น่าจะเป็นเพราะวันเสาร์ ซูเปอร์มาร์เก็ตค่อนข้างจะคนแน่นและแออัดในตอนบ่าย
เวธัสจอดรถตรงหน้าประตู แล้วก็มองดูคนเดินผ่านไปผ่านมาหน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ต แล้วคิ้วของเขาก็ขมวดเข้าหากัน
ปัณณ์เปิดประตูรถอย่างชำนาญและกระโดดลงพื้น แล้วก็เข้ามาประคองณิชาอย่างระมัดระวัง ทุ่มเทหนักมาก
เวธัสเหลือบมองลูกชายของเขาด้วยความไม่ชอบ
ทำไมเมื่อก่อนถึงไม่เคยรู้ว่าเขาสามารถประจบสอพลอได้ขนาดนี้กัน?
ณิชาเห็นว่าเวธัสไม่ได้ตั้งใจจะลงจากรถ คิดว่าอาจจะเป็นเพราะว่าโดนแอบถ่ายรูปตอนไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อครั้งล่าสุด ก็เลยไม่ค่อยแฮปปี้ เลยพูดว่า “คนในซูเปอร์มาร์เก็ตค่อนข้างเยอะ คุณรอพวกเราอยู่ที่นี่แล้วกัน ไม่นานก็กลับมาแล้วละ”
เวธัสขมวดคิ้วแน่น แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
แม่ลูกทั้งสองคนไม่ได้มาเดินซูเปอร์มาร์เก็ตด้วยกันนานมากแล้ว
เด็กน้อยดึงณิชาแล้ววิ่งเข้าไปในซูเปอร์มาร์เก็ต ในที่สุดก็สามารถขจัดหนอนตามก้นได้แล้ว ได้คุยกับณิชาอย่างเต็มที่ ใบหน้าเล็กๆที่ใสซื่อเต็มไปด้วยความไร้เดียงสา
ณิชาเข็นรถเข็น แล้วก็วางเจ้าตัวเล็กไว้ตรงชั้นวางชีส
“ลูกเลือกชีสอยู่ตรงนี้นะ เดี๋ยวแม่จะไปหยิบแป้ง เดี๋ยวมา”
“รับรองว่าจะทำภารกิจให้สำเร็จครับ !”ปัณณ์ยกมือขวาขึ้นมา แสดงความเคารพต่อณิชา
ณิชาถูกยั่วหัวเราะจนอดยิ้มไม่ได้
ซุปเปอร์มาร์เก็ตแห่งนี้อยู่ใกล้กับพื้นที่วิลล่ากลางขุนเขา ย่านธุรกิจโตเต็มที่ ซูเปอร์มาร์เก็ตมีเลย์เอาท์ขนาดใหญ่และสินค้าส่วนใหญ่เป็นสินค้าระดับไฮเอนด์นำเข้าจากต่างประเทศ
ณิชาโยนแป้งหนักห้าปอน์ใส่รถเข็น ตอนที่เตรียมจะเดินกลับไปหาปัณณ์ ทันใดนั้น ฮัสกี้ขนฟูก็วิ่งเข้ามาใต้ฝ่าเท้าของเธอ
เจ้าฮัสกี้วิ่งอาละวาดเข้ามา กระแทกรถเข็นของณิชาจนห่างออกไปครึ่งเมตร
“โฮ่งๆ——”
สีหน้าของณิชาเปลี่ยนไปทันที กลัวว่าจะชนคนอื่นเข้า ก็เลยรีบตามรถเข็นไป
“เปเป้” เสียงรองเท้าส้นสูงเหยียบพื้น ผสานกับเสียงผู้หญิงแสนสวยเรียกชื่อฮัสกี้
ดูเหมือนพอทันทีที่เจ้าฮัสกี้ตัวนั้นได้ยินเสียงเรียกของเจ้าของ ก็วิ่งกลับไปหาเจ้านายอย่างห้าวหาญ
ณิชาจับรถเข็นไว้มือหนึ่ง แล้วก็หันไปมองที่ต้นเสียง ผู้หญิงคนนั้นสวมกระโปรงสั้นและสวมผ้าคลุมไหล่ผ้าไหมหรูหรา เดินเข้ามาพร้อมกับใบหน้าที่ดูถูกเหยียดหยาม
เธอก็คือกันญ่า
กันญ่าย่อตัวลงตรงหน้าฮัสกี้ แล้วก็ลูบหัวที่นุ่มฟูของมัน
“เด็กดี ทำได้ดีมาก”
พอณิชาเห็นกันญ่า สีหน้าก็หม่นหมองลงทันที แต่ก็ไม่ได้มีความสนใจอยากจะไปพัวพันกับเธอ
เธอเดินอ้อมกันญ่าไปเพราะอยากจะเดินออกไป แต่ว่ากันญ่าก็จูงเจ้าฮัสกี้มาขวางตรงหน้าของเธอเอาไว้ อ้าแขนออกเพื่อขวางทางเดินของเธอ
“ณิชา ภูมิใจมากไหมตอนนี้? ที่ทำให้คุณเวธัสที่สูงส่งไปซื้อผ้าอนามัยให้เธอกลางดึกได้ แต่ไหนแต่ไรมาฉันยังไม่เคยเจอชู้ที่หน้าด้านเท่าเธอมาก่อนเลย!แย่งคู่หมั้นคนอื่นยังไม่พอ แถมยังมั่นใจว่าตัวเองถูกอีก แล้วศักดิ์ศรีของเธออยู่ไหนหรอ?”
กันญ่าหรี่ตาลง สีหน้าไม่พอใจอย่างมาก
ณิชากวาดสายตามองเจ้าฮัสกี้ที่ดูดุร้ายด้วยสายตาเฉยเมย “คนเลี้ยงเป็นแบบไหนหมาก็เป็นแบบนั้น ประโยคนี้มันเรื่องจริงเลยนะ”
กันญ่าจ้องเธอด้วยสายตาที่เกลียดชัง ถ้าเกิดว่าไม่ใช่เพราะว่ามีในห้างนี้มีคนเดินไปเดินมา เธอคงจะตบยัยณิชานี่ไปแล้ว!
“เธอยังเทียบไม่ได้แม้แต่กับหมาของฉันแค่ตัวเดียวด้วยซ้ำ!อย่างน้อยมันก็ยังรู้จักเคารพเจ้าของ แต่ว่าเธอใช้นามสกุลตระกูลสถานนท์ของฉัน มีความสุขกับเกียรติยศของตระกูลสถานนท์แต่ว่ากลับแย่งคู่หมั้นของฉันไป!”
ณิชามองดูใบหน้าที่ดุร้ายของกันญ่า แล้วก็ยิ้มจางๆอย่างสบายใจ
“ตอนที่พ่อของฉันล้มละลาย คนที่ยิ้มอย่างมีความสุขที่สุดก็คือคนของตระกูลสถานนท์ คุณกันญ่า คุณแกล้งทำเป็นอ่อนโยนต่อหน้าคุณจงกลแล้วท่านรู้ไหมว่าความจริงแล้วคุณก้าวร้าว ร้ายกาจ และเจ้าเล่ห์มาก?”
น้ำเสียงคงที่มาก เหมือนกับกำลังพูดว่าวันนี้อากาศไม่เลวเลย แต่ว่ามันเป็นสิ่งที่ทำให้คนโมโหได้มากที่สุด !
ทันใดนั้นกันญ่าก็โกรธมากขึ้นมาในทันที ดวงตาแดงก่ำ
มุมปากของณิชายกขึ้นอย่างไม่แยแส “อ้อใช่สิ เมื่อหนึ่งอาทิตย์ก่อนฉันเห็นคู่รักที่สวีทหวานเปิดห้องกันที่โรงแรมนานาชาติ แผ่นหลังนั้น……เหมือนของคุณมากเลยนะ”
“เธอพูดบ้าอะไรของเธอ?” กันญ่าเหมือนกับว่าจับจุดสำคัญได้ เธอรีบปฏิเสธในทันที “ฉันไม่เคยไปโรงแรมนานาชาติอะไรนั่นมาก่อน!เธออย่ามาพูดจาเรื่อยเปื่อยนะ!”
“ที่แท้ฉันก็จำผิดงั้นหรอ? แต่ว่าผู้หญิงคนนั้นเหมือนคุณมากเลยนะ ฉันยังถ่ายรูปมาอีกด้วย หรือให้คุณลองประเมินดูหน่อยดีไหม?”
รูม่านตาของกันญ่าหดเกร็งอย่างรุนแรง
เริ่มรักษาความสง่าผ่าเผยไว้ไม่อยู่……
ณิชามองดูปฏิกิริยาของเธอและยิ้มเบา ๆ แล้วตบไหล่ของเธอ “ใครก็สามารถทำให้ฉันอับอายได้ แต่คุณ... คือคนที่ ไร้ คุณสมบัติ ที่ สุด”
พอพูดจบ ณิชาก็ไม่ให้โอกาสกันญ่าได้โจมตีกลับ เอามือทั้งสองข้างเข็นรถเข็นแล้วหันหลังเดินออกไป
แต่พอเงยหน้าขึ้นมา ก็ต้องชะงักไปในทันที
ไม่รู้ว่าเวธัสเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ตตั้งแต่เมื่อไหร่ แค่ยืนอยู่หลังชั้นที่อยู่ห่างจากทั้งสองคนไม่เกินครึ่งเมตร!
เขาเดินออกมาจากหลังชั้นทีละก้าว เอามือข้างหนึ่งล้วงกระเป๋า ท่าทีเกียจคร้านราวกับเดินเล่นในลานบ้าน มีเพียงดวงตาที่เฉียบแหลมของนกอินทรีเท่านั้นที่แสดงให้เห็นความหนาวเย็น กวาดตามองไปที่กันญ่าแม้แต่อากาศโดยรอบก็เต็มไปด้วยความหนาวเย็น!!
กันญ่าเห็นว่าณิชาเดินไปได้สองก้าวก็หยุด ก็เลยหันไปมองด้วยความสงสัย ทันใดนั้นก็ขาก็อ่อนด้วยความตกใจทันที
“คุ...คุณเวธัส คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”
เวธัสเดินเข้าไปหาณิชาด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย หลังจากนั้นก็เข้ามาเข็นรถของเธอ “แค่ซื้อแป้งถุงเดียวทำไมใช้เวลานานขนาดนี้ ไปกันเธอ ไปดูว่าต้องซื้ออะไรอีกไหม?”
เขาไม่ได้มองกันญ่าเลยแม้แต่นิดเดียวด้วยซ้ำ
ใบหน้าของกันญ่าซีดราวกับกระดาษ ไม่รู้เลยว่าเขาได้ยินมากน้อยแค่ไหนกัน
“คุณเวธัส เรื่องราวไม่ได้เป็นเหมือนที่คุณคิดนะคะ ฉันกับณิชามีปากเสียงกันนิดหน่อย คำพูดพวกนั้นมันไม่ได้จริงเลย”เธอรีบเข้าไปกอบกู้ อยากจะอธิบายอะไรหน่อย แต่ว่าเรื่องแบบนี้ยิ่งอธิบายยิ่งเลอะเทอะ
ณิชาเห็นได้อย่างชัดเจนว่า ตอนที่สายตาของเวธัสมองไปที่กันญ่าอีกครั้งนั้น มันทั้งเงียบและเฉยเมย แต่คาดเดาไม่ได้ ทำให้ไม่สามารถเดาได้ว่าเขาโกรธหรือมีอารมณ์อย่างอื่น
กันญ่าใจสั่น หนังศีรษะชา เหงื่อออกเย็นทั่วร่างกาย และรู้สึกหวาดผวามากเพราะปฏิกิริยาของเขา...
ตอนที่เธอกำลังจะทนไม่ไหวนั้น จู่ๆเวธัสก็หยุดเดิน และพูดอย่างไม่แยแสว่า “พรุ่งนี้เช้าไปคุยกันที่คฤหาสน์เก่า อย่ามาสายล่ะ”
……
เวธัสเอารถเข็นไปแล้ว ณิชาก็เดินตามเขาไปด้วยมือเปล่า
แล้วก็แอบมองดูปฏิกิริยาของเขา……
ดูเหมือนกับว่าไม่ใช่อาการโมโห
คงไม่ได้ฟังในสิ่งที่เธอพูดก่อนหน้านี้สินะ
ดีแล้ว ตอนนี้เธอก็มีปัญหามากมายเลย ดังนั้นพยายามอย่าเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องระหว่างพวกเขาเลยจะดีกว่า
“ไหนคุณว่าซุปเปอร์มาร์เก็ตมีสายตาคนมากเกินไปไม่ใช่หรอ แล้วทำไมถึงตามเข้ามาล่ะ?” ณิชายิ้มและเอ่ยถาม
ใบหน้าที่หล่อเหลาของเวธัสดูเงียบขรึมเป็นพิเศษภายใต้แสงจ้า “ลืมเตือนให้คุณซื้ออะไรบางอย่างน่ะ”
“อะไรหรอ?”
เวธัสไม่ได้ตอบ แต่ใช้การกระทำในการตอบคำถามของเธอแทน——
เขาพาเธอไปที่บริเวณของใช้ประจำวัน
แปรงสีฟัน ผ้าเช็ดตัว ของใช้ส่วนตัวเต็มหน้าไปหมด
ณิชาเข้าใจในทันที
เธอตกลงแล้วว่าคืนนี้จะค้างที่คฤหาสน์สนธิไชย แต่ว่าที่คฤหาสน์สนธิไชยไม่ได้มีเจ้าบ้านผู้หญิง ก็เลยไม่ได้เตรียมของใช้ผู้หญิงในห้องน้ำ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊