บทที่ 48 ในความฝันนั้นทุกอย่างเป็นไปได้ (ต้น)
แต่ก่อนนี้ กระบี่หลิงเซี่ยวถือว่าเป็นอาวุธที่แปลกสำหรับชายหนุ่ม
เขาเคยรู้สึกว่าหลิงเซี่ยวไม่ใช่กระบี่ของตัวเอง และมันจะค่อนข้างจะไม่ถนัดเวลาที่ใช้งาน
กระทั่งตอนก่อนหน้านี้ แม้ไม่มีความรู้สึกแปลก ๆ หลงเหลืออยู่ แต่ก็ใช่ว่าจะมีความรู้สึกคุ้นเคยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เขารู้สึกดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก เพราะอย่างน้อย ๆ ก็ไม่ต้องเงอะงะงุ่มง่ามเช่นเมื่อก่อนแล้ว !
มาถึงตอนนี้ ชายหนุ่มก็เริ่มค้นพบความสำคัญของการรวมเป็นหนึ่งเดียวระหว่างกระบี่และตัวผู้ถือ ครองแล้ว !
หลังจากเก็บกระบี่เข้าที่ เขาก็ออกจากหอคอยแห่งเรือนจำเพื่อชำระล้างร่างกาย
ตาใกล้จะปิดแล้ว ชายหนุ่มรู้สึกง่วงนอนเต็มที !
การฝึกฝนวิชานั้นสำคัญก็จริง แต่การพักผ่อนก็เช่นกัน !
ไม่ว่าเยี่ยฉวนต้องการที่จะแข็งแกร่งขึ้นและมุมานะฝึกฝนอย่างบ้าคลั่งมากเพียงใด กระนั้นเขาก็ยังต้องพักผ่อนทุกวัน เพราะหลังจากที่ได้หยุดพักเพื่อฟื้นฟูร่างกายอย่างเต็มอิ่ม เขาก็จะสามารถฝึกฝนได้ดีขึ้นตาม ไปด้วย
ที่ข้างนอกนั้น
ไม่มีใครรู้ว่าทั่วทั้งเรือเหาะตกอยู่ในความเงียบตั้งแต่เมื่อใด แต่ตอนนี้ทุกอย่างเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
ทุกคนบนเรือเหาะไม่ได้หลงลืมเด็กชายตัวอ้วนคนนั้น เช่นเดียวกับเรื่องราวที่เกิดเหตุปะทะก่อนหน้านี้ที่ยิ่งลืมไม่ลง !!
พวกเขาล้วนสนใจใคร่รู้และต่างพากันสงสัยว่าชายหนุ่มได้ตายไปแล้วหรือยัง ?
แต่ก็คงไม่น่ารอดกระมัง !
นอกจากนี้แล้ว คนของสำนักอัปสรเมรัยก็ไม่ใช่ว่าจะถูกฆ่าได้ง่าย ๆ
เรือเหาะบินข้ามแม่น้ำอันกว้างใหญ่ มันลอยข้ามเหนือเทือกเขาอันไร้จุดสิ้นสุดที่อยู่ด้านล่าง ดังนั้นเมื่อยืนมองจากด้านบนก็จะสามารถเห็นภูเขาจำนวนนับไม่ถ้วนซึ่งเป็นทิวทัศน์ที่งดงามปรากฏในสายตา
ผู้คนมากมายต่างปรากฏตัวขึ้นบนดาดฟ้าเรืออีกครั้ง ทุกคนดูเงียบสงบราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เนื่องจากมีประกาศคำเตือนจากสำนักอัปสรเมรัยมาว่า ให้ทุกคนเก็บงำเรื่องก่อนหน้านี้เอาไว้เป็นความลับเสีย ไม่อย่างนั้นแล้วพวกเขาจะได้รับการลงโทษจากทางสำนักอย่างสาสมแน่ !
ไม่มีใครกล้าขัดขืน
ภายในห้องนั้น
เยี่ยฉวนไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน แต่เขารู้สึกคันนิดหน่อยบนใบหน้า ชายหนุ่มค่อย ๆ ลืมตาขึ้น ก่อนที่ดวงตากลมโตกระจ่างใสคู่หนึ่งจะพุ่งเข้ามาในสายตาของเขา
ชายหนุ่มยื่นมือไปลูบเส้นผมของเยี่ยหลิง ที่แท้เป็นนางนั่นเองที่ใช้มือเล็ก ๆ เกาบนใบหน้าเขาเบา ๆ!
เมื่อเห็นว่าเยี่ยฉวนตื่นแล้ว เยี่ยหลิงก็ส่งยิ้มหวานให้ทันที “ท่านพี่ !”
เยี่ยฉวนหันไปมองรอบ ๆ ก่อนจะถามขึ้น “นี่เป็นเวลาใดแล้ว ?”
เยี่ยหลิงคลี่ยิ้มและเอ่ยตอบ “เที่ยงวันแล้วเจ้าค่ะ ! วันนี้ท่านพี่นอนตื่นสาย ! แต่ไม่เป็นไร ท่านนอนต่อ เถอะ ส่วนข้าจะคอยอยู่ข้าง ๆ เอง !”
เยี่ยฉวนยิ้ม เขาบีบจมูกของเยี่ยหลิงเบา ๆ อย่างเอ็นดู “เราออกไปสูดอากาศข้างนอกกันดีกว่า”
หลังจากนั้นเยี่ยฉวนจึงลุกขึ้นมาล้างหน้าบ้วนปาก ก่อนจะออกไปที่ดาดฟ้าเรือพร้อมกันกับน้องสาว
กลายเป็นว่าสองพี่น้องได้ตกเป็นเป้าสายตาของคนในบริเวณนั้นทันทีเมื่อปรากฏตัวขึ้น !
“เขายังมีชีวิตอยู่หรือนี่ ?”
ทุกคนล้วนเต็มไปด้วยคำถาม
“เหตุใดเขาจึงยังไม่ตายทั้ง ๆ ที่ลงมือสังหารคนของสำนักอัปสรเมรัย ?”
ในขณะที่อีกด้านหนึ่ง ลู่เสี่ยวหรานได้หันมองไปที่เยี่ยฉวนอย่างลึกซึ้งและกระซิบกับตัวเองว่า “ชายผู้นี้ ไม่ธรรมดา !”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์