ตอน ตอนที่ 143 มันต้องตาย ! (ต้น) จาก หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
ตอนที่ 143 มันต้องตาย ! (ต้น) คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายกำลังภายใน หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์ ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
บทที่ 143 มันต้องตาย ! (ต้น)
กู่มู่ชะงักงัน !
ผู้ที่เพิ่งปรากฏกายออกมาเบื้องหน้าเขามิใช่ใคร อาจารย์ใหญ่จี้ อาจารย์ใหญ่แห่งสถานศึกษาฉางหลานนั่นเอง
อีกฝ่ายชำเลืองมองอาจารย์ใหญ่จี้พลางเหยียดมุมปากเชิงเยาะหยัน เขาทำท่าอ้าปากเพื่อพูดบางอย่าง ฉับพลันอาจารย์ใหญ่จี้ก็ได้อันตรธานไปต่อหน้า
ผัวะ !
ท่ามกลางสายตาทุกคู่ พวกเขาเห็นกับตาเมื่อร่างของกู่มู่กระเด็นห่างออกไปไกลกว่าสามสิบจั้ง !
ทุกคนตกตะลึงชะงักงัน
กู่มู่ คนผู้นี้นั้นมีพลังกล้าแกร่งอยู่ในขั้นผสานเทพ !
ชายชราผู้ที่เพิ่งถูกปะทะออกไปขยับลุกขึ้น สีหน้าบ่งบอกว่าตกใจไม่น้อย “เจ้า… ทำไมเจ้าจึง…”
ในแคว้นเจียงนี้ เขานับเป็นผู้กล้าแกร่งในพลังขั้นผสานเทพ อีกทั้งพลังยังแข็งแกร่งมากที่สุดคนหนึ่ง ทว่าตอนนี้พลังปะทะของเขากลับล้มเหลวด้วยอาจารย์ใหญ่จี้ขยับออกเพียงก้าวเดียว
ทันใดนั้นอาจารย์ใหญ่จี้ก้าวเท้าออกไปข้าวหน้า ฉับพลันร่างได้มาปรากฏเบื้องหน้ากู่มู่
ระยะห่างสามสิบจั้ง เขากลับก้าวเพียงหนึ่งก้าวเท่านั้น !
ร่นระยะทาง !
ตัวกู่มู่เอง เมื่อเขาเห็นเช่นนั้นสีหน้าพลันตระหนกอย่างเห็นได้ชัด น้ำเสียงที่พูดแฝงความหวาดกลัวเจือ ในนั้น “เจ้ามิได้เป็นเพียงขั้นผสานเทพ…”
ผัวะ !
ชายชราไม่มีโอกาสจบประโยค เพราะร่างทั้งร่างปลิวหวือไปในอากาศ
อาจารย์ใหญ่จี้ฉวยไหสุราจากแขวนที่เอวขึ้นดื่มอั้ก จากนั้นพุ่งหมัดกระแทกออกในระยะไกล
ตู้ม !
แรงสะท้านนั่นสะเทือนตลอดจนที่ว่างในอากาศ !
ร่างกู่มู่ซึ่งลอยละลิ่วสีหน้าแปรเปลี่ยนโดยสิ้นเชิง แรงผลักดันแห่งพลังชี่กระแทกร่างจนสั่นคลอน ทันทีที่ปรากฏแรงผลักกลับจางหายไปราวหมอกควัน ขณะนั้นเองมันก็ได้เกิดรูกลวงบริเวณหน้าอก ก่อนที่ร่างจะ กระแทกกับสันเขา ซึ่งอยู่ไม่ไกลทางด้านหลังอย่างรุนแรง
กลุ่มศิษย์ในลานต่างอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง !
ร่างของกู่มู่ตกลงบนพื้น สายตาจ้องเขม็งที่อาจารย์ใหญ่จี้จากระยะไกล “เจ้า… เจ้าปิดบังความกล้า แกร่งไว้อย่างมิดชิด…”
อาจารย์ใหญ่จี้ไม่ได้ใส่ใจต่อกู่มู่ที่กำลังจะสิ้นชีพ ชายชราหันกลับมาทางเยี่ยฉวน ซึ่งในเวลานั้นก็ได้มี คนอีกสองคนถลันเข้าไปหาชายหนุ่ม
สองคนที่ว่าคือโม่อวิ๋นฉีและไป๋เจ๋อ
ทันทีที่เห็นสภาพของเยี่ยฉวน คนทั้งสองหน้าซีดเผือด
สภาพของเยี่ยฉวนในเวลานี่ปรากฏบาดแผลทั่วร่างกาย นอกจากนั้นมุมปากยังมีโลหิตสดไหลซึมไม่ หยุด หนำซ้ำยังไม่มีทีท่าจะหยุดเสียด้วย !
ชัดเจนว่าเขามิได้สาหัสเฉพาะภายนอก ทว่าบอบช้ำภายในเช่นกัน !
เมื่อเห็นว่าทั้งสี่คนมุ่งหน้าเข้าหากลุ่มศิษย์ฉ่างมู่ อาจารย์ใหญ่จี้นิ่งคิดนิดหนึ่งก่อนจะหันไปทางหลีซิ่ว และคนอื่นซึ่งยืนไม่ห่างออกไป “พวกเจ้าคนไหนที่ขั้นพลังเหนือกว่าทะยานสวรรค์ ถ้ากล้าออกมาเมื่อไหร่เป็นได้ตายแน่ !”
ฉับพลันที่ได้ยินวาจาของอาจารย์ใหญ่จี้ หลีซิ่วพลันหน้าบูดบึ้งงอง้ำ เขาหันไปถามชายชราที่ยืนใกล้ว่า “ท่านแจ้งอาจารย์ใหญ่แล้วหรือไม่ ?”
ชายชราพยักหน้า “อาจารย์ใหญ่กำลังจะมาถึงภายในเวลาหนึ่งถ้วยชา !
หลีซิ่วพยักหน้ารับรู้ “บางทีคงมีเพียงท่านอาจารย์ใหญ่ จึงรับมืออาจารย์ใหญ่จี้ที่อยู่ตรงหน้านี้ได้ !”
“หากสิ้นอาจารย์ใหญ่จี้ เยี่ยฉวนและคนอื่นไม่รอดแน่ !”
รอยยิ้มเหี้ยมเกรียมไร้ปรานีผุดขึ้นมุมปาก “พวกเจ้าออกไปสู้กับพวกมัน สู้ไปพร้อมกัน”
ทันทีที่ได้ยินคำสั่งจากหลีซิ่ว กลุ่มศิษย์ฉางมู่พากันดาหน้าเข้าหาเยี่ยฉวนและพวกทันที !
กลุ่มศิษย์หนึ่งร้อยคน !
แต่ละคนขั้นพลังไม่ต่ำกว่าหลอมรวมลมปราณ !
เมื่อเห็นศิษย์แห่งฉางมู่ราวหนึ่งร้อยกำลังดาหน้าตรงเข้าหา โม่อวิ๋นฉีนัยน์ตาเบิกกว้าง “พี่ชาย พวกมันมีมากเหลือเกิน !”
ไป๋เจ๋อที่ยืนเยื้องออกไปหันมาถาม “กลัวหรือ ?”
โม่อวิ๋นฉีถึงกับเลือดขึ้นหน้า “ข้าไม่กลัวใครหน้าไหนทั้งสิ้น ลุยเลยสิ…”
Related
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์