“คุณแรกขวัญ เมื่อสองวันก่อนช่วงบ่ายแก่ๆ ผมได้มารับณิชาออกไปกินข้าวหลังเลิกงาน ผมเป็นพยานให้ได้ ตอนนั้นเธอก็ไม่เห็นได้รับใบแจ้งอะไรจริงๆ ผมเคยทำงานกับเธออยู่สักระยะ ผมเชื่อณิชาไม่ใช่คนเลียแข้งเลียขาพรรค์นั้นตามปากที่คุณพูด”
ณิชากับแรกขวัญชะเง้อมองไปตามต้นเสียง ซึ่งเป็นจังหวะที่ธนาเดินเข้ามาพอดี
หลังจากผ่านการฟื้นตัวของเมื่อวาน สภาพจิตใจของเขาดูเหมือนดีขึ้นมาเล็กน้อย แต่ตอนมองมาทางณิชา แววตายังคงสับสนมากอยู่เช่นเดิม
ณิชาไม่คาดคิดว่าธนาจะมาเอง
แม้ว่าทุกคนจะอยู่ในแผนกเดียวกัน แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะทำงานอยู่ในห้องออฟฟิศเดียวกัน
ธนาทำงานอยู่ติดกับห้องข้างๆ ของข้างๆ อีกที ซึ่งเท่ากับมีระยะห่างไกลอยู่มาก
ธนาเองก็ได้ยินพนักงานกำลังพูดว่าแรกขวัญกำลังต่อล้อต่อเถียงกับณิชา จึงได้ตาลีตาเหลือกวิ่งมาดูทันที
ซึ่งพอมาถึงก็ได้ยินแรกขวัญกำลังใส่ความข้อหาหนักๆ ให้ณิชาอยู่พอดีจริงๆ ...
แรกขวัญหลงรักธนามาตลอด ตอนที่เห็นเขามานั้นแววตาเปล่งประกายอย่างชัดเจน แต่เขากลับพูดออกหน้าแทนณิชา จนทำให้แรกขวัญโกรธมากกว่าเดิมขึ้นเยอะ
เธอถลึงตาให้ณิชา พร้อมทั้งถามอย่างก้าวร้าว “กับอีแค่ไปกินข้าวกับคุณนั่นก็แสดงว่าเธอเลยไม่รู้ข่าวคราวงั้นสิ? ณมนกับเธอเข้าขากันขนาดนั้น เมื่อวานทั้งวันก็ไม่ได้บอกกล่าวเธอเลยเหรอ? ธนา ที่นี่บริษัทนะ จะพูดจะจาหรือทำอะไรก็ต้องมีหลักฐาน ไม่ใช่อาศัยแค่ตัวคุณก็สามารถเอามารับประกันได้นี่...”
หลังจากพูดจบแล้ว เธอก็ยังพูดอย่างไม่สบอารมณ์ต่อ “หรือว่าข่าวลือที่ลือกันอย่างหนาหูในบริษัทจะเป็นความจริง คุณกับณิชาเป็นแฟนกัน คุณก็เลยออกโรงปกป้องแฟนของคุณงั้นสิ?”
“ไร้สาระ!” ธนาไม่อยากสร้างความลำบากใจให้ณิชา พลันตอบปฏิเสธทันควัน “ฉันกับณิชาเป็นเพื่อนกันเท่านั้นเอง ที่นี่คุณควรจะแยกแยะเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวให้มันน้อยๆ หน่อยสักทีเถอะ!”
“คนที่ไม่แยกแยะเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวน่าจะเป็นคุณมั้ง! เพื่อนกันต้องมารับเธอไปกินข้าวอาทิตย์ละสามครั้งเลยเหรอ แล้วยังต้องให้คุณเป็นห่วงเป็นใยขนาดนี้มั้ย?”
แรกขวัญทิ้งความคิดเรื่องใบแจ้งอะไรนั่นไปตั้งนานแล้ว คิดแค่อยากถกเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างณิชากับธนาแทน
ทั้งๆ ที่เธอยอดเยี่ยมกว่าณิชา อีกทั้งมีความสามารถในการทำงานมากกว่า แถมยังแสดงเจตจำนงที่ดีกับธนาหลายต่อหลายครั้งมาก ทำไมสายตาของธนากลับไม่เคยเห็นเลยสักครั้งนะ?
ธนาก็หมดความอดทนกับการถูกซักไซ่ไล่เรียงจากแรกขวัญแล้ว “นี่มันเป็นเรื่องส่วนตัวของผม คงไม่ต้องให้ผมมานั่งสาธยายให้คุณฟัง และก็ไม่มีความจำเป็นที่ต้องมาคุยกันในบริษัท คุณแรกขวัญ ผมอยากจะเตือนคุณไว้สักประโยคนะ ระวังคำพูดเอาไว้ด้วย”
เขาพูดจบ ก็ลากณิชาให้เดินก้าวยาวไปออกไปทางด้านนอก “ผมช่วยยื่นใบแทนคุณกับทางผู้อำนวยการแล้ว ให้คุณเป็นผู้ช่วยออกแบบให้ผม และก็ไม่ต้องทนทุกข์ใจกับความอยุติธรรมที่ไม่มีที่มาที่ไปอยู่ที่นี่แบบนี้อีก”
บุคคลผู้สูงส่งอย่างเช่นคุณเวธัส จะมาสร้างความเกี่ยวพันกับณิชาได้ยังไงกัน?
ธนายังจำได้ตั้งแต่ตอนแรกจนถึงเวลานี้ ตอนนั้นเพราะว่าต้องการหลบฝนจนต้องเข้าไปอยู่ในบ้านพักส่วนตัวของคุณเวธัส ณิชาก็เอาแต่ค้านคุณเวธัสหัวชนฝาอยู่ท่าเดียว
เขาหนักแน่นพอที่ไม่เชื่อว่าณิชาจะคิดให้ท่าคุณเวธัส....
ซึ่งมันเป็นคำใส่ร้ายป้ายสีของแรกขวัญทั้งสิ้น
ณิชายังไม่ทันตั้งสติจนหลุดพ้นจากการมีปากเสียงกันของธนากับแรกขวัญ พลันได้ยินธนาเอ่ยถึงว่าได้ยื่นขอเปลี่ยนตำแหน่งให้เธอแล้ว จนสมองมึนงงเล็กน้อย
“เอ่อ ธนาคุณฟังฉันพูดก่อน ความจริงตอนนี้ฉัน...”
“คุณเวธัส?”
แต่สิ่งที่คาดไม่ถึงก็คือ จังหวะที่ธนากับณิชาหันหลังให้นั้นก็มองเห็นเวธัสอยู่ตรงทางเดินของฝ่ายออกแบบ
เสียงณิชาค้างเติ่งกลางอากาศทันที
เขายืนห่างอยู่ห่างไกลไม่กี่เมตร พลันเอามือข้างหนึ่งซุกอยู่ในกระเป๋ากางเกง
ซึ่งทางด้านหลังมีนิต้าผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบกับโทนี่เดินตามหลังมาติดๆ
ซึ่งมีบานประตูกระจกปิดกั้นอย่างสนิท แต่ใบหน้าหล่อเหลาของเขาก็เหมือนบิดเบี้ยวเล็กน้อย
แววตาของเขาเปล่งประกายตั้งแต่เห็นณิชากับธนากุมมือกัน พลันมีรอยยิ้มจางๆ เรียบเฉยตรงมุมปากของเขาแต่รอยยิ้มเย็นยะเยือกสุดขีด ราวกับไม่มีความอบอุ่นใดๆ พอเห็นว่าพวกเขาหยุดมีปากมีเสียงทันที ถึงได้ย้อนถามทันที “ทะเลาะจบแล้วเหรอ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊
ตอน571-670หายไปไหนคะ ต้องทำไงถึงจะอ่านตอนที่ขาดไปได้...