เข้าสู่ระบบผ่าน

ฮูหยินใหญ่ นิยาย บท 5

อากาศต้นเดือนห้านั้นร้อนอบอ้าวยิ่งนัก อวิ๋นซือนั่งมองจดหมายในมือด้วยแววตาราบเรียบไร้ความรู้สึก ตัวอักษรที่บรรยายมาชวนให้ใจหดหู่ คล้ายนางเห็นเหตุการณ์พวกนั้นเกิดขึ้นเบื้องหน้า

มือขาวเนียนดุจหยกสั่นวูบหนึ่ง ทว่าเพียงเสี้ยวพริบตาก็เป็นปกติ เมื่อเจ้าของมันกลับมาควบคุมสติตัวเองได้อีกครั้ง ตั้งแต่เติบใหญ่มาหญิงสาวไม่เคยร้องไห้โศกเศร้า นางใช้สติจัดการเรื่องราวทุกอย่าง เติบโตมากับการใช้เหตุผลแทนการใช้ความรู้สึก เพราะอวิ๋นซือรู้ดีว่าคนที่รู้สึกก็คือคนที่พ่ายแพ้

แล้วไยมารดาของนางจึงไม่ยอมเข้าใจกันนะ!

ร่างบอบบางขยับกายลุกขึ้นอย่างเชื่องช้า จดหมายแจ้งเรื่องราวของผู้เป็นมารดาถูกนำไปลงวางในกล่อง บิดาคิดปลดมารดา ยกย่องฮูหยินสามขึ้นเป็นใหญ่ อ้างเหตุว่าเป็นเพราะภรรยาเอกนั้นไร้บุตรชายสืบทอดสกุล

อวิ๋นซือแค่นยิ้มเย้ยหยัน ดวงตาสีนิลทอประกายลึกล้ำ เหตุการณ์ในราชสำนักแปรเปลี่ยน ตระกูลจางที่ขาดท่านตากับท่านยายจะยังเหลืออะไรให้บิดาเกรงใจเล่า ที่ผ่านมาอีกฝ่ายยอมให้มารดานางเป็นฮูหยินใหญ่ก็เพราะสิ้นทั้งสองท่านก็ยังมีน้าชายที่เป็นรองแม่ทัพอนาคตไกล

ทว่ายามนี้ท่านน้าสิ้นชีพในการปราบปรามโจรป่า อีกทั้งท่านยังไร้ทายาทสืบทอด แค่มองก็รู้ว่าตระกูลจางถึงคราต้องล่มสลายแล้ว ไฉนท่านพ่อยังต้องไว้หน้าผู้ใดอีกเล่า เอาเถอะ แม้นางจะหดหู่ที่มารดายังงมงายไม่ลืมหูลืมตา แต่อีกฝ่ายก็เป็นผู้ให้กำเนิดชีวิตที่ไร้ความโปรดปรานได้เติบใหญ่ขึ้นมาก็เพราะท่าน จะให้นิ่งดูดายคงไม่ได้อยู่ดี

อีกอย่าง... นางเองก็คาดการณ์เรื่องนี้ไว้นานแล้วมิใช่หรือ เช่นนั้นไหนเลยจะยินยอมแต่งเข้าสกุลหลันง่ายดาย เมื่อชายผู้ให้กำเนิดที่มองตนเองเป็นเพียงไม้ประดับจวนออกคำสั่ง คงถึงเวลาต้องใช้สามีที่แสนดีของนางให้เป็นประโยชน์แล้วกระมัง

เพราะที่นางยอมเหนื่อยยากทั้งหมดก็เพื่อการนี้มิใช่หรือ

“มีใครอยู่ข้างนอกบ้าง” เสียงใสเอ่ยราบเรียบ

ไม่นานสองสาวใช้คนสนิทก็ก้าวเข้ามา “ฮูหยิน”

ดวงตาดำขลับกวาดมองพลางเอ่ยถาม “เสี่ยวเซียงเล่า”

เสี่ยวอิงและเสี่ยวหยวนพลันนิ่งเงียบ ให้นึกเจ็บแค้นแทนผู้เป็นนายจนขอบตาแดงเรื่อ เสี่ยวเซียงหญิงสารเลวเลี้ยงไม่เชื่อง ขนาดฮูหยินเป็นผู้เมตตาชุบชีวิตนางจากการต้องถูกขายเข้าหอนางโลมแท้ๆ อีกฝ่ายยังกล้าแทงข้างหลัง

ครั้นเห็นท่าทางของสาวใช้คนสนิท อวิ๋นซือก็พอเดาได้ว่าเสี่ยวเซียงคงฉวยโอกาสตอนที่ขึ้นเตียงกับเจ้านายสำเร็จ เกาะติดหลันชิงไม่ยอมปล่อย หญิงสาวหลุบตาลงครุ่นคิดด้วยความเงียบขรึม พลางสั่งงานคนของตนให้ไปทำ จากนั้นจึงบอกให้ออกไปได้

เสี่ยวอิงและเสี่ยวหยวนเป็นเด็กสาวหัวไว พวกนางรับคำแล้วไปจัดการโดยไม่เอ่ยถาม เพราะสำหรับทั้งสองแล้ว อวิ๋นซือคือเจ้านาย มิใช่สกุลหลัน

ภายในห้องที่เงียบสงบ อวิ๋นซือนั่งรอโชคชะตาอย่างเงียบๆ บอกตนเองในใจว่าช่วงนี้นางหย่อนยานไปมากจริงๆ ทำให้ละเลยนายจ้างไปไม่น้อย เห็นทีคงต้องออกแรงสักหน่อยแล้ว

สองสามวันต่อมา ข่าวเรื่องสาวใช้นางหนึ่งปีนขึ้นเตียงนายท่านหลัน อีกทั้งยังยั่วยวนไม่ยอมออกจากเรือนใหญ่ก็รู้ไปถึงหูของฮูหยินผู้เฒ่า ซึ่งคนที่นำเรื่องราวไปบอกก็หาใช่ใครอื่น เป็นฮูหยินห้าหลิงซีนั่นเอง

ฮูหยินผู้เฒ่าในอดีตฟันฝ่ากับเหล่าเมียรองของสามีมาอย่างโชกโชน นางย่อมรู้เท่าทันเล่ห์เหลี่ยมกลโกงของสตรีเรือนหลังเป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีอคติต่อบรรดาเมียรองกับอนุอย่างยิ่ง เมื่อทราบเรื่องนี้ก็ให้นึกไม่ชอบใจ พอฟังที่หลิงซีเล่าจบก็โบกมือไล่อีกฝ่ายทันที

“ฮูหยิน แล้วพวกเราจะทำอย่างไรต่อดีเจ้าคะ”

เสี่ยวอิงถามคนเป็นนาย สาวใช้ให้นึกร้อนใจแทน แม้ว่าพวกนางจะลอบปล่อยข่าวเรื่องนี้ให้ฮูหยินห้าร้อนใจได้ แต่ถ้าฮูหยินผู้เฒ่าไม่เล่นด้วย ทุกอย่างก็เปล่าประโยชน์เสียแล้ว

คนถูกถามละความสนใจจากอาหารบนโต๊ะ นางเลิกคิ้วขึ้นสูง ใบหน้ามีรอยยิ้มน้อยๆ “ริจะเป็นนายพราน เจ้าต้องมีความอดทนให้มากกว่าเหยื่อ”

เสี่ยวอิงพยักหน้ารับคำ ทว่ายังมีร่องรอยความกังวลให้เห็น อวิ๋นซือส่ายหน้าเบาๆ วางตะเกียบลงบนถ้วยข้าวพลางยื่นมือไปดีดหน้าผากเล็กนั้นอย่างเอ็นดู

“ดูพวกเจ้าสิ ให้ความสนใจผู้อื่นจนละเลยหน้าที่” นางเอ่ยเย้าหยอกคนสนิทพลางหลิ่วตาลง “ปรนนิบัติฮูหยินของเจ้ากินข้าวสำคัญกว่าไหม”

ท่าทางขี้เล่นอารมณ์ดีที่แสดงออกไม่มีคนนอกได้เห็น ดังนั้นจึงไม่เคยมีผู้ใดล่วงรู้ว่าฮูหยินใหญ่ที่น่าเกรงขามก็มีมุมสาวน้อยร่าเริงเช่นกัน เสี่ยวอิงและเสี่ยวหยวนเห็นผู้เป็นนายยังแจ่มใส ก็ละความสนใจจากเรื่องอื่นแล้วหันมาปรนนิบัติอีกฝ่ายให้รับอาหารเพิ่มทันที

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฮูหยินใหญ่