หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์ นิยาย บท 149

สรุปบท ตอนที่ 149 แรงผลักดัน (ต้น): หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์

สรุปตอน ตอนที่ 149 แรงผลักดัน (ต้น) – จากเรื่อง หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์ โดย Internet

ตอน ตอนที่ 149 แรงผลักดัน (ต้น) ของนิยายกำลังภายในเรื่องดัง หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์ โดยนักเขียน Internet เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

บทที่ 149 แรงผลักดัน (ต้น)

ใบหน้าของเยี่ยฉวนและคนอื่น ๆ แข็งค้าง

ส่วนอาจารย์ใหญ่จี้ก็หยุดพูดคุยและดื่มต่อไปเรื่อย ๆ

จากนั้นโม่อวิ๋นฉีจึงได้หยุดคิดเล็กน้อยก่อนจะกล่าวขึ้น “อาจารย์จี้ เอ่อ ท่านก็บริหารจัดการความสัมพันธ์ ไม่เก่งจริง ๆ นั่นแหละ…”

เมื่อถูกอาจารย์ใหญ่จี้จ้องหน้า โม่อวิ๋นฉีก็อึกอักขึ้นมาทันที เขารีบแก้ตัว “อาจารย์จี้ ท่านใจเย็น ๆ ก่อนและโปรดอย่าขยับ…”

อาจารย์ใหญ่จี้ส่ายศีรษะเบาๆ “ในทวีปชิงนั้น แต่เดิมสำนักศึกษาฉางหลานเคยมีวันวานอดีตอันรุ่งเรือง !แต่อย่างไรเสียสิ่งเหล่านั้นย่อมมิอาจหวนคืนกลับมา ในตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์อันใดหากจะรื้อฟื้นถึงมัน พวก เจ้าสามคนมากับข้าที่ด้านหลังภูเขาเดี๋ยวนี้เลย”

หลังจากนั้นเขาก็ลุกขึ้นยืนและจากไป

เยี่ยฉวนและอีกสามคนที่เหลือลุกขึ้นเดินตาม

ภายในห้องโถงนั้นเหลือเพียงเยี่ยหลิง

เยี่ยหลิงใช้มือเล็ก ๆ ของตัวเองคว้าจับเยี่ยฉวนเอาไว้แน่น “ท่านพี่… ข้าจะพยายามอย่างเต็มที่เจ้าค่ะ…”

ดวงตาทั้งคู่ของนางเต็มไปด้วยความแน่วแน่

ที่ด้านหลังภูเขา

อาจารย์ใหญ่จี้ได้พาทั้งสามคนไปที่น้ำตก สายตาของเขาหยุดลงที่ไป๋เจ๋อ “จากนี้ไป ข้าจะเพิ่มระดับ ความเข้มข้นในการฝึกฝนของพวกเจ้า ข้าจำเป็นจะต้องกระตุ้นพลังเลือดอสุรกายที่อยู่ภายในร่างกายของเจ้า และดึงมันออกมาใช้ให้เร็วที่สุด”

หลังจากนั้นเขาจึงชี้ไปที่ลูกตุ้มเหล็กขนาดเท่าศีรษะมนุษย์สองอันซึ่งวางกองอยู่ไม่ไกล !

อาจารย์ใหญ่จี้กระซิบบอก “เจ้าต้องถือมันขณะที่ลงไปในน้ำตกด้วย”

หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ไป๋เจ๋อก็พยักหน้า เขาแขวนลูกตุ้มเหล็กสองอันนั้นไว้กับตัว และเมื่อร่างกาย ถูกเพิ่มน้ำหนักอย่างกะทันหัน ตรงพื้นข้างใต้เท้าของเขาก็เกิดเป็นรอยบุบขึ้นอย่างชัดเจน !

ไป๋เจ๋อลงไปที่น้ำตกท่ามกลางสายตาของทุกคนโดยมีโซ่คล้องเท้าเอาไว้…

ไม่นานนัก เสียงเกลียวคลื่นร้องคำรามคล้ายสัตว์กำลังเห่าหอนก็พลันดังขึ้นตรงริมเชิงน้ำตกนั้น

นี่มันโหดร้ายเกินไปแล้ว โม่อวิ๋นฉีถึงกับเบือนหน้าหนีเพราะทนไม่ได้ที่จะมองภาพนั้นตรง ๆ

จากนั้นอาจารย์ใหญ่จี้จึงหันมองไปที่โม่อวิ๋นฉีบ้าง เมื่อรู้สึกตัวว่าถูกมองอยู่ สีหน้าของโม่อวิ๋นฉีก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยก่อนจะกล่าวขึ้น “อาจารย์จี้ ไม่ต้องหรอก ข้าคิดว่าตัวเองแข็งแกร่งพอแล้วล่ะ”

อาจารย์ใหญ่จี้ถามกลับอย่างไม่จริงจังนัก “เจ้าแน่ใจหรือ ?”

โม่อวิ๋นฉีรีบพยักหน้าตอบ “แน่นอน !”

จี้อันซื่อมองไปที่เยี่ยฉวน “ถ้าอย่างนั้นเจ้าจงใช้ ‘หนึ่งกระบี่ชี้ชะตา’ กับเขาไปก็แล้วกัน !”

โม่อวิ๋นฉีพูดไม่ออก “…”

เยี่ยฉวนเพียงหันหน้ามามองเท่านั้น โม่อวิ๋นฉีพลันกระโดดหนีทันที “อาจารย์จี้ นี่ท่านล้อเล่นหรือเปล่า ? ท่านเมาแล้วแน่เลย ดังนั้นก็อย่ามาสั่งให้ข้าทำอะไรบ้า ๆ เลยนะ !”

จี้อันซื่อกล่าวขึ้นแบบลอย ๆ “ให้เจ้าตายในเงื้อมมือของศิษย์ฉางหลานยังดีกว่าตายด้วยน้ำมือของพวกศิษย์จากสำนักฉางมู่ หากเป็นเช่นนั้น เจ้าก็คงตายตาหลับแล้ว”

โม่อวิ๋นฉีเงียบลงในทันใด

เยี่ยฉวนเดินมาหาและตบบ่าเขาเบาๆ “ก็แค่ต้องทนเจ็บเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้นเอง ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรเสียหน่อย แต่ตอนนี้มันไม่สำคัญแล้วล่ะว่าเจ้าจะอยากก้าวผ่านความยากลำบากใด ๆ นั่นหรือเปล่า ข้าสัญญาว่าจะไม่ทุบตีเจ้าจนปางตายแน่นอน อย่างมากสุดก็แค่พิการเท่านั้นแหละ !”

โม่อวิ๋นฉีเบ้ปาก ริมฝีปากสั่นระริก เขาลังเลเล็กน้อยก่อนจะค่อย ๆ มองไปที่อาจารย์ใหญ่จี้ “พวกท่านก็พูดมาเถอะว่าจะทรมานข้าอย่างไรบ้าง ?!”

อาจารย์ใหญ่จี้ดูเหมือนจะไม่ใส่ใจนัก แต่เวลาต่อมากลับมีสายโซ่เหล็กยาวมากปรากฏขึ้นต่อหน้า โม่อวิ๋นฉี และลูกเหล็กขนาดเล็กจำนวนมากก็ได้ถูกมัดไว้บนโซ่อีกทีหนึ่ง

อาจารย์ใหญ่จี้สั่งอย่างใจเย็น “ใส่มันแล้ววิ่งไปรอบ ๆ ด้านหลังภูเขาร้อยรอบ จงทำแบบนี้ตอนเช้าหนึ่งครั้งและตอนเย็นหนึ่งครั้งในทุก ๆ วัน แต่หากเกินเวลาที่กำหนดจะถูกต้องเพิ่มอีกยี่สิบรอบ…”

เยี่ยฉวนแสดงสีหน้าแปลก ๆ ออกมาเล็กน้อย

เยี่ยฉวนตอบด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำอย่างจริงจัง “ก็ภูเขา !”

อาจารย์ใหญ่จี้ส่ายหน้า “มิใช่ มันคือสิ่งกีดขวางที่อยู่ต่อหน้าเจ้ายังไงล่ะ !”

เมื่อสิ้นเสียงลง อาจารย์ใหญ่จี้ก็ปล่อยหมัดไปข้างหน้า

ตู้มมม !

ภายใต้การโจมตีของหมัดนั่น ภูเขาลูกเล็กก็พลันพังทลายลงทันที !

เศษภูเขากระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยให้เห็นทันตา !

เมื่อเห็นเช่นนี้แล้วเยี่ยฉวนก็รู้สึกทึ่งขึ้นมาเล็กน้อย !

เยี่ยฉวนรู้ดีว่าความแข็งแกร่งของอาจารย์ใหญ่จี้นั้นทรงพลังมากทีเดียว แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังตกใจทุก ครั้งที่ได้เห็นพลังจากหมัดนั่นอยู่ดี

ไม่แน่ว่าวันหนึ่งพลังหมัดของเขาอาจแข็งแกร่งถึงขนาดนี้บ้างก็เป็นได้ !

อาจารย์ใหญ่จี้หันไปมองเยี่ยฉวน “รู้ไหมว่าอะไรคือสิ่งที่เจ้าต้องการมากที่สุดในตอนนี้ ?”

เยี่ยฉวนส่ายหน้า

อาจารย์ใหญ่จี้พูดเสียงกระซิบ “เวลาที่เจ้าโกรธ เจ้าอาจมีเคล็ดวิชาต่อสู้ให้พึ่งพา แต่แน่นอนว่าแรงผลักดันของเจ้าย่อมมีไม่พอที่จะรองรับมันแน่ เจ้ามีทักษะในการฆ่าเพียงพอแล้วทว่ายังขาดแรงผลักดันในการต่อสู้ อยู่ แม้ว่าด้วยพละกำลังของเจ้าจะไม่ได้อ่อนแอ… แต่นั่นก็ยังไม่เพียงพออยู่ดี !!”

“ถ้าหากเจ้าสามารถเพิ่มแรงผลักดันขับเคลื่อนเคล็ดวิชาต่อสู้ได้สำเร็จ งั้นแล้วความแข็งแกร่งของเจ้าก็จะเพิ่มมากขึ้นตาม และไม่ใช่เพียงแค่นั้น แต่เจ้ายังจะมีโอกาสเป็นปรมาจารย์แห่งศิลปะการต่อสู้มากขึ้นด้วย !”

ด้วยเหตุนี้เอง อาจารย์ใหญ่จี้จึงมองไปยังภูเขาขนาดเล็กที่ถล่มนั่น

“แรงผลักดันคืออะไรน่ะหรือ ? จริง ๆ แล้วมันเป็นเรื่องของการโจมตีทางจิตใจ เมื่อเผชิญหน้า กับภูเขาเล็ก ๆ ลูกนั้น หากเจ้ามองว่ามันเป็นภูเขาลูกหนึ่งซึ่งยากที่จะทำลายลงได้ นั่นเท่ากับว่าเจ้าได้ล้มเหลว ตั้งแต่ภายในจิตใจแล้ว ทั้ง ๆ ที่แท้จริงแล้ว เจ้าควรจะคิดว่ามันคือเศษขยะที่ขวางทางและเจ้าสามารถทำลาย มันได้ตลอดเวลาต่างหาก !”

Related

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์