กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊ นิยาย บท 340

ในไม่ช้าเธอก็ได้สติทันที เธอเดินไปทางณิชาด้วยความประหลาดใจ รอยยิ้มที่มุมปากของเธอไม่สามารถหุบได้เลย

“ณิชา? โอ้ แกกลับมาเมื่อไหร่...ไม่ให้บอกฉันล่วงหน้าเลย! เจนนี่บอกว่าแกไปทำงานต่างที่ และพาลูกทั้งสองคนไปด้วย...“

ณิชาขอให้เจนนี่บอกกับสิดาแบบนี้ คิดไม่ถึงสิดาจะเชื่ออย่างนั้นจริงๆ

ในขณะที่สิดาพูด ดวงตาของเธอก็แดงก่ำเล็กน้อยอีกครั้ง

หลังจากที่ตระกูลสถานนท์ล้มละลายมาหลายปี เธอก็เคยชินกับการอยู่กับณิชากับปัณณ์แล้ว

ห่างหายกันไปนานขนาดนี้ ใจเธอก็ยังรู้สึกโหว่งๆ...

“หนูกลับมาแล้วนี่ไง แม่ อย่าร้องไห้เลยนะ” ณิชารีบน้ำตาให้สิดา “หนูขอโทษ ตอนนั้นหนูรีบจนไม่ทันได้บอกลาแม่เลย ..”

สิดาขยี้ตาของเธอ และจ้องไปที่เธอด้วยใบหน้าที่มีน้ำตานอง “คราวนี้พวกแกจะจากไปอีกไหม ถ้าไปอีก ก็พาฉันไปด้วยนะ ฉันอยู่บ้านคนเดียว ไม่มีใครคุยกับฉันเลย”

“ไม่ไปแล้ว ต่อไปนี้ไม่ไปไหนแล้ว!”

ณิชาเข้าไปในอ้อมแขนของสิดา เธอรู้สึกอบอุ่นหัวใจ

ดูเหมือนว่าสิดาไม่ได้มีท่าทีใจร้ายเหมือนเมื่อก่อน

“ไม่ไปไหนก็ดีแล้ว…” สิดาคร่ำครวญและตบหลังณิชา เธอไม่เห็นเด็กน้อยในห้องนั่งเล่น เธอปล่อยณิชาและถามว่า “น้องปัณณ์ล่ะ”

“ปัณณ์อยู่กับเวธัส”

ณิชาสูดจมูก เธอไม่อยากปิดบังสิดาอีกต่อไปแล้ว

เธอตัดสินใจจะอยู่กับเวธัส ต่อไปเขาน่าจะมีเวลามาที่บ้านมากขึ้น

ถ้าไม่พูดให้ชัดเจน คราวหน้าต้องโกหกไปเรื่อยๆ

ดวงตาของสิดาเป็นประกาย และเธอมองสำรวจณิชาขึ้นๆ ลงๆ ราวกับว่าในที่สุดก็ยอมแล้ว

“ก็ว่าทำไมอยู่ดีๆ ก็หนีไปโดยไม่บอกไม่กล่าว แกพาลูกไปสร้างสัมพันธ์ที่ดีแบบพ่อลูกกับเวธัสใช่ไหม ไปถึงขั้นไหนแล้ว ได้กันหรือยัง? ฉันจะบอกให้นะ การที่จะจับไฮโซอย่างเวธัสให้อยู่หมัด วิธีที่ดีที่สุดคือให้แกต้องตั้งท้องลูกอีกคน...”

ณิชามองขึ้นไปบนท้องฟ้าอย่างหมดคำจะพูด

แน่นอนว่าไม่คสรคาดหวังกับสิดามากเกินไป...

……

ในช่วงสุดสัปดาห์ ณิชาดูแลงานบ้าน และในที่สุดก็มีเวลาไปรับเด็กทั้งสองคน

ลุงชัยต้อนรับณิชาให้เข้ามาในห้องโถงอย่างอบอุ่น

“คุณณิชา คุณกลับมาสักที” ลุงชัยสั่งให้คนรับใช้มาเสิร์ฟชา เขาแอบขยี้ดวงตาของเขาด้วย “ช่วงที่คุณไม่อยู่ คุณชายทรมานบาก...”

นี่คือคนที่สามที่เธอได้ยินคำพูดเหล่านี้ออกมา

สองคนแรกคือเอกและโทนี่

ตอนนั้นพวกเขาอยากเกลี้ยกล่อมณิชาและเวธัสให้คืนดีกัน รวมทั้งในเวลานั้น ณิชาไม่ได้สนใจเวธัสเลย และเธอก็ไม่สนใจคำพูดของพวกเขา

ที่จริงเธอก็สามารถจินตนาการได้ เพราะเธอและปัณณ์ได้สร้างปัญหาใหญ่ไว้ เวธัสต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการทำให้ความวุ่นวายสงบลง ทันใดนั้นหัวใจของเธอก็เต้นแรงอย่างกะทันหัน

เธอจิบชาจากแก้วในมือ...

“หม่ามี๊!” ทันใดนั้นเสียงที่นุ่มนวลและน่ารักทั้งสองก็ดังขึ้นจากบันได

ณิชามองตามเสียงไป เวธัสตัวน้อยสองคนกำลังลงมาจากบันได ก่อนที่พวกเขาจะวิ่งเข้าหาเธอด้วยใบหน้าประหลาดใจ

มือที่ถือแก้วน้ำก็สั่น และณิชาก็รีบวางแก้วน้ำลง...

เด็กทั้งสองวิ่งเข้าไปในอ้อมแขนของเธอ

ณิชานั่งยองๆ อยู่ตรงที่โซฟา เธอกอดเด็กน้อยสองคนไว้แน่น เธอได้กลิ่นหอมจางๆ ของนมจากบนร่างกายพวกเขา ดวงตาของเธอแดงก่ำอย่างอดไม่ได้ นี่คือลูกๆ ของเธอ ในที่สุดเธอก็ได้เจอพวกเขาอีกครั้ง

เด็กน้อยทั้งสองก็เหยียดแขนออกไปคนละข้าง โดยเอาแขนโอบรอบคอของเธอไว้ และสูดกลิ่นหอมของหม่ามี๊

ก่อนที่ณิชาจะได้พูด เธอรู้สึกว่าไหล่ของเธอเปียกเล็กน้อย

“ปัณณ์ อรัล ” หัวใจของณิชาสั่นไหว

“…” เด็กน้อยสองคนซบหน้าอยู่ตรงใต้คอของเธอและไม่พูดอะไร แต่ไหล่ของพวกเขากำลังสั่น

พวกเขาร้องไห้!

ณิชารีบปล่อยพวกเขาออก

“เราดีใจจนร้องไห้” อรัลพูดดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา

เด็กน้อยรีบเช็ดน้ำตา

ณิชาจูบหน้าผากของเด็กน้อยอย่างอ่อนโยน “หม่ามี๊สัญญากับลูกๆว่า ต่อไปเราจะไม่แยกจากกันอีก”

เธอมองสำรวจพวกเขาอีกครั้ง เพื่อทำให้แน่ใจว่าพวกเขาไม่ได้รับบาดเจ็บ ไม่เหมือนที่ปัณณ์พูดว่าถูกรังแกเลย เธอรู้สึกโล่งอก

แม่ลูกทั้งสามนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นเป็นเวลานาน เวธัสยืนอยู่ที่ราวบันไดบนชั้นสองและเฝ้าดูพวกเขาที่กำลังพูดคุยกัน

มันเป็นช่วงเวลาที่อบอุ่นมาก แต่ใบหน้าที่หล่อเหลาของชายคนนั้นกลับดูเย็นชา

ตอนที่พวกเขากลับมาพบกันอีกครั้ง เธอไม่เคยกระโดดเข้ามาหอมเขา

ลูกยังเด็กอยู่ ก็เลยได้รับการดูแลอย่างดีเหรอ?

อีกไม่นานก็จะสี่ขวบแล้ว!

……

เด็กน้อยสองคนกลับไปที่หมู่บ้านออเรนจ์พร้อมกับณิชา

แต่บ้านในหมู่บ้านออเรนจ์นั้นเล็กไป อาศัยอยู่ไม่ได้ และพวกเขากำลังเติบโต แถมยังต้องไปโรงเรียน ต่อไปของใช้ส่วนตัวของพวกเขาก็มากขึ้นเรื่อยๆ

ในที่สุด ณิชาก็ตัดสินใจให้พวกเขาอยู่ในคฤหาสน์สนธิไชยต่อ

ตอนที่เวธัสได้ยินคำพูดนี้ของเธอ เขาก็ขมวดคิ้วอย่างเงียบๆ

หลังอาหารกลางวัน เวธัสก็ถือโอกาสลากเธอไปที่สวนหลังบ้าน

คนงานดูแลสวนอย่างพิถีพิถัน ดอกไม้ก็เบ่งบานอย่างงดงาม นอกจากนี้ยังมีชั้นวางของสำหรับให้ร่มเงาด้วย ข้างบนเถาวัลย์รายล้อม ด้านล่างไม่มีอะไร

ในฤดูร้อนสามารถมาคลายร้อนที่นี่ได้

เวธัสให้ณิชายืนตรงใต้เถาวัลย์ ก่อนจะกัดริมฝีปากของเธอเพื่อลงโทษ

“คุณไม่ได้ตั้งใจที่จะอยู่ในคฤหาสน์สนธิไชยเหรอ?”

มุมปากของณิชาถูกเขากัดจนเจ็บ แต่เธอไม่กล้าที่จะร้องออกมา

เธอรู้ว่าเขาจะไม่พอใจ

“ฉันต้องไปรายงานตัวที่สำนักงานใหญ่ของวีเอสเอ กรุ๊ปเมืองพร คฤหาสน์สนธิไชยอยู่ไกลเกินไป และอย่างที่สองคือในฐานะนายหญิงของตระกูลสนธิไชย คุณปู่ของคุณไม่ชอบฉัน ถ้าฉันอาศัยอยู่ที่นี่ เขาต้องเกลียดฉันมากกว่านี้แน่ๆ”

“เราไปจนทะเบียนสมรสกันเถอะ หลังจากแต่งงานก็จะได้เปิดเผยไปเลย”

เวธัสบีบคางของเธอและเริ่มบังคับให้เธอแต่งงานด้วย

“อาชีพการงานของฉันยังไม่ดีขึ้นเลย ตอนที่ฉันยืนเคียงข้างคุณ คนอื่นก็คงจะเอาแต่พูดว่า นั่นเป็นผู้หญิงของเวธัส แต่ฉันก็อยากจะพยายามเช่นกัน เพื่อที่คนอื่นจะได้พูดว่า เวธัสเป็นผู้ชายของณิชาบ้าง”

ดวงตาสีเข้มของณิชาเปล่งประกาย ก่อนจะจ้องมองเขาอย่างลึกซึ้ง

เธอดึงชายเสื้อของเขาอย่างเอาใจ ก่อนจะดึงอีกครั้ง

ดูเหมือนลูกสุนัขตัวเล็กๆ ที่น่าสงสาร ที่เอาแต่ใช้อุ้งเท้าเล็กๆ คุ้ยเขี่ยตรงหน้าอกของเขา...

เวธัสตกตะลึงกับท่าทีของเธอ

อีกอย่าง เขาแพ้ให้กับท่าทีที่อ่อนโยนแบบนี้ของเขา

ความเย็นชาระหว่างคิ้วของเขาหายไป

ณิชายังคงพยายามต่อไป เธอวางมือของเธอบนเอวของเขาแทน เนื่องจากความแตกต่างของความสูง เธอจึงต้องเงยหน้ามองเขาเท่านั้น

“อีกอย่างฉันก็ชอบชีวิตที่ตกหลุมรักคุณในทุกๆ วัน เมื่อแต่งงานไปแล้ว ในทุกๆ วันก็ต้องใช้ชีวิตแบบราบเรียบ น่าเบื่อมากเลยนะ? ธัส พี่ธัส ตอบตกลงกับหนูเถอะ...”

ดวงตาของเวธัสลึกซึ้ง เขาจ้องไปที่เธออย่างร้อนแรง เขาอยากจะเห็นท่าแท้ของจิตวิญญาณของเธอ

“เมื่อกี้คุณเรียกผมว่าอะไรนะ? เรียกอีกรอบสิ”

ณิชาเพิ่งตระหนักได้ว่าเธอไม่มีขีดจำกัดเลย แก้มของเธอแดงด้วยความอาย เธอกัดริมฝีปากเชอร์รี่ของเธอและหยุดพูด เพื่อป้องกันไม่ให้เวธัสรีบแต่งงานเร็วเกินไป เธอสูญเสียความซื่อสัตย์ทั้งหมดของเธอไปแล้ว...

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊