หลังจากที่เวธัสจากRepulse Bayออกมาแล้ว ก็กลับไปที่สนธิไชยกรุ๊ป
เป็นเวลากลางดึกแล้ว แต่การประชุมของทางยุโรปยังไม่ได้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ
เขาแจ้งโทนี่ว่าไม่ต้องยืดเวลาออกไปแล้ว ทำการประชุมทางวิดีโอนี้จนเสร็จไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตอนที่เสร็จสิ้น ทั้งสองฝั่งก็มีเจตนายืนยันที่จะร่วมงานกันเรียบร้อยแล้ว รอแค่ติดต่อเจรจารายละเอียดเท่านั้น
“คุณเวธัส หวังว่าพวกเราจะร่วมงานกันอย่างมีความสุขนะครับ”อีกฝั่งสีหน้ายิ้มแย้มอย่างเป็นมิตรผ่านทางวิดีโอ
เวธัสตอบกลับหนึ่งประโยคด้วยสีหน้านิ่งเฉยไร้อารมณ์ความรู้สึก“ผมเองก็คาดหวังเหมือนกันครับ”จากนั้นก็ตัดจบการสนทนา
นิ้วเรียวยาวกดนวดตรงขมับ ระหว่างทางที่เขากลับมาเมื่อตะกี้ เอาแต่คิดอยู่ตลอดเวลาว่ามันมีตรงไหนที่ผิดแปลกไป ถ้าเกิดณิชาเอาแต่ใส่ใจกับเรื่องที่เขาขับรถชนสิดาจริงๆ ก็น่าจะแสดงออกมาตั้งนานแล้ว ไม่ใช่ผ่านมาตั้งหนึ่งวันแบบนี้
ในช่วงเวลาที่บอดี้การ์ดหลุดจากการติดตามเธอกลางทางในตอนนั้น มันเกิดอะไรขึ้นอีก?
ความเยือกเย็นในแววตาของเวธัสสว่างวูบวาบ โทรศัพท์ไปหาบอดี้การ์ดอีกครั้ง“รีบไปตรวจสอบว่าช่วงเวลาที่พวกนายคลาดจากคุณหญิงไปในตอนนั้น เธอไปที่ไหนบ้าง เจอกับใครมาบ้าง ถ้าเกิดตรวจสอบไม่ได้ พวกนายก็ไม่ต้องกลับมา”
บอดี้การร์ดตอบรับอย่างสั่นกลัว
หลังจากที่เวธัสวางสายไป ก็นั่งอยู่ในห้องทำงานตามลำพังคนเดียวอยู่สักพัก ไฟนีออนข้างนอกหน้าต่างส่องสว่างวิบวับ ทั่วทั้งเมืองเต็มไปด้วยแสงสี ยิ่งคึกคักวุ่นวายเท่าไรหัวใจของเขาก็ยิ่งรู้สึกโดดเดี่ยวเท่านั้น
ตอนที่กลับมาที่Martin Modern สาวรับใช้ก็ยังคงเฝ้าอยู่ในห้องรับแขก คุณหญิงจากไปแล้ว ในบ้านยังมีเด็กๆทั้งสองคนอยู่ด้วย เธอไม่กล้าจากไปไหน
พอเห็นเวธัสกลับมาแล้ว สาวรับใช้ก็มองไปยังด้านหลังของเขาโดยอัตโนมัติ ตอนที่ไม่พบร่องรอยของณิชา ในใจก็รู้สึกเหมือนกับถูกบีบ ถามออกมาอย่างสั่นกระส่าย“คุณผู้ชาย ทานอะไรมาแล้วยังคะ? จะให้ดิฉันไปทำอาหารค่ำมาให้ไหมคะ?”
คุณหญิงไม่อยู่ อารมณ์ของคุณผู้ชายจะต้องแย่มากแน่ๆ
“ไม่ต้อง เธอไปนอนเถอะ”เวธัสพูดประโยคนี้ออกมาได้อย่างนิ่งสงบมาก ก่อนจะเดินไปที่ห้องเด็ก
ภายในห้องเด็กมีถุงช็อปปิ้งมากมาย วางกองกันตรงมุมกำแพง
ตอนที่ณิชาจากไปจะต้องรีบร้อนมากแน่ๆ ถึงขนาดที่ยังไม่ทันได้จัดเก็บข้าวของพวกนี้ให้เรียบร้อย……
หรือไม่ก็กลัวว่าตอนที่จัดเก็บแล้วเสียงมันจะดังเกินไป จนปลุกให้เด็กทั้งสองคนนี้ตื่น
เด็กน้อยทั้งสองคนหลับสนิทมาก ใบหน้าที่ดูอ่อนต่อโลกช่างเหมือนกับผู้หญิงบางคนที่จากไปโดยไม่ได้กล่าวลากันสักคำ เวธัสมองจนสายตาเริ่มพร่ามัวอีกครั้ง ก่อนจะปิดประตูห้องเด็กไปอย่างไม่มีเสียง
ตอนที่เดินผ่านห้องนั่งเล่น ในทุกๆจุดของที่นี่เต็มไปด้วยความทรงจำของพวกเขา
พวกเขาเคยนอนด้วยกันบนโซฟา เขานอนดูละครเป็นเพื่อนเธอ เธออยู่เป็นเพื่อนเขาทำงาน ป้อนผลไม้ให้เขา นวดหลังให้เขา หน้าอกสั่นเล็กน้อย เขากลับไปยังห้องนอนอย่างนิ่งเงียบ
ไฟของห้องนั่งเล่นถูกเขาปิดไป เหลือเพียงแค่ไฟถนนที่ส่องแสงลอดเข้ามาทางหน้าต่าง ทำให้เงาของเขาผสานรวมเข้ากับความมืดของช่วงเวลายามค่ำคืน
เวธัสกลับมาถึงห้องนอนหลัก ผู้หญิงถือชุดนอนมาให้กับเขาอย่างยิ้มแย้มคนนั้นไม่อยู่อีกแล้ว
ที่แท้เรื่องเรื่องเดียวทำซ้ำๆกันยี่สิบเอ็ดวัน มันกลายเป็นความเคยชินไปแล้วจริงๆ
ยืนนิ่งอยู่สักพัก ก่อนที่เวธัสจะเข้าไปในห้องอาบน้ำ ตอนที่เขาอาบน้ำไปได้ไม่นานก็พบว่าไม่ได้หยิบชุดนอนเข้ามา การกระทำรวดเร็วกว่าความคิด เขาตะโกนออกไปข้างนอกประตูด้วยความคุ้นเคย“ณิชา ผมไม่ได้เอาชุดนอนเข้ามา คุณ……”
เสียงหยุดชะงักไป เขายกมุมปากหัวเราะเยาะตัวเอง
ทำไมเขาถึงลืมไปว่าณิชาจากไปแล้วกันนะ……
ความต้องการของเขาไม่มีคนตอบสนองกลับมา ในส่วนลึกภายในใจเหมือนกับขาดอะไรบางอย่างไป เวธัสปิดฝักบัว เดินตัวเปลือยออกไปที่ตู้เสื้อผ้าที่อยู่ในห้องนอน เปิดตู้ออก เสื้อผ้าของเขาอัดแน่นกันอยู่ทางด้านขวา ไม้แขวนเสื้อที่อยู่ทางซ้ายนั้นกลับว่างเปล่าไปทั้งแถบ
เธอไม่อยู่แล้ว
ที่นี่ขาดนายหญิงไปหนึ่งคน ไม่สามารถเรียกว่าครอบครัวได้อีกแล้ว
หยิบเสื้อสีดำหนึ่งตัวออกมาสวมอย่างง่ายๆ เวธัสเช็ดผมเสร็จแล้ว ก็นั่งลงบนเตียง ผ้าห่มวางราบ ร่องรอยที่พวกเขาเคยกระทำร่วมกันจมหายไปหมดแล้ว สายตาชำเลืองมองไปยังหัวเตียงอย่างไม่ได้ตั้งใจ……
กระดาษโน้ตแผ่นหนึ่งสะดุดตาของเขา ข้างบนมีการเขียนข้อความเอาไว้
เวธัสเปิดโคมไฟหัวเตียง ดึงกระดาษโน้ตแผ่นนั้นออกมา
“งานเลี้ยงฉลองในฤดูใบไม้ผลิ ดื่มเหล้าสักแก้วร้องเพลงสักเพลง อธิษฐานขอพรสามประการ ประการแรกขอให้ท่านอายุยืนนาน ประการที่สองขอให้ตัวข้าสุขภาพแข็งแรงไปตลอด ประการที่สามขอให้เราทั้งสองเป็นดั่งนกนางแอ่นที่โบยบินเคียงคู่กันตลอดไป”
เวธัสลุกขึ้นยืนอย่างทันที แววตาเยือกเย็นจ้องมองถ้อยคำนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊
ตอน571-670หายไปไหนคะ ต้องทำไงถึงจะอ่านตอนที่ขาดไปได้...