หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์ นิยาย บท 194

บทที่ 194 ข้าจะเป็นเซียนกระบี่ ! (ปลาย)

หลังเห็นเช่นนั้น พลันเสียงของอาจารย์ใหญ่จี้เอ่ยขึ้นลอย ๆ ว่า “ถ้าเยี่ยฉวนเป็นศิษย์ของสำนักเหมันตอุดร ต่อให้มิได้เป็นถึงสุดระดับยอดปรมาจารย์ แต่ฝีมือก็ไม่ถึงกับอ่อนด้อย ยิ่งถ้าได้เป็นถึงจ้าวกระบี่ ราชันกระบี่ เซียนกระบี่ หรือแม้แต่ระดับสูงกว่านั้น…สำหรับสำนักเหมันตอุดรแล้ว นั่นจึงจะเป็นการดี ใช่หรือไม่ ?

เด็กหญิงยังเงียบท่าทีเมินเฉย ด้วยตอนนี้เยี่ยหลิงถือว่าเป็นคนของสำนักเหมันตอุดรแล้ว และถ้าจะพูดตามตรง นางก็ไม่อยากให้เยี่ยหลิงติดต่อหรือยุ่งเกี่ยวกับพี่ชายของนางอีก แต่ถ้าเยี่ยฉวนสำเร็จเป็นจ้าวกระบี่ ราชันกระบี่ หรือแม้แต่เซียนกระบี่ ถึงตอนนั้น เขาอาจยื่นมือเข้าช่วยสำนักเหมันตอุดรก็เป็นได้

หลังจากนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง เด็กหญิงจึงหันมาตอบคำถามของเยี่ยฉวน “ทางตอนเหนือของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ใจกลางแผ่นดินใหญ่ เป็นที่ซึ่งมีอากาศหนาวเย็น !”

ในการสื่อสารกับเยี่ยฉวนครั้งนี้ นางใช้พลังชี่ขั้นลึกลับส่งข้อความไป “สำนักเหมันตอุดรของข้าไม่ได้มีข้อห้ามให้เจ้ากับน้องติดต่อกันหรอก แต่ก็ขึ้นอยู่กับอนาคตของเจ้าว่าสามารถบรรลุขั้นฝึกฝนได้มากน้อยแค่ไหน หากเจ้ายังไม่ได้เป็นเซียนกระบี่ก่อนอายุ 30 จงอย่าได้โผล่หน้ามาให้ข้าเห็น ! เพราะหากเป็นเช่นนั้นเจ้านั่นแหละ จะกลายเป็นตัวถ่วงของนาง !” กล่าวเพียงเท่านั้น คนพูดพลันหันหลังกลับพลางดึงมือเยี่ยหลิงพาหายลับไปจนสุดขอบฟ้า

ส่วนคนด้านล่าง เยี่ยฉวนมัวตกตะลึงกับเหตุการณ์ทันด่วนและเมื่อกลับเป็นตัวของตัวเอง จึงป้องปากตะโกนไล่หลังร่างคนทั้งสองที่หายไปในท้องฟ้า “น้องคอยพี่อยู่ที่นั่นนะ ไว้พี่จะไปเยี่ยม คอยพี่ด้วย…”

บนท้องฟ้าไกลแสนไกล เสียงอ่อนเบาแผ่วผ่านดังขึ้นปานกระซิบ “ท่านพี่…” เยี่ยฉวนเหม่อมองที่บนท้องฟ้านิ่งเนิ่นนาน ในที่สุดเขาค่อยทรุดลงนอนแผ่เหยียดยาวบนพื้นดิน

เขายังคงเหม่อมองนิ่งไปบนฟ้า แววตาเลื่อนลอย โม่อวิ๋นฉีขยับอย่างลังเล ทำท่าจะเดินเข้าไปปลอบโยน ทว่าอาจารย์ใหญ่จี้กลับยับยั้งไว้ก่อน ผู้เฒ่าบอกสั้น ๆ “ปล่อยให้คิดเอง !”

ให้คิดเอง !

เมื่อต้องเผชิญปัญหา ไม่มีใครพาเขาออกจากปัญหาได้ นอกจากตัวของตนเอง ! จากนั้นไม่นาน เยี่ยฉวนจึงลุกขึ้นจากพื้น มือกำหมัดแน่นขณะหันมาพูดว่า “ข้าจะเป็นเซียนกระบี่ ไม่สิ จ้าวกระบี่ ไม่ดีกว่า ข้าต้องเป็นเซียนกระบี่ เป็นเซียนกระบี่ให้ได้ !”

เซียนกระบี่ ! “ถ้าข้าเป็นเซียนกระบี่ ฉางมู่ก็คงไม่กล้ามารังแก ?! ถ้าข้าเป็นเซียนกระบี่ เยี่ยหลิงไหนเลยจะถูกใครรังแกซ้ำแล้วซ้ำเล่าเช่นนี้ ! ถ้าข้าเป็นเซียนกระบี่…”

“ความอ่อนแอคือตราบาปที่ติดตัวมนุษย์ !” หากปราศจากความเข้มแข็ง ก็จะเป็นการยากที่จะเหนี่ยวรั้งอารมณ์ มิตรภาพและความรัก ! ความจริงมักนำมาซึ่งความเจ็บปวดทรมาน ถ้าไม่อยากเจ็บปวดทรมาน ต้องสร้างความเข้มแข็งให้บังเกิดแก่ตนเอง !

คิดได้เช่นนี้ เยี่ยฉวนพลันรู้สึกภายในจิตของตนเริ่มโปร่งโล่งสบาย เป้าหมาย !

บัดนี้เขาได้ตั้งเป้าหมายให้กับตนเองแล้ว !

คือการมุ่งสู่การเป็นเซียนกระบี่ !

ขณะนั้นเอง ภายในกายของเยี่ยฉวน กระบี่หลิงซิ่วกำลังสะท้านสะเทือนอย่างรุนแรง ทันใดนั้นกระบี่ทะยานพุ่งสู่ท้องฟ้า ! ทุกคนในที่นั้น สายตาทุกคู่ต่างตกตะลึง

เบื้องบนเหนือศีรษะของเยี่ยฉวน กระบี่หลิงซิ่วสั่นสะเทือน ก่อให้เกิดความรู้สึกอันไม่อาจบรรยายออกมาเป็นคำพูด

น่าแปลกประหลาดยิ่งนัก !

อาจารย์ใหญ่จี้มองเขม็งที่เยี่ยฉวน และสีหน้าของผู้เฒ่ายามนี้มองออกว่าสับสนยุ่งยากใจ ชายชราทำท่าเอ่ยปาก ทันใดนั้นพื้นธรณีกลับสั่นสะเทือน และฉับพลันนั้นบรรยากาศรอบด้านพลันเริ่มบิดเบือนผิดรูป !

เมื่อเห็นเช่นนั้น อาจารย์ใหญ่จี้ย่นหัวคิ้ว “ที่นี่กำลังจะสูญสลาย รีบออกไปเร็ว !” จากนั้นจึงยกมือข้างขวาขึ้นโบกเบา ๆ ก่อนคนทั้งจะหมดหายวับไปจากลานกว้างทันที

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์