เดิมนานมากแล้วก่อนหน้านี้เวธัสก็คิดจะพาเธอมาพบกับคุณแม่ของเขา แต่ด้วยเหตุผลต่างๆนานา สุดท้ายจึงล่าช้าไป
สี่ตระกูลใหญ่ล้วนมีสุสานส่วนตัวเป็นของตัวเองไว้ฝังบรรพบุรุษแต่ละรุ่น
และก็มีเพียงแค่คนที่อยู่ในผังตระกูลเท่านั้นถึงจะมีคุณสมบัติถูกฝังอยู่ในนั้น
ดังนั้น แม้ว่าจะแต่งงานแล้ว ขอเพียงแค่ตระกูลสนธิไชยไม่ยอมให้ณิชาอยู่ในผังตระกูล หลังจากเธอตายก็ไม่คู่ควรที่จะฝังอยู่ในนั้น และยิ่งไม่ได้รับความเคารพจากชนรุ่นหลังของตระกูลสนธิไชย กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือเป็นเพียงแค่ “เมียน้อย” ที่กฎหมายยอมรับเท่านั้น
ณิชาเห็นว่าอยู่ใกล้สุสานมากขึ้นเรื่อยๆแล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะระมัดระวัง “จะพาฉันมาพบกับ…คุณแม่สามีหรอ?”
“อืม” เวธัสบีบมือเล็กนุ่มนิ่มของเธอเบาๆ พลางสบตากับเธอด้วยแววตาอ่อนโยน
ณิชาได้ยินแล้วก็อดไม่ได้ที่จะตื่นเต้น และก้มลงมองชุดอยู่บ้านที่สวมอยู่บนร่างของตัวเองอย่างไม่รู้ตัว “ทำไมคุณไม่บอกฉันก่อนล่ะ อย่างน้อยก็ให้ฉันเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ปกติกว่านี้หน่อย ใส่เสื้อผ้าแบบนี้ไป ท่านจะไม่รังเกียจที่ฉันไม่เคารพท่านหรอคะ”
“คุณแม่ผมไม่ถือสาเรื่องพวกนี้ ขอเพียงแค่ผมชอบ ท่านก็ชอบด้วย” ยิ่งเข้าใกล้สุสาน เวธัสก็ยิ่งมีความรู้สึกเจ็บปวดที่บรรยายออกไม่ได้มากขึ้น
เพราะว่าคุณแม่ของเขา…ก็ไม่ได้อยู่ในผังตระกูลเช่นกัน
ณิชาไม่ได้สังเกตเห็นอารมณ์จิตตกของเวธัส เพราะว่ายังตื่นเต้นมากอยู่
เธอรู้ว่าเวธัสแคร์คุณแม่เขามาก…
ผู้ตายเป็นใหญ่ การที่เธอมาโดยไม่สนใจการแต่งเนื้อแต่งตัวแบบนี้นั้นไม่มีมารยาทเกินไปแล้ว!
ละแวกสุสานนั้นห้ามขับรถเข้ามา ทั้งสุสานถูกล้อมด้วยรั้วเหล็กขนาดใหญ่ ควบไปกับการมีพนักงานรักษาความปลอดภัยลาดตระเวนตลอด 24 ชั่วโมง
และสามารถใช้ศาลเตี้ยในการลงโทษผู้ที่เข้ามาใกล้โดยไม่ได้รับอนุญาตได้ทั้งหมด ผลที่เกิดขึ้นในภายหลัง ตระกูลสนธิไชยจะเป็นผู้รับผิดชอบเอง
ประตูเหล็กสลักลวดลายนั้นดูเคร่งขรึมมากเป็นพิเศษในยามค่ำคืน
ทว่า ตอนที่เข้าไปใกล้สุสานส่วนบุคคลอันน่าเกรงขาม เวธัสก็พาณิชาเลี้ยวไปยังถนนเส้นเล็กๆอีกสายหนึ่ง
ณิชารีบเดินตามหลังเขาไป พลางมองประตูสุสานแวบหนึ่งด้วยความสงสัย “จะไปพบคุณแม่คุณไม่ใช่หรอคะ”
“ท่านไม่ได้อยู่ข้างในนั้น” เวธัสอธิบายด้วยน้ำเสียงที่เจือไปด้วยความโศกเศร้าจางๆ
ณิชาสังเกตเห็นความรู้สึกหม่นหมองของเขา ตระกูลสถานนท์ก็มีกฎแบบนี้ จำเป็นต้องอยู่ในผังตระกูลถึงจะสามารถเข้าสุสานตระกูลสถานนท์ได้ กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ คุณแม่สามีไม่ได้อยู่ในผังตระกูลตระกูลสนธิไชย ในปีนั้นมารดาเสียชีวิตไปโดยเหลือลูกชายทิ้งเอาไว้…
ฝั่งตรงข้ามสุสานส่วนบุคคลก็คือสุสานแห่งหนึ่ง และมีคนเฝ้ารักษาการณ์โดยเฉพาะเช่นกัน
นี่คือสุสานที่เวธัสสร้างให้กับลำดวนผู้เป็นมารดา
เวธัสพาณิชาไปยังหน้าสุสานที่ดูโอ่อ่าหลุมหนึ่ง หลุมฝังศพมีรูปร่างเป็นวงกลม ป้ายหน้าหลุมศพสี่เหลี่ยมจัตุรัส กลางป้ายไม่ได้แปะรูป แต่แกะสลักเป็นรูปใบหน้าของลำดวน
เป็นสตรีที่สวย มีเสน่ห์งดงามมากประเภทนั้น
คล้ายกับจงกล แต่ดูแข็งแรงกว่า จงกลมีความสดใส ตรงไปตรงมาและจริงใจกว่าหลายส่วน
หน้าหลุมฝังศพมีดอกไม้สดที่เบ่งบานหลายช่อวางอยู่ ทุกวันล้วนมีคนเปลี่ยน เพราะคุณแม่ชอบดอกไม้มาก
“คุณแม่ครับ” เวธัสลูบมือลงบนชื่อใต้ใบหน้าของลำดวน น้ำเสียงแหบพร่า “ไม่ได้มาเยี่ยมคุณแม่นานมากแล้ว คุณแม่สบายดีไหมครับ ผมกับณิชาแต่งงานกันแล้ว ขอโทษด้วยครับที่ผ่านไปนานขนาดนี้แล้วเพิ่งจะพาเธอมาพบคุณแม่”
เวธัสในตอนนี้ลบกลิ่นอายหยิ่งยโสและความโหดเหี้ยมทั่วทั้งร่างออกไป คล้ายกับเด็กน้อยหลงทาง
เขาจูงณิชามาถึงหน้าหลุมฝังศพ
ณิชามาอย่างรีบร้อนเกินไป ทำให้สองมือว่างเปล่า ไม่มีอะไรติดมือมาด้วย จึงทำได้เพียงแค่โค้งตัวเคารพลำดวนครั้งหนึ่งด้วยท่าทางจริงๆจังๆ “ สวัสดีค่ะคุณแม่ หนูคือณิชา และเป็นภรรยาของธัส ขอบคุณคุณแม่ที่ให้กำเนิดลูกชายที่ยอดเยี่ยมขนาดนี้ และมอบสามีที่เพอร์เฟคเช่นนี้ให้กับหนูค่ะ”
ระหว่างที่พูด เธอก็แอบเหลือบมองเวธัสแวบหนึ่ง และเอ่ยอย่างจริงจังว่า “หลังจากนี้ หนูจะช่วยดูแลเขาให้ดีแทนคุณเเม่เองค่ะ ขอให้คุณแม่อยู่บนสวรรค์อย่างมีความสุขและพอใจนะคะ”
เวธัสจับสายตาที่แอบมองมาของเธอได้ ริมฝีปากบางโค้งขึ้น “ที่แท้ในใจของคุณ ผมยอดเยี่ยม เพอร์เฟคขนาดนั้น?”
“…ฉันไว้หน้าคุณเพราะอยู่ต่อหน้าคุณแม่หรอก” ณิชาเอ่ยอย่างอายๆ
ความรู้สึกดำมืดในจิตใจของเวธัสจางหายไปบ้าง “ปากไม่ตรงกับใจ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊
ตอน571-670หายไปไหนคะ ต้องทำไงถึงจะอ่านตอนที่ขาดไปได้...