“จากธัสไปซะ สละสิทธิ์การเลี้ยงดูทิ้งไป ฉันก็จะปล่อยให้พวกเธอพ่อลูกได้อยู่ด้วยกัน”ประเสริฐพูดทิ้งท้ายเอาไว้หนึ่งประโยคอย่างเย็นชา
ณิชาหัวใจถูกบีบคั้น เก็บรูปพวกนั้นขึ้นมา ถามกลับไปอย่างเย็นชาเช่นกัน“ท่านไม่กลัวฉันไปฟ้องเวธัสเหรอ? ว่าท่านเอาพ่อของฉันมาข่มขู่ฉัน เป็นผู้ใหญ่ประสาอะไร?”
“ถ้าเกิดเธอสนใจก็ลองไปบอกให้เขาฟังได้เลย ฉันก็อยากจะรู้เหมือนกัน ว่าหลายปีมานี้ธัสเติบโตไปอย่างรวดเร็วเป็นผู้ใหญ่ที่มีความคิดประสบการณ์มากขนาดไหนแล้ว?”
ประเสริฐไม่สนใจแม้แต่นิดเดียว สีหน้ายิ่งนิ่งเฉยมากขึ้น“แต่ว่าโลกใหญ่ขนาดนี้ มีเรือนจำตั้งมากมาย ถ้าเขาจะตรวจสอบทีละแห่งๆล่ะก็ ก็น่าจะต้องใช้เวลาสักหน่อยนะ”
“ท่าน……”ณิชากำหมัดแน่น พูดออกมาได้แค่คำเดียว“เลวทราม!”
“เลวทรามก็ดีไร้ยางอายก็ได้ ฉันในฐานะที่เป็นปู่ของธัส แน่นอนว่าต้องคิดทำอะไรเพื่อเขาอยู่แล้ว ถ้าเธอยังมาเกาะแกะพัวพันกับธัสต่อไปอีกล่ะก็ รูปที่เธอจะได้เห็นในครั้งต่อไปก็จะเป็นรูปถ่ายคนตายของสุขุมแน่นอน”
ณิชาเลือดสูบฉีด สองไหล่สั่นกระส่าย
ด้านหนึ่งก็เป็นพ่อที่เธอตั้งหน้าตั้งตารอคอยมาตลอดสี่ปี อีกด้านก็เป็นเวธัสกับลูกทั้งสองคน
เธอจะเลือกยังไง?
“ฉันจะรู้ได้ยังไงว่าคุณไม่ได้เอารูปมาหลอกฉัน?”
แสงแดงลอดผ่านกระจกสาดส่องมาที่ตัวของณิชา
แต่เธอไม่ได้รู้สึกถึงความอบอุ่นเลยแม้แต่นิดเดียว
ทั้งหมดทั้งมวลมีแต่ความหนาวเหน็บที่เย็นจนถึงกระดูก
ประเสริฐรินชาโสมให้กับตัวเองหนึ่งแก้วก่อนจะจิบไปสองสามคำ จากนั้นดูเหมือนกับจะยืนยันหัวข้อบทสนทนานี้
เขาเรียกลุงพรมาอยู่ต่อหน้าของณิชา
ลุงพรโค้งตัวลงอย่างเคารพนอบน้อม“ครับคุณท่าน?”
“แจ้งออกไปว่า ให้ตัดนิ้วของสุขุมกลับมาหนึ่งนิ้วให้คุณณิชามายืนยันตัวตน”ประเสริฐพูดขึ้นอย่างสบายๆ เหมือนกับกำลังประเมินรสชาติของชาโสมนี้อยู่อย่างไรอย่างนั้น
“อย่านะ……”ณิชาพูดตัดบทของประเสริฐออกมาทันที กัดริมฝีปากล่างสีชมพูอ่อนอย่างแรง น้ำตาซึม“ท่านอย่าทำร้ายพ่อของฉันนะ เขาอายุมากแล้ว รับการทรมานไม่ไหว ฉัน……ฉันจะรับพิจารณาข้อเสนอของท่าน แต่ท่านต้องรับประกันความปลอดภัยของเขาก่อน!”
“ถ้าอย่างนั้นก็ต้องดูว่าเธอจะให้ความร่วมมือหรือไม่”
ณิชากำรูปเอาไว้แน่น อดกลั้นความเจ็บปวดเสียใจและความโกรธเอาไว้ภายในใจ“ต่อให้ฉันจากธัสไปจริงๆ เขาก็ไม่มีทางแต่งงานกับก้อยหรอก แผนที่เอาแต่ใจตัวเองของท่านก็จะต้องล้มเหลวไปอย่างแน่นอน!”
“นั่นก็ไม่ใช่เรื่องที่เธอต้องมาเป็นกังวลหรอกนะ ฉันคิดว่าฉันควรจะเด็ดขาดซะตั้งแต่ตอนที่อยู่ที่ฝรั่งเศส ตอนนี้ให้ช่วงเวลาที่ดีงามกับพวกเธอมาหลายเดือนแล้ว เธอควรจะรู้จักพอได้สักที เหลนของฉันผู้นี้ จะไม่มีแม่ที่เป็นผู้หญิงไร้ชาติตระกูลแบบเธอเด็ดขาด”
รูปในมือถูกเธอขยำจนยับยู่ยี่ไปหมด เธอยิ้มอย่างเย้ยหยัน“ถ้าอย่างนั้นก็ขอโทษด้วยจริงๆ พวกเขายอมรับว่าฉันเป็นแม่เพียงคนเดียวมาโดยตลอด”
พอคิดถึงความอาลัยอาวรณ์ที่เด็กทั้งสองมีต่อณิชาแล้ว ในที่สุดประเสริฐก็สีหน้าเปลี่ยนไปทันที
ถ้าเกิดเป็นธัสก็ยังพอได้อยู่ สามารถคิดหาวิธีให้เขายอมตัดใจไปได้
แต่เด็กทั้งสองคนยังเด็กมากขนาดนั้น ถ้าไม่มีความจำเป็นอะไรจริงๆเขาก็ไม่อยากเอาณิชาไปทำร้ายพวกเขา
“เด็กขี้ลืมขนาดนั้น ในอนาคตฉันจะหาแม่ที่อ่อนโยนแล้วก็ยอดเยี่ยมกว่าเธอให้กับพวกเขา เธอก็เป็นได้แค่อดีตเท่านั้นแหละ”พอพูดจบ ประเสริฐก็ให้ลุงพรส่งณิชาออกไปทันที
ณิชาเดินโซเซออกไปจากห้องไพรเวท ตอนที่ลงมาข้างล่าง เธอก็หมดอาลัยตายอยาก เท้าไม่ทันได้ระวังเผลอเหยียบเข้ากับอากาศ เกือบจะล้มลงไป
ลุงพรเข้ามาพยุงเธอเอาไว้“คุณณิชา ระวังครับ”
ขนตาของณิชาสั่นกระส่ายไม่หยุด เธอคว้ามือของลุงพร ราวกับเป็นที่พึ่งสุดท้าย พูดขอร้องอ้อนวอน“ลุงพร คุณคอยดูเวธัสกับน้องอรัลเติบโตมาตลอด คุณจะต้องไม่อยากให้พวกเขาต้องสูญเสียคนที่รักและแม่ไปแน่ๆ คุณบอกฉันมาหน่อยสิ ว่าพ่อของฉันถูกขังไว้ที่เรือนจำไหน?”
ลุงพรขมวดคิ้ว รีบดึงมือที่พยุงเธอกลับมาทันที พูดขึ้นด้วยสีหน้านิ่งเฉยไร้อารมณ์“ผมไม่รู้”
“เมื่อตะกี้คุณท่านให้คุณไปออกคำสั่ง เป็นไปได้ยังไงที่คุณจะไม่รู้เบาะแสที่อยู่ของพ่อของฉัน? ลุงพร คุณช่วยบอกฉันเถอะนะ ว่าเขาถูกขังไว้ที่ไหนกันแน่?”
ณิชาพูดขอร้องอ้อนวอนอย่างไม่หยุดหย่อน น้ำตาไหลอาบสองแก้มทิ้งรอยน้ำตาเป็นทาง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊
ตอน571-670หายไปไหนคะ ต้องทำไงถึงจะอ่านตอนที่ขาดไปได้...