กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊ นิยาย บท 246

ณิชาถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมา

ส่วนอรัลก็ตัดสินใจหนีไปกับแม่ในครั้งนี้ ซึ่งต่างจากครั้งก่อนๆ

ณิชาไม่ได้ถามหาเหตุผลอะไรมากมาย คิดแต่เพียงว่าต้องรีบออกไปจากโรงแรมให้เร็ว ส่วนปัณณ์…

ปัณณ์ฉลาดขนาดนั้น คงไม่เป็นอะไรหรอก ให้เธอกับอรัลหนีออกไปได้ก่อน แล้วค่อยคิดวิธีกลับมารับปัณณ์ เพราะถ้าเวธัสได้สติขึ้นมาตอนนี้ ทุกอย่างก็จะสายเกินไป

แต่ว่าณิชาคิดไม่ถึงเลยว่า เก้า หรือดนัยจะรอเธออยู่ที่ประตูหลังของโรงแรม

ณิชาแกล้งทำเป็นมองไม่เห็นเขา เธอจับมืออรัลและก้มหน้าก้มตาเดินตรงดิ่งออกไป…

“เธอไม่อยากรู้เหรอว่าปัณณ์อยู่ที่ไหน?” ดนัยพูดพลางก้าวเข้ามายืนบังณิชาไว้

ทำให้ณิชาต้องหยุดชะงัก แล้วเงยหน้าขึ้นมามองเขา

จากนั้น ดนัยก็หันไปส่งสายตาให้กับลูกน้อง

ไม่นาน ลูกน้องคนนั้นก็ได้ข้ามถนนไปยังอีกฝั่งที่มีรถจอดอยู่แล้วอุ้มเด็กผู้ชายคนหนึ่งออกมา

เด็กผู้ชายคนนั้นนอนหลับซุกตัวอยู่ในอ้อมอกของลูกน้องคนนั้น

ใบหน้าอ่อนนุ่มอันซีดเซียวของเด็กน้อย ทำให้รู้สึกเหมือนว่าเขากำลังประหม่า

ไม่ใช่ใครอื่นเลย นั่นคือปัณณ์

“ปัณณ์? ปัณณ์ ตื่นสิลูก…” ณิชาร้อนใจจนน้ำตาเริ่มคลอ และตบแก้มน้อยของปัณณ์เบาๆ

แต่ปัณณ์ก็ยังไม่ได้สติ และไม่มีท่าทีว่าจะตื่นเลย

“คุณทำอะไรปัณณ์?” ณิชาสงสารลูกน้อยจึงกอดเขาเอาไว้แน่น

ดนัยยังไม่ทันได้ตอบ นิต้าที่มาด้วยก็พูดแทรกขึ้นมาก่อนว่า “ณิชา เธอควรขอบคุณพี่เก้านะ ถ้าไม่ได้พี่เก้า ป่านนี้ลูกของเธอก็คงถูกฐานภพฆ่าตายไปแล้ว”

“…ฐานภพเหรอ?”

เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับฐานภพด้วย?

ณิชาเริ่มสับสน แต่ก็พอจะเดาออกว่า มันต้องไม่ใช่เรื่องดีอะไรแน่

แม้ว่าเธอจะเกลียดที่ดนัยหลอกใช้ตัวเอง แต่เขาก็ได้ช่วยเหลือเธอกับปัณณ์อยู่หลายหน

“ขอบคุณ คุณเก้า”

ดนัยมองณิชา ในตอนนี้น้ำตาเธอคลอเบ้าอยู่ มันคือภาพของแม่ที่กำลังเป็นห่วงลูกของตัวเอง

และเขาก็สัมผัสได้ว่าณิชารู้สึกขอบคุณจากใจจริง

ดนัยดันแว่นตากรอบทองที่เขาสวมอยู่ แสงจากดวงอาทิตย์สาดส่องลงบนผมสั้นที่หน้าผาก มีแสงบางส่วนส่องลอดผ่านระหว่างเส้นผมของเขา ทำมีแสงตกกระทบที่ใบหน้าระยิบระยับ

“กว่าจะได้ฟังคำขอบคุณจากเธอนี่ช่างเป็นเรื่องที่ยากซะเหลือเกิน แต่ก็ไม่ต้องเกรงใจนักหรอก”

ณิชา “…”

ดนัยหันไปมองเด็กน้อยตัวเล็กที่ยืนอยู่ข้างณิชา

ในตอนนี้ อรัลได้สวมหมวกเอาไว้ พร้อมกับสวมหน้ากากกับแว่นกันแดดอยู่ ทำให้เขาดูโดดเด่นมาก แต่ไม่ว่ายังไงอรัลก็ไม่ยอมถอดหน้ากากออกเลย

“อรัล ตัดสินใจจะไปกับหม่ามี๊แล้วสินะ?” ดนัยลงไปนั่งอยู่ในท่านั่งยองๆ แล้วฉีกยิ้มออกมาอย่างเป็นมิตร

อรัลเงยหน้าขึ้นมา แล้วมองไปที่ณิชาก่อน

เหมือนกำลังสงสัยว่า ดนัยรู้ได้ยังไงว่าพวกเขาเป็นใคร?

อรัลเม้มปากเอาไว้แน่น และไม่ได้พูดอะไร

ดนัยก็ชินกับอรัลที่เย็นชาและไม่ค่อยพูดอยู่แล้ว

ดนัยกับเวธัสเป็นศัตรูกันมาตลอด เขาจึงไม่ค่อยสนิทกับอรัลเท่าไร

และเด็กจะแสดงความเป็นตัวเองออกมา ก็ต่อเมื่ออยู่ต่อหน้าคนที่เขาสนิทใจด้วยเท่านั้น…

สำหรับ”คนอื่น” เขาก็จะรักษาระยะห่างและระมัดระวังตัวเป็นพิเศษ

โดยเฉพาะเด็กจากตระกูลสนธิไชย

“ฉันสั่งคนให้ไปส่งเธอที่สนามบิน” ดนัยค่อยๆ ลุกขึ้นยืน พลางพูดสั่งออกมา

ณิชาอดไม่ได้ที่จะถาม “ทำไมคุณถึงช่วยปัณณ์ แล้วยัง… ช่วยพาพวกเราหนีอีก?”

ดนัยเอามือข้างหนึ่งล้วงกระเป๋ากางเกงสูท และอาบแสงอาทิตย์ในเวลาเที่ยง กระจกแว่นตาได้บดบังสายตาแหลมคมของเขา เขาลูบหัวอรัล พลางยิ้มอ่อน

“ฉันบอกแล้วไงว่าเราต่างก็มีเป้าหมายเดียวกัน การช่วยให้เธอพาลูกของธัสหนีไปแบบนี้ มันทำให้ฉันรู้สึกชนะ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊