“หม่ามี๊รู้แล้วเหรอ? ” ดวงตาของอรัลเบิกกว้างเป็นวงกลม สีหน้าดูไม่เป็นธรรมชาติ
เวธัสหักข้อมือ ในปากของเขายังคงมีกลิ่นบุหรี่อยู่จางๆ “ฉันกำลังถามแกว่าทำไมถึงไม่บอกฉัน? ”
“ผม……”
“ปีศาจกษัตริย์ คุณกับผู้หญิงไม่ดีคนนั้นเรียบร้อยกันแล้วงั้นเหรอ? ”ปัณณ์อึ้งไป ทำท่าทางเหมือนกับได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง “ถ้ายังงั้นหม่ามี๊ล่ะ? หม่ามี๊ผมจะทำยังไง? ”
“เรียบร้อยกันแล้วอะไรกัน? ระหว่างพวกเรามันไม่ได้เกิดอะไรขึ้นทั้งนั้นแหละ”เวธัสหน้าถมึงทึง สายตาดูเย็นชา
อรัลสับสนไปครู่หนึ่ง เขาแน่ใจว่าคืนนั้นเห็นกันญ่าเดินออกมาจากห้องของเวธัสจริงๆ ก็เลยโต้ตอบด้วยท่าทีที่มั่นใจ “พ่อครับ ตอนนั้นผมเห็นทุกอย่างแหละ ไม่ต้องเถียงข้างๆ คูๆ แล้ว”
ไม่มีทางเชื่ออะไรเขาหรอก!
ร่างกายที่สูงยาวของเวธัสลุกขึ้นยืน บรรยากาศรอบๆ นั้นเต็มไปด้วยความกดดันที่เข้มข้น
“พ่อบอกไม่มีก็คือไม่มี ลูกรู้รึเปล่าว่าเรียบร้อยกันแล้วมันหมายความว่ายังไง? พ่อกับณิชาเรียบร้อยกันแล้วถึงได้มีพวกลูกไง!ต่อไปอย่าพูดเรื่องนี้ขึ้นมาอีก!”
เวธัสพูดออกมาอย่างหงุดหงิด แล้วก็หันไปหยิบเสื้อสูทสีดำแล้วก็เดินออกไปด้านนอก
ป้าบุญเห็นว่ามันดึกมากแล้วก็อดรู้สึกกังวลไม่ได้ “คุณเวธัสคะ นี่มันสามทุ่มกว่าเลย คุณ……”
“ดูแลเด็กสองคนนั้นให้ดีๆนะ อย่าให้พวกเขานอนดึก”
น้ำเสียงของเวธัสนั้นทุ้มต่ำและเต็มไปด้วยความกดดัน ป้าบุญก็เลยไม่กล้าพูดอะไรต่อ
ปัณณ์โกรธจนควันออกหู
ปีศาจกษัตริย์หักหลังหม่ามี๊ แถมตอนนี้ยังมาดุเขากับอรัลอีกงั้นเหรอ?
เขาพาหม่ามี๊ของเขาไปไว้ที่ไหนกันแน่?
“ปีศาจกษัตริย์ ห้ามไปไหนนะ !”ปัณณ์ตะคอกใส่ด้านหลังของเวธัส
ชายคนนั้นไม่ได้หยุดเดิม แถมยังก้าวเดินเร็วขึ้นกว่าเดิมอีก
และไปถึงหน้าประตูภายในพริบตาเดียว ……
ขาสั้นๆ ของปัณณ์วิ่งไม่ทันฝีก้าวของชายหนุ่ม เขาก็เลยหยิบแอปเปิลลูกหนึ่งมาจากโต๊ะกาแฟ แล้วก็ปาใส่แผ่นหลังของชายหนุ่มคนนั้น
แต่คาดไม่ถึงว่าเวธัสนั้นจะเป็นคนที่คล่องแคล่วว่องไวขนาดนี้ เขาสัมผัสได้ถึงการเคลื่อนไหวในอากาศ แล้วก็พลิกมือมารับแอปเปิลลูกนั้นได้อย่างรวดเร็ว
ท่าทางคล่องแคล่วว่องไว สายตาไม่สั่นไหวเลยแม้แต่นิดเดียว ยังคงดูเย็นชาเหมือนเดิม
ปัณณ์ถึงกับอ้าปากค้าง
……เขารู้สึกว่าท่าทางเมื่อกี้นี้มันดูเจ๋งมากเลย
“จ้องทำไม? ลูกตาของปัณณ์ก็ไม่ได้เล็กไปกว่าคุณหรอกนะ !”ปัณณ์ถอนตัวจากการจ้องตากับเวธัส แล้วก็หยิบแอปเปิลอีกลูกขึ้นมาอีกถาด สายตาฉายแสงปีศาจน้อย “ผมไม่เชื่อหรอกว่าคุณจะรับได้สองลูกน่ะ!”
“กล้าโจมตีฉันงั้นเหรอ? ” เวธัสหรี่ตา “อยากโดนกักบริเวณรึไง? ”
ใบหน้าของปัณณ์นั้นบูดบึ้ง ไม่ได้กลัวเลยแม้แต่นิดเดียว
แต่ว่าเขายังไม่ทันพูดอะไร อรัลก็ดึงชายเสื้อของเขา พร้อมกับหันไปพูดกับเวธัสด้วยความเคารพว่า “ขอโทษด้วยนะครับพ่อ พวกเรากำเริบเสิบสานไปเองจริงๆ ”
เวธัสปาแอปเปิลลงบนพื้นจนเป็นรอยยาว
แอปเปิลถูกปาลงพื้นและน้ำของมันก็กระจายไปทั่ว
“อรัล ทำไมนายต้องกลัวเขาด้วย? ” ปัณณ์รู้สึกสงสารแอปเปิลลูกนั้น หม่ามี๊เคยสอนไว้ว่าอย่าใช้อะไรสิ้นเปลือง
พออรัลแน่ใจแล้วว่าเวธัสเดินไปไกลแล้ว ก็กระซิบพูดว่า “ถ้าเกิดว่าเกิดอะไรขึ้นกับหม่ามี๊จริงๆ แต่พวกเราถูกพ่อกักบริเวณไว้ แล้วใครจะไปช่วยหม่ามี๊ล่ะ? ”
“……” สายตาของปัณณ์มืดลงเล็กน้อย แล้วก็พูดด้วยน้ำเสียงเย่อหยิ่งเล็กน้อย “ก็ถือว่าที่นายพูดก็มีเหตุผล”
“ฉันจำเบอร์พี่อลิสาเพื่อนร่วมงานของหม่ามี๊ได้อยู่ โทรหาเธอก่อนเพื่อเช็กว่าหม่ามี๊อยู่ที่บริษัทรึเปล่า”อรัลวิเคราะห์ต่อ
ใบหน้าที่อ่อนเยาว์นั้นเต็มไปด้วยความสงบและมีประสบการณ์ คนที่ไม่รู้คงคิดว่าเขากำลังคิดวิเคราะห์เรื่องใหญ่ระดับประเทศอยู่ก็เป็นได้
ดวงตาเล็กๆ ของปัณณ์เป็นประกายขึ้นมาทันที เขาดีดนิ้วเบาๆ และพูดว่า “ลุงเอกเป็นคนพาหม่ามี๊ออกไป ฉันยังจำป้ายทะเบียนรถคนนั้นได้อยู่ เดี๋ยวไปที่โรงจอดรถแล้วก็หากล้องติดรถยนต์ของรถคันนั้นกัน”
“ถ้ายังงั้นพวกเราแยกย้ายกันไปจัดการนะ GO!”
ฝาแฝดทั้งสองคนหารือกันเรื่องกระบวนการต่างๆ อย่างรวดเร็ว และหลังจากนั้นคนหนึ่งก็แบ่งไปที่โรงจอดรถ ส่วนอีกคนหนึ่งก็ขึ้นไปสืบต่อที่ชั้นบน
หลังจากผ่านไป20นาที เด็กน้อยทั้งสองคนก็แลกเปลี่ยนข้อมูลให้กันและกัน
และก็มีความคิดที่น่าหวาดกลัวผุดขึ้นมาในหัว……
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊
ตอน571-670หายไปไหนคะ ต้องทำไงถึงจะอ่านตอนที่ขาดไปได้...