“ผู้อื่นสูญเสียลูกสาวไป คุณชดเชยให้มันจะมีประโยชน์อะไร”
“ในสายตานายทุนอย่างพวกคุณ ก็แค่พูดว่าชดเชยประโยคเดียวหรอ นั่นคือชีวิตคนเป็นๆคนหนึ่งเลยนะ!”
“หลังจากฉันกลับไป จะต้องเขียนเรื่องราวตั้งแต่ต้นจนจบออกมา ให้คนรู้ว่าถึงหน้าตาของ วีเอสเอ กรุ๊ปของพวกคุณเยอะกว่านี้!”
“พวกคุณควรจะถูกจับเข้าคุก! ในวันหลังจะได้ไม่มีใครเจอดีไปมากกว่านี้…”
ไม่รู้ว่าใครในกลุ่มนักข่าวที่ตะโกนสองสามประโยคนี้ขึ้นมากะทันหัน อารมณ์ของมวลชนถูกยั่วยุ จึงพากันใช้สายตารังเกียจเดียดฉันท์มองไปทางณิชา ราวกับว่าเธอเป็นคนสร้างบ้าน คนก็ถูกเธอทำร้ายจนตาย
ณิชายังคงไม่ได้รับผลกระทบอันใด จ้องผู้หญิงคนนั้นต่อไป
“จากที่ฉันรู้มา คนที่เข้าพักอาศัยในบ้านฟอร์มาลดีไฮด์และเป็นโรคมะเร็งก็คือผู้ชายคนหนึ่ง คุณผู้หญิง คุณจำผิดหรือเปล่าคะ ลูกสาวของคุณพักที่อาคารของบริษัทอื่นแล้วเป็นโรคมะเร็ง?”
“ฉัน…ฉันไม่ได้จำผิด เป็นคอนโดของพวกคุณ!”
“ถ้าอย่างนั้นดูท่าข้อมูลของพวกเราจะผิดพลาด ชดเชยได้ไม่ครบถ้วน รบกวนคุณช่วยบอกเลขตึกและหมายเลขห้องที่แน่นอนหน่อยค่ะ ฉันจะไปปรึกษากับท่านประธานว่าจะจัดการแก้ไขอย่างไร” ณิชาเอ่ยต่อ
“…เวลาผ่านไปนานขนาดนั้นแล้ว ฉันจะจำได้อย่างไร” หญิงวัยกลางคนได้ยินว่าจะมีการชดเชยก็นัยน์ตาเป็นประกาย ตะคอกกลับอย่างไร้เหตุผลต่อไป
สายตาณิชาเปลี่ยนเป็นคมกริบทันที “ลูกสาวคุณเป็นมะเร็งเสียชีวิต ยืนยันหนักแน่นว่าเป็นเพราะบ้านฟอร์มาลดีไฮด์ ถ้าอย่างนั้นกระทั่งผู้ร้ายที่ทำให้เกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับลูกสาวคุณ อยู่ที่ชั้นไหนตึกใด คุณล้วนลืมหมดแล้วหรือคะ นี่คือสิ่งที่คุณพูดปาวๆว่าจะทวงความยุติธรรมให้กับลูกสาวอย่างนั้นหรอ”
หญิงวัยกลางคนอ้าปาก คำพูดมาถึงริมฝีปากแล้วแต่ก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มพูดอย่างไร สีหน้าก็เริ่มขาวซีด
ณิชาจี้ถามต่อว่า “หรือจะพูดว่า เดิมคุณก็ไม่ใช่ญาติผู้เสียหายในปีนั้น แต่คิดจะถือโอกาสฉกฉวยผลประโยชน์ในขณะที่เกิดเหตุการณ์สับสนวุ่นวาย?!”
“…” อากาศสงบนิ่งไปหนึ่งวินาที
จากนั้น เหล่านักขาวก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่างได้ จึงกระซิบกระซาบกัน
“ไม่หรอกมั้ง ลูกสาวถูกห้องชุดนั้นทำร้ายจนตาย กระทั่งตึกไหนเธอก็จำไม่ได้แล้ว?”
“ผู้หญิงคนนี้คงจะไม่ได้ถือโอกาสรีดไถเงินหรอกนะ?”
“แม่ง หลอกใช้ความเห็นอกเห็นใจของพวกเรา! นักธุรกิจที่ไร้คุณธรรม มุ่งแต่การค้ากำไรเกินควรก็สมควรจะรายงานข่าว แต่พวกเราถูกใช้เป็นเครื่องมือในการโจมตีคนอื่นแน่นอน!”
“พวกคุณคิดมากเดินไปแล้วมั้ง ลูกสาวผู้อื่นถูกฆ่าตาย เเน่นอนว่าเธอไม่อยากคิดย้อนกลับไปถึงเรื่องในอดีตที่น่าเจ็บปวดนั่นหรอก!” ทันใดนั้น ชายคนหนึ่งที่ยั่วยุอารมณ์ของเหล่านักข่าวก่อนหน้านี้คนนั้นก็เอ่ยอธิบายออกมาอีกรอบ จึงดึงความสนใจจากหญิงวัยกลางคนได้ในชั่วพริบตา
เธอรีบยืดแผ่นหลังตรง ชี้นิ้วไปที่หัวใจและร้องไห้ปานจะขาดใจด้วยความรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมอย่างที่สุด
“ฉันไม่ได้ชอบเงินสกปรกพวกนั้นของคุณหรอกนะ! หลายปีมานี้ ก็เป็นเพราะ บ้านฟอร์มาลดีไฮด์ของพวกคุณ ฉันถึงได้สูญเสียลูกสาวไป เศร้าโศกเสียใจแทบแย่ ห้องชุดห้องนั้นฉันทนไม่ได้ที่จะคิดถึงมัน และไม่อยากจะเอ่ยถึง จึงมีเจตนาที่จะลืมเลขยูนิตไป! เป็นเพราะคุณ! เพราะพวกคุณที่ฆ่าลูกสาวของฉัน!”
หยาดน้ำนทรินไหลตามความรู้สึกที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมของเธอ นัยน์ตาแดงก่ำคู่สั้นเต็มไปด้วยความทุกข์ทรมานจากการสูญเสียลูกสาวไป เหล่านักข่าวจึงไม่มีอะไรจะพูดไปชั่วขณะ
เวธัสมองนักข่าวชายที่เป็นแกนนำอยู่กลางกลุ่มคนคนนั้น
การยั่วยุอารมณ์ในทุกครั้ง เขาล้วนทำได้พอเหมาะพอดี
วันนี้ที่ถูกนักข่าวล้อมเอาไว้ จะต้องมีการวางแผนล่วงหน้าแน่นอน
ส่วนอีกด้านหนึ่ง ณิชาที่ได้ยินคำอธิบายของหญิงวัยกลางคนแล้ว ก็ไม่ได้ยั่วยุให้โมโห เธอยังคงเอ่ยถามอย่างใจเย็นว่า “ค่ะ ดูท่าฉันจะปรักปรำคุณเข้าแล้ว ในเมื่อเป็นอย่างนั้น รบกวนคุณช่วยบอกชื่อแซ่ลูกสาวคุณกับฉันหน่อยค่ะ ฉันยินยอมที่จะขอโทษเธอในความไม่รู้ของฉัน”
“ลูกสาวฉัน…” หญิงกลางคนเป็นใบ้ไปอีกรอบ
เธอมองไปทางกลุ่มคนตามจิตใต้สำนึก แต่ชายคนที่คล้อยตามเธอเมื่อครู่นี้กลับหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
หญิงวัยกลางคนหน้าซีดเผือดทันที
เดิมลูกสาวของเธอก็ไม่ได้เสียชีวิตเพราะเป็นมะเร็งที่ บ้านฟอร์มาลดีไฮด์
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊
ตอน571-670หายไปไหนคะ ต้องทำไงถึงจะอ่านตอนที่ขาดไปได้...