยักหน้าอย่างเฉยชาก่อนจะหันกายเดินกลับไปทำให้สไรท์เตอร์ต้องรีบวิ่งตามเข้าไปทันที
สไรท์เตอร์เป็นคุณหมอประจำตัวของทาวัตเขามีหน้าที่รับผิดชอบดูแลสุขภาพให้กับชายหนุ่มคนนี้ ทุกเดือนเขามีหน้าที่
เดินทางไปที่คฤหาสน์เพื่อตรวจร่างกายของทาวัตเป็นประจำ ในกรณีฉุกเฉินทาวัตก็สามารถโทรแจ้งและเรียกพบเขาได้ทุกเมื่อ
แต่สไรท์เตอร์นึกไม่ถึงจริงๆว่าเขาจะถูกทาวัตเรียกตัวมาในช่วงกลางดึกขนาดนี้ ทั้งยังเป็นช่วงจังหวะที่เขากำลังพลอดรัก
อยู่กับภรรยาอีกด้วย ในตอนนั้นชายหนุ่มรีบลุกขึ้นจากเตียงสวมใส่เสื้อผ้าแล้วก็วิ่งออกมาทันทีเลยด้วยซ้ำ
นี่เป็นครั้งแรกที่ทาวัตเรียกตัวเขามาดูอาการคนป่วยนอกตัวคฤหาสน์ของชายหนุ่ม
สไรท์เตอร์เป็นหมอหนุ่มชาวอังกฤษก็จริง แต่การที่เขาออกจากบ้านแต่งเนื้อแต่งตัวไม่เรียบร้อยออกจากบ้านมาสภาพ
แบบนี้เป็นครั้งแรกในชีวิตของหมอหนุ่ม
เมื่อเขาวัดอุณหภูมิร่างกายของวรินทรเสร็จก็จัดการจ่ายยาให้หญิงสาว
“นี่คือยาใช้ภายนอกนะครับ ติดที่หน้าผากประมาณครึ่งชั่วโมงไข้ก็คงจะลด ส่วนตัวนี้เอาไว้ทานนะครับ มีเขียน
รายละเอียดไว้ที่หน้าซองแล้วนะครับ” น้ำเสียงภาษา C แปร่งๆของสไรท์เตอร์ทำให้วรินทรเกือบจะหลุดหัวเราะออกมาแต่โชคดีที่เธอ
ยังกลั้นมันไว้ได้
แต่ตอนนี้เธอรู้สึกดีขึ้นแล้วมากจริงๆ
เมื่อสไรท์เตอร์กลับไปแล้ว ทาวัตก็จ้องมองแผ่นเจลลดไข้อยู่นานก่อนจะลอกแผ่นพลาสติกออกใช้นิ้วคีบมันไว้ในมือแล้ว
จัดการเลิกเสื้อของวรินทรขึ้นจากนั้นก็แปะแผ่นเจลลดไข้ไว้ที่หน้าท้องของเธอ
วรินทรทำหน้าเหลอหลา ทำไมเขาถึงเอามันมาแปะที่พุงของเธอล่ะ?
“เอ่อ ทาวัตคะ ดูเหมือนคุณจะแปะผิดนะ...” วรินทรลุกขึ้นมาหยิบแก้วน้ำที่วางไว้ข้างๆขึ้นมาจิบ คิดถึงตำแหน่งพุงน้อยๆ
ของเธอที่เขาแปะแผ่นเจลลดไข้ก็รู้สึกกระดากอายขึ้นมา
“หืม?” ทาวัตหยิบขวดยาที่สไรท์เตอร์จ่ายไว้ให้ก่อนจะอ่านรายละเอียดที่อยู่บนหน้าขวด
“นี่มันไว้ติดที่หน้าผากนะคะ ไม่ใช่ที่ท้องสักหน่อย” วรินทรทำปากจู๋ เธอไม่ได้ปวดท้องสักหน่อยเขาจะเอาแผ่นเจลมาแปะ
ไว้ที่หน้าท้องของเธอทำบ้าอะไร?
มือของทาวัตที่ถือขวดยาอยู่ชะงัก ใบหน้าหล่อเหลาของเขาทำหน้าพิกล จากนั้น...
เขาก็จัดการเลิกเสื้อของเธออีกครั้งและลอกแผ่นเจลลดไข้ตรงหน้าท้องของหญิงสาวไปแปะบนหน้าผากของเธอ
เสียง ‘แปะ’ ดังขึ้นพร้อมกับน้ำหนักที่กดลงมาบนหน้าผากของเธอจนแผ่นเจลติดแน่น
วรินทรผิดตาลงอย่างอ่อนแรงในใจรู้สึกว้าวุ่นเป็นที่สุด ก็จริงนะเธอจะมาหวังให้คุณชายอย่างเขาบอกความแตกต่าง
ระหว่างเกลือกับน้ำตาลได้อย่างไรกันล่ะ?
ทาวัตเปิดขวดยาในมือก่อนส่งให้วรินทร “กินสิ”
วรินทรมองเม็ดยาสีประหลาดที่อยู่ในขวด เธอกลืนน้ำลายอย่างฝืดคอ ยานี่กินไปแล้วคงไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม?
เธอไม่ได้เป็นห่วงเรื่องยาของคุณหมดสไรท์เตอร์หรอก เพราะเธอค่อนข้างมั่นใจในจรรยาบรรณของเขา แต่เธอมีปัญหากับ
ท่าทางที่เป็นห่วงเป็นใยของทาวัตมากกว่า...
วรินทรค่อยๆเอื้อมมือไปรับขวดยามาถือไว้ในมือก่อนจะหายใจฟืดฟาดเพราะตอนนี้น้ำมูกเริ่มไหลออกมาจนเธอเริ่ม
หายใจลำบากมากขึ้น
ทุกครั้งที่วรินทรเกิดจับไข้ได้ป่วยขึ้นมาเธอจะยอมกินยาอย่างไม่เกี่ยงงอนเลยสักนิดต่อให้ยาจะขมแค่ไหนก็ตาม อย่างไร
มันก็เทียบไม่ได้กับสุขภาพของเธอ
ครั้งนี้ก็เช่นกัน
อาจจะเป็นเพราะฤทธิ์ยาที่ทำให้สติที่แจ่มใสของหญิงสาวค่อยๆพร่าเบลอทีละน้อย ความง่วงงุนเริ่มถาโถมเธอทีละน้อย
จมูกของเธอก็เริ่มหายใจคล่องมากขึ้น เพียงไม่นานเธอก็หลับไปในที่สุด
เมื่อทาวัตเห็นว่าหญิงสาวหลับไปแล้วเขาก็ค่อยๆผุดลุกขึ้นก่อนจะเดินไปหยุดอยู่ตรงกลางระหว่างห้องของวรินทรและห้อง
ของกวิน
เขาเดินไปทางห้องกวินก่อนจะพบว่าห้องห้องนี้ถูกล็อคไว้เหมือนปิดตายจึงเปลี่ยนใจเดินไปทางห้องของวรินทรที่ไม่ได้ถูก
ล็อคไว้จากนั้นก็เปิดประตูเข้าไปในห้อง
แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไรวรินทรจึงไม่ได้รู้สึกร้อนใจและรีบเร่งไปอาบน้ำแต่งตัวเพื่อเข้างานเลยแม้แต่น้อย แต่เธอกลับค่อยๆ
เดินเอ้อระเหยไปอาบน้ำแปรงฟันจากนั้นก็เดินออกมาแต่งตัวด้วยท่าทางสบายๆ จนเวลาใกล้จะสิบเอ็ดโมงเข้าไปแล้ว
เธอเช็ดผมพลางเดินออกมานั่งลงบนโซฟา
เสียงกุกกักที่ดังมาจากข้างนอกทำให้มือที่กำลังเช็ดผมอยู่ชะงัก ริมฝีปากของเธอเม้มแน่ก่อนจะเดินออกไปพร้อมผ้าเช็ดตัว
ที่อยู่ในมือ
หรือว่าเขาจะยังไม่กลับไป?
วรินทรเดินออกมาก่อนจะพบว่าเสียงนั้นดังออกมาจากในครัว ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะเดินไปดูก็มีใครบางคนเดินออกมา
จากในครัวเสียก่อน คนนั้นก็คือป้าฉายนั่นเอง
“คุณวรินทรตื่นแล้วหรือคะ มาค่ะรีบมาทานมื้อเที่ยงก่อนเร็วสิคะ” ป้าฉายเดินออกมาพร้อมกับชามลายครามขนาดใหญ่
ในมือ เมื่อเห็นวรินทรออกมาจากห้องนอนแล้วก็ส่งยิ้มอบอุ่นให้หญิงสาว
“ทำไมป้าฉายมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะคะ?” วรินทรยืนงงอยู่สักพักจึงจะถามขึ้น
“คุณชายบอกว่าคุณป่วยน่ะค่ะ เลยให้ดิฉันมาดูแลคุณ” ป้าฉายลงมือจัดจานอาหารวางลงตรงหน้าเธออย่างสวยงาม
ก่อนเดินไปหยิบขวดยาที่ทาวัตมอบมันไว้ให้กับเธอเพื่อมอบหมายให้วรินทรกินยาให้ตรงเวลา “ทานข้าวก่อนนะคะแล้วค่อยทานยา
คุณวรินทรรู้สึกดีขึ้นหรือยังคะ?”
วรินทรพยักหน้า ดวงตากลมโตของหญิงสาวหลุบตาลงจึงไม่เห็นว่าเธอพูดด้วยความรู้สึกแบบไหน “ดีขึ้นมากแล้วค่ะ
ขอบคุณมากนะคะป้าฉาย”
“คุณนี่ล่ะก็ ขอบคุณคุณชายดีกว่านะคะ” ป้าฉายรีบร้อนพูดจาความดีความชอบให้คุณชายของเธอทันที “คุชายให้คุณ
อยู่บ้านพักผ่อนจนกว่าจะหายดีก่อนนะคะถึงจะไปทำงานได้ตามปกติ”
“ทราบแล้วค่ะ” วรินทรไม่ได้รับรู้สึกดีใจจากคำพูดเหล่านี้เลยสักนิดในทางตรงกันข้ามเธอกลับรู้สึกถึงความขมขื่นเสียด้วย
ซ้ำ
ถ้าเพียงแต่เธอลืมตาขึ้นมาเจอเขาสักนิดต่อให้เขาจะด่าเธอว่าโง่เหมือนเคยเธอก็คงไม่รู้สึกแย่นักหรอก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์
ก็รู้นี่นาว่าตอนที่หายไปกำลังท้อง ทำไมไม่ถามถึงเด็ก...