กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊ นิยาย บท 295

อรัลอยากได้เซทของเล่นสไปเดอร์แมนจริงๆ

แต่เขาอยากนอนกับณิชามากกว่า

ตั้งแต่มาที่ฝรั่งเศส พวกเขาทั้งหมดอยู่ด้วยกันตลอด เว้นแต่ตอนที่ณิชาจะยุ่งกับงาน

เห็นได้ชัดว่าคืนนี้ไม่ใช่แบบนั้น...

เด็กน้อยเลิกคิ้ว เขาหันกลับมา และบ่นกับณิชาว่า “หม่ามี๊ ปีศาจกษัตริย์กำลังพยายามติดสินบนเรา”

ณิชาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น “เขาติดสินบนพวกหนูด้วยอะไร”

“พ่อบอกว่าถ้าเราเชื่อฟังเขา เขาจะให้เซทของเล่นสไปเดอร์แมนกับเรา และยังสามารถขอให้นักแสดงที่เล่นบทสไปเดอร์แมนมาเล่นกับเราได้” อรัสตอบอย่างตรงไปตรงมา

ณิชาโกรธทันที เธอจ้องที่เวธัสด้วยความโกรธ “คุณสอนลูกแบบนี้ได้ยังไง”

“ผมแค่ทำตามความรับผิดชอบของพ่อ อีกอย่าง ก็แค่เป็นเด็กดีก็จะได้รางวัล แบบนี้ผิดเหรอ?” สีหน้าเวธัสไม่เปลี่ยนไป เขาสงบมาก ราวกับว่าเป็นณิชาเองที่เอะอะโวยวายเกินเหตุ

ณิชายิ่งโกรธมากขึ้น เห็นได้ชัดว่าเขากำลังแถ!

ด้วยความโกรธ ณิชาผลักเวธัสออกจากห้องนอนใหญ่

“ออกไป”

“คุณสวมแหวนเพชรของผมไปแล้ว คุณเป็นคนของผม คุณจะผลักผมไปที่ไหน” เวธัสยกแขนข้างหนึ่งขึ้นวางบนประตู ร่างสูงของเขานิ่งเฉย และณิชาก็เหงื่อออกเต็มตัว

สุดท้ายของสุดท้าย พวกเขาทั้งสี่ก็ต้องนอนด้วยกัน

ลูกทั้งสองคนนอนตรงกลาง ในขณะที่ณิชาและเวธัสนอนอยู่ขอบเตียงทั้งสองข้าง

โชคดีที่เตียงนี้เป็นเตียงขนาดใหญ่ ถึงแม้จะแคบไปหน่อยแต่ก็นอนหลับสบาย

แต่สีหน้าของเวธัสก็บูดบึ้งอย่างมาก

เห็นได้ชัดว่าคืนนี้ควรจะเป็นคืนที่โรแมนติกและอบอุ่นของพวกเขาทั้งสองคน แต่เขาต้องถูกรบกวนโดยเด็กน้อยสองคน ตอนที่อยู่บนเรือ ทำเขาต้องตอบตกลงกับณิชาว่าจะกลับมา?

เด็กน้อยสองคนนอนหลับสนิท และส่งเสียงร้องเล็กน้อย แต่เสียงเบามาก

แต่เวธัสที่นอนข้างเจ้าตัวเล็ก กลับรู้สึกว่าเสียงนั้นดังมาก

เขาพลิกตัวกลับไปมาเพราะนอนไม่หลับ

ในท้ายที่สุด เขาก็ลุกจากเตียงอย่างเงียบๆ แล้วไปที่ระเบียง มีตะกร้าชิงช้าแขวนอยู่ที่ระเบียง และบนเคาน์เตอร์ก็เต็มไปด้วยต้นไม้ต่างๆ

ลมหนาวพัดมา ทำให้ดับไฟทีร้อนรุ่มในใจเขา

หลังจากยืนอยู่ในระเบียงประมาณสิบนาที เวธัสก็ตั้งใจที่จะกลับไปที่ห้องนอนใหญ่

แต่เมื่อเขาหันกลับมา ก็พบว่าณิชายืนอยู่ข้างหลังเขา

นัยน์ตาของชายหนุ่มหรี่ลง ไม่ใช่เพราะตกใจกลัว แต่แปลกใจเล็กน้อย เขาไม่คิดว่าเธอเป็นฝ่ายเริ่มก่อน...

ณิชาหายใจเข้าลึกๆ และก้าวไปข้างหน้า “ฉันไม่สะดวกที่จะพูดอะไรบางอย่างต่อหน้าเด็กๆ”

เวธัสเม้มริมฝีปากบางของเขาเบาๆ เขาเงยหน้าขึ้นและจ้องมองไปที่เธอ ราวกับว่ากำลังรอประโยคต่อไปของเธอ

“ธนากับฉันเป็นแค่เพื่อนกันจริงๆ คุณไม่ควรเล่นงานไปที่เขาและครอบครัวของเขาอีก”

เป็นไปอย่างที่คิด เธอไม่ได้ตามเขามาเพราะจะคุยเรื่องเขา

“ผมจะชดเชยให้”

“ต่อไปถ้าไม่ได้รับความยินยอมของฉัน คุณห้ามไปบอกคนอื่นเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามันเกี่ยวข้องกับลูกชายของฉัน!”

“ได้” เวธัสค่อยๆ ยกริมฝีปากขึ้น “คุณมีอะไรจะพูดอีกไหม?”

ณิชาครุ่นคิดเรื่องนี้ จริงๆ เธออยากทำสัญญากับเขา แต่ที่นี่อากาศหนาวมาก เธอจึงส่ายหัว

“พูดเสร็จแล้ว ตาผมบ้าง”

ร่างของชายคนนั้นขยับไปมา และแขนยาวของเขาก็เอื้อมออกไปกอดเธอแน่นในทันใด

ในชั่วพริบตา เวธัสนั่งบนตะกร้าที่แขวนอยู่ ในขณะที่ณิชาก็นั่งอยู่บนตักของเขา เธอยังไม่ชินกับท่านี้ “คุณ...”

“อะไรที่คุณพูด ผมจะตกลงหมด แบบนี้คุณควรให้รางวัลผมหน่อยไหม”

“…” เขาเห็นว่าตัวเองเป็นเด็กหรอ?

ประตูระเบียงไม่ได้ปิด และเป็นประตูกระจกใส ลมหนาวยังคงพัดผ่านไปมาอยู่ ณิชาอยากจะลุกจากตัก แล้วพูดอย่างโกรธเคืองว่า “อย่าสร้างปัญหา เดี๋ยวเป็นหวัดจริงๆนะ”

“ผมจะพาคุณออกกำลังกายเพื่อให้เหงื่อออก จะได้ไม่เป็นหวัด”

ริมฝีปากของเธอถูกเขาปิดกั้นอีกครั้ง และฝ่ามือที่หยาบกร้านของเขาก็เลื่อนไปตามผิวหนังของเธอ...

ณิชารู้สึกละอายใจ เธอมักคิดเสมอว่าลูกเธออาจจะตื่นได้เสมอ

แถมยังเป็นระเบียงแบบเปิดโล่งด้วย ดังนั้นหากเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกันออกมา ก็สามารถเห็นได้ทันทีว่าพวกกำลังทำอะไรอยู่

“ก็รู้ว่าผมกำลังห้ามใจ แต่นี่คุณเอามาให้ถึงหน้าประตูเลยนะ?” เวธัสกัดติ่งหูของเธอ “คืนนี้ผมไม่น่าให้คุณลงจากเรือสำราญเลย! เราจะได้...“

เธอถูกเขากอดไว้แน่น ร่างกายของเธอถูกรัดไว้จนแน่น

“เข้าไปในห้องนอนแขก อย่าอยู่ที่นี่...”

“ผมชอบแบบเปิดโล่งมากกว่า ผมไม่เคยลองมาก่อน รู้สึกตื่นเต้นเหรอ?”

เขายกริมฝีปากบางของเขาขึ้น ก่อนจะหายใจออกข้างหูของเธอ

ลมหายใจอุ่นแผ่ซ่านไปตามแขนขาของเธอ บนผิวหนังของเธอขนลุกซู่ไปหมด เธอกอดคอเขาอย่างแผ่วเบา และคอเรียวก็เอนไปด้านหลังอย่างควบคุมไม่ได้...

……

วันรุ่งขึ้น เวธัสออกไปแต่เช้า เพราะมีการประชุมตอนเช้า

เอกมาช่วยณิชาและเจ้าตัวเล็กทั้งสองคนย้ายบ้าน

ห้องนอนสองห้อง ถ้าผู้ใหญ่อยู่กับเด็กสองคนก็น่าจะอยู่ได้ ถ้าเพิ่มเวธัสเข้าไป มันจะอึดอัดมากขึ้น

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เวธัสดูเหมือนจะไม่เรื่องมาก แต่จริงๆ แล้วเขาใส่ใจในรายละเอียดของชีวิตเป็นอย่างมาก ของใช้ในชีวิตประจำวันต้องใช้แบรนด์โดยเฉพาะเท่านั้น เหมือนกับว่าทั้งบ้านต้องเปลี่ยนของเกือบทุกชิ้น

มันยุ่งยากมาก ณิชาจึงย้ายไปที่คฤหาสน์สนธิไชยเอง

อาจเป็นเพราะรู้สึกไม่ปลอดภัยมาตลอด จริงๆ แล้ว ที่บ้านไม่ค่อยมีของอะไรมาก เธอสามารถเก็บกระเป๋าและออกไปได้เลย

เอกขับรถพาแม่ลูกทั้งสามไปที่คฤหาสน์สนธิไชยในเขตชานเมือง

กล่าวกันว่าเป็นคฤหาสน์สนธิไชย แต่แท้จริงแล้วเป็นปราสาทเก่าแก่

เอกพูดแนะนำตลอดทาง “นี่เป็นทรัพย์สินที่นายท่านซื้อไว้ตั้งแต่เมื่อก่อน มีประวัติยาวนานกว่า 250 ปี ข้างในมีโบราณวัตถุและงานศิลปะอยู่ค่อนข้างมาก...”

“บ้านปีศาจกษัตริย์ก็เหมือนพิพิธภัณฑ์เลย” ปัณณ์ยิ้ม

เอกหัวเราะเบาๆ “ถ้าคุณหนูชอบ คุณสามารถขอให้คุณผู้ชายโอนทรัพย์สินนี้ให้กับคุณได้นะ”

เด็กน้อยส่ายหัวอย่างเย่อหยิ่ง “ไม่ หม่ามี๊สอนผมว่า ให้พยายามเพื่ออะไรก็ตามที่ตัวเองชอบ ไม่มีทางได้อะไรมาโดยไม่ทำอะไร”

“แต่นี่เป็นมรดกตกทอดจากรุ่นพ่อ คุณพยายามมามากพอแล้ว”

ดวงตาของปัณณ์เบิกกว้าง “พยายามแล้วเหรอ?”

“แน่นอน คุณทุ่มเทความพยายามเพื่อเข้าไปอยู่ในท้องของคุณณิชา และกลายเป็นลูกชายของคุณธัส นี่ต่างก็ถือว่าพยายามทั้งนั้นแหละ?”

“...” เด็กน้อยเบ้ปาก หันศีรษะแล้วเอนตัวเองเข้าไปในอ้อมแขนของณิชา

รู้สึกเหมือนตัวเองถูกหลอกยังไงไม่รู้

แต่ณิชากลับรู้สึกตลก ใช่ การพยายามมาเกิดในครอบครัวที่ร่ำรวย มันก็ถือว่าเป็นความพยายามเหมือนกัน?

แต่ความพยายามแบบนี้ มันขึ้นอยู่กับโชคชะตา และไม่มีใครสามารถคาดเดาอะไรได้อย่างแน่นอน

สาวใช้พาณิชาไปสำรวจปราสาท ด้วยเหตุผลบางอย่าง ณิชารู้สึกถึงความรู้สึกคุ้นเคยที่อธิบายไม่ได้เมื่อเธอมาถึงปราสาท

ดูเหมือน...เธอเคยมาที่นี่มาก่อนเหรอ?

แต่เธอมั่นใจว่าถ้าเธอเคยมาที่นี่ เธอจะต้องจำได้

เพราะในนี้แม้แต่เตียงที่นี่ก็ยังเป็นของเก่า

เมื่อเปิดตู้เสื้อผ้า ก็มีเสื้อผ้าของเธอและเวธัสเต็มไปหมด

ทั้งหมดเป็นของใหม่ ไม่มีแม้ป้ายห้อย

สาวใช้จึงรีบอธิบาย เพราะกลัวเธอเข้าใจผิด “ของพวกนี้คุณผู้ชายเพิ่งสั่งให้ซื้อมาใหม่ ตามไซต์ของคุณผุ้หญิงเลย คุณเป็นผู้หญิงคนแรกที่คุณผู้ชายพาเข้ามาในปราสาท”

ณิชายิ้ม ตอนแรกเธอก็ไม่ได้สงสัยอะไร

นอกจากนี้ สาวใช้ยังบอกเธอว่าหลังปราสาทมีป่าอยู่ไม่ไกล ป่าเป็นของตระกูลสนธิไชย และพวกสัตว์ตัวเล็กๆ ถูกเลี้ยงไว้ในนั้น ถ้าเบื่อก็ไปเดินเล่นที่นั่นได้

ณิชาตกตะลึง ดูเหมือนว่าเมื่อก่อนเธอเป็นแค่ครอบครัวที่ร่ำรวยแบบปลอมๆมาก่อน

หลังจากเก็บของใช้ประจำวันที่เธอนำมา หลังอาหารกลางวัน ณิชาก็พาเด็กน้อยสองคนไปพักผ่อน

ณิชานอนอยู่บนเตียงขนาดใหญ่ที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน เธอรู้สึกแปลกมากขึ้นเรื่อยๆ

ความคุ้นเคยนั้นกลับมาอีกครั้ง!

เธอเคยมาที่นี่ตอนไหนกัน?

เธอตื่นขึ้นมาเพราะเสียงผู้หญิงชั้นล่าง...

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊