บทที่ 18 ไร้ค่า
ฝ่ายนิ่งซือ พอเห็นท่าทางของหลานเฉินมู๋ แววตาก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความชั่วร้าย นางคิดว่านี่คงเป็นโอกาสดี จึงรีบพูดในทันที:
“นายท่าน พวกเราลองไปดูที่ลานเทียนหลานกันก่อน ถ้าเป็นฝีมือของเยาเยาจริง ท่านค่อยโกรธก็คงไม่สายเกินไป”
ไม่ว่าจะใช่หรือไม่ใช่ฝีมือของหลานเยาเยา ถ้าหากพาหลานเฉินมู๋ที่กำลังโกรธ ไปยังลานเทียนหลานของหลานเยาเยา คิดว่าหลานเยาเยาจะมีจุดจบที่ดีหรือ?
หึ!
ไม่ตายก็เลี้ยงไม่โต!
“ไป!”
หลานเฉินมู๋ ผู้ที่ความโกรธแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย ถกแขนเสื้อขึ้นแล้วเดินไปที่ลานเทียนหลานอย่างรวดเร็ว
เหลือเพียงทหารองครักษ์ไม่กี่คน ที่อยู่จัดการกับสัตว์มีพิษที่เหลือ ส่วนคนอื่นๆ ตามเขาไปที่ลานเทียนหลาน
แม้หลานชิวหยุนที่ยังอยู่ในอาการหวาดกลัว ก็ยืนยันที่จะตามไป
นางต้องการจะเห็นหลานเยาเยาถูกลงโทษอย่างรุนแรง และพ่ายแพ้ต่อความตาย ด้วยตาของนางเอง!
ลานเทียนหลาน!
หลานเยาเยากำลังนั่งอยู่ที่นอกประตูห้อง ใช้สองมือโอบ และพิงตัวอยู่ที่เสาหิน กำลังสัปหงก ท่าทางเหมือนลูกไก่จิกหาอาหาร ดูเหมือนว่าพร้อมที่จะหลับได้ตลอดเวลา
เสียง “ช่า!” ดังขึ้นเบาๆหนึ่งครั้ง
“ใคร?”
เสียงนั้นดังขึ้น ทำให้หลานเยาเยาตื่นจากภวังค์ทันที นางลุกขึ้นยืนและมองไปรอบๆด้วยความระมัดระวัง
แต่ว่า!
นางยังไม่รับรู้ถึงการมาถึงของคนเหล่านั้น อีกทั้งยังไม่สังเกตเห็นความผิดปกติที่เกิดขึ้น ขณะที่กำลังงุนงง ก็เห็นกลุ่มคนกลุ่มใหญ่เดินมุ่งหน้ามาหานางจากที่ไกลๆ
“ในที่สุดก็มาแล้ว ถ้าหากยังไม่มาอีกข้าคงจะลงไปนอนบนพื้นแล้ว”
นางพูดพลางก็ขยี้ตาพลาง ขยี้จนตาแดง เสร็จแล้วก็รีบวิ่งไปที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ในลานทันที แล้วจึงปีนขึ้นไปอย่างรวดเร็ว
ยังไม่ทันจะยืนได้อย่างมั่นคง ก็รู้สึกว่ามีลมหนาวพัดมา พัดจนน้ำตาของนางเกือบจะไหล พอหรี่ตาดู ก็รู้สึกเหมือนมีเงาดำแวบผ่านนางไป
เร็วมากจนยากที่จะสังเกตเห็นได้ พอลองมองดูอย่างละเอียด ก็ไม่พบอะไร
ไม่สนแล้ว ไปจัดการกับหลานเฉินมู๋ก่อนดีกว่า!
ดังนั้นหลานเยาเยาจึงเผยอปากขึ้น ส่ายหัวไปมา พยายามทำอารมณ์
นางคิดถึงความรักอันยิ่งใหญ่ ไม่มีเงื่อนไข ของพ่อแม่ที่มอบให้แก่นางตอนเด็กๆ แต่เป็นเพราะนางเป็นทหาร จึงถูกศัตรูฆ่าตาย คิดถึงเพื่อนที่สนิทกันเหมือนพี่น้องในกองทัพ เป็นเพราะภารกิจในหลายๆครั้ง ทำให้นางต้องเห็นหลายคนตายไปต่อหน้าต่อตา
อีกทั้งยังคิดถึงภารกิจในการกู้ภัยครั้งสุดท้าย เพื่อช่วยตัวประกัน จึงต้องรับกระสุนแทนเขาหลายครั้ง แต่สุดท้ายกลับพบว่าเขาคือหัวหน้าผู้ก่อการร้าย สุดท้ายจึงต้องจุดชนวนระเบิด......
นางรู้สึกถึงความเดียวดายและอ้างว้าง บนโลกที่ไม่คุ้นเคยใบนี้ นางไม่เคยได้สัมผัสถึงความอบอุ่น รู้จักแต่ความเกลียดชังและผลประโยชน์
ไม่นาน หลานเยาเยาก็ร้อง “วา!” ออกมา ร้องด้วยความเจ็บปวดใจอย่างมาก ก่อนที่พวกของหลานเฉินมู๋จะเข้ามา นางก็ตะโกนเสียงดังว่า:
“ช่วยด้วย! ช่วยข้าด้วย ใครก็ได้มาช่วยข้าที มีงู มีงูเยอะแยะเลย ช่วยด้วย......”
คนกลุ่มใหญ่ยังไม่ทันเข้าไปในลานเทียนหลาน ก็ได้ยินเสียงของหลานเยาเยากรีดร้องด้วยความกลัว
นิ่งซือขมวดคิ้วทันที หรือว่าที่หลานเยาเยาอยู่นี่ก็มีสัตว์มีพิษ?
เป็นไปได้อย่างไร?
เรื่องที่พ่อบ้านขายงูพิษนางเองก็รู้ และก็รู้ด้วยว่าเป็นคำสั่งจากหลานชิวหยุนของนาง แต่นางเองก็อยากให้นางทำเช่นนั้น เพราะท้ายที่สุดแล้ว เมื่อเข้าไปอยู่ในจวนรัชทายาท หากมือไม่เคยเปื้อนเลือดมาก่อน จะยืนหยัดอยู่ในวังหลังได้อย่างไร?
เมื่อเห็นว่าในลานของชิวหยุนเต็มไปด้วยสัตว์มีพิษ นางก็พอจะเดาออกว่าเป็นฝีมือใคร ดังนั้นถึงพยายามให้หลานเฉินมู๋มาที่นี่ แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้ยินเสียงกรีดร้องของนาง......
หลังจากที่พวกเขาถือไฟเดินเข้ามา แต่ละคนก็ดึงอาวุธออกมาจากเอว เดิมทีคิดว่าจะต่อสู้กับสัตว์มีพิษเป็นการใหญ่ แต่คิดไม่ถึงว่าสัตว์มีพิษแม้แต่ตัวเดียวก็ไม่เห็น
“นังสารเลว ออกมา”
หลานเฉินมู๋กัดฟัน ทำท่าราวกับว่าหากหลานเยาเยาปรากฏตัวออกมา เขาก็จะทำให้นางหายสาบสูญไปทันที
เขาที่โกรธจนหน้ามืดตามัว ไม่ได้สังเกตเห็นหลานเยาเยาตั้งแต่แรก จุดประสงค์ที่เขามาที่นี่ ก็เพื่อที่จะมาระบายอารมณ์!
ใช่แล้ว เสียงร้องขอความช่วยเหลือที่นางพยายามทำอารมณ์อย่างมากเมื่อกี้ ไม่เป็นผลเลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
เรื่องนี้ไม่ลงต่อแล้วหรอค่ะ...
ไม่ลงต่อแล้วเหรอคะ...