กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊ นิยาย บท 435

เมื่อคืนที่หม่ามี๊ร้องไห้ ก็เป็นเพราะว่ารู้อยู่แล้วว่าต้องจากไป?

ความรู้สึกของเขาถูกต้องสินะ หม่ามี๊กำลังเศร้าโศกเสียใจ

แต่ว่า……

“ทำไม?”อรัลพูดถามขึ้นอย่างดื้อดึง

เวธัสดึงขาเรียวยาวออกมาจากอ้อมกอดของปัณณ์ เดินออกไปด้วยท่าทางจริงจัง เม้มริมฝีปากจนเริ่มซีดขาว ทำไม? เขาก็หวังว่าจะมีคนมาบอกเขาว่าทำไมเหมือนกัน……

กลับนั่งลงไปที่โต๊ะ ทานอาหารเช้าอย่างสง่างาม เอาใส่เข้าไปในปากคำแล้วคำเล่า รสชาติจืดชืดราวกับขี้ผึ้ง

ปัณณ์กับน้องอรัลก็ไม่มีกะจิตกะใจจะไปอาบน้ำ ใส่รองเท้าแตะขน กับชุดนอนที่ยับยู่ยี่วิ่งตามหารอบบ้านไปหนึ่งรอบ ก็ไม่เห็นวี่แววของหม่ามี๊ ที่น่ากลัวคือ ของใช้ในห้องน้ำของเธอก็ลดน้อยลงไปมากๆ

ทั้งสองคนรีบเข้าไปเกาะแกะเวธัสอย่างทันที

คนหนึ่งยืนอยู่ทางซ้ายของเขา ดึงชายเสื้อของเขา อีกคนยืนอยู่ทางขวาของเขา อย่างเคารพนับถือ

ปัณณ์ทำสีหน้าเท่ๆ“ปีศาจยักษ์จงใจหลอกปัณณ์ใช่ไหม? ปัณณ์ลุกออกจากเตียงแล้ว!หม่ามี๊ไม่ทิ้งพวกเราแล้ว……”

“คุณพ่อ มาล้อเล่นกันแบบนี้จะทำให้พวกเราตกใจนะ”น้องอรัลก็พูดเน้นขึ้นมาด้วยความจริงจัง

เวธัสดึงมือออกมาจากอุ้งมือน้อยๆของปัณณ์อย่างเย็นชา ทานอาหารเช้าต่อไปด้วยสีหน้านิ่งเฉยไร้อารมณ์

ปัณณ์ก็ดึงแขนของเขาต่อ พยายามกระโดดโลดโผนอย่างสุดชีวิตเพื่อที่จะไม่ให้เขานิ่งเงียบ“รีบพูดมาสิ หม่ามี๊แค่ไปทำงานใช่ไหม ไม่ใช่ไม่เอาพวกเราแล้ว ใช่ไหม? ใช่ไหม? ใช่ไหม?”

พูดเน้นสองคำหลังอย่างไม่หยุดไม่หย่อน เต็มไปด้วยความไม่รู้และตื่นตระหนก

เวธัสหยิบตะเกียบเคาะไปที่หลังมือของเขา พูดตะคอกออกมาอย่างหมดความอดทน“ออกไปเดี๋ยวนี้!”

หลังมือของปัณณ์ถูกเคาะจนเป็นรอยแดงสองรอย ขนตาที่สวยงามสั่นเล็กน้อย ถูหลังมือที่แดงทันที จ้องเวธัสด้วยน้ำตาคลอเบ้า“เมื่อวานยังดีๆอยู่เลยแท้ๆ!”

คนรับใช้พอเห็นรอยแดงที่หลังมือของเด็กน้อย ก็ตกใจขึ้นมา“คุณหนู ให้ดิฉันดูมือของคุณหนูหน่อยค่ะ”

“ปัณณ์ไม่เป็นไร”ปัณณ์สูดจมูก อดกลั้นน้ำตาเอาไว้

หันตัววิ่งเข้าไปในห้องนอนเด็ก พลิกนู่นพลิกนี่ตามหาสิ่งของ

อรัลเม้มริมฝีปากที่เริ่มซีดขาว ที่ไม่ได้พูดถามออกไปแบบปัณณ์ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่รู้สึกตื่นตระหนก“คุณพ่อ เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?”

“ถ้าหิวก็นั่งลงกินอาหารเช้า ไม่หิวก็ไปเก็บข้าวของของลูกซะ อีกยี่สิบนาทีจะไปส่งพวกลูกที่โรงเรียน”เวธัสพูดสั่งไปอย่างเยือกเย็น

อรัลไม่มองอาหารที่แสนอร่อยบนโต๊ะเลยแม้แต่น้อย หันหัวเดินเข้าไปในห้องนอนเด็ก

ปัณณ์กำลังโทรศัพท์หาณิชา

ตู๊ดๆๆ……

เสียงสัญญาณสายไม่ว่างที่ยืดยาวดังขึ้นมา ดันไม่มีคนรับสาย

ปัณณ์ไม่ยอมตัดใจ โทรออกไปอีกหลายครั้ง

รีบรับสายเร็วๆสิ……

ตลอดเวลาที่รอคอยมันทรมานสุดๆ ปัณณ์โทรออกไปตั้งห้าครั้ง ในสายไม่มีการตอบกลับมาตั้งแต่ต้นจนจบตามที่เขาคาดเอาไว้

แสงแห่งความหวังในดวงตาค่อยๆหรี่ลงทีละนิดๆ

“หม่ามี๊ไม่รับสาย?”อรัลพูดถามอยู่ข้างๆด้วยความประหม่า

ปัณณ์ส่ายหัว“พี่ถามแล้วยังว่าปีศาจยักษ์กับหม่ามี๊เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”

ถึงตาของอรัลส่ายหัว คุณพ่อไม่ยอมบอก เขาเองก็หมดหนทางเหมือนกัน

ปัณณ์กำหมัดน้อยๆเอาไว้แน่น

“หม่ามี๊ไม่เคยทิ้งปัณณ์มาก่อน ครั้งนี้ไม่ยอมรับสายของปัณณ์”

ลนลาน ลนลาน ลนลานมากๆ เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?

อรัลนึกย้อนกลับไปอย่างละเอียดสักพัก พูดวิเคราะห์อย่างครุ่นคิดกับปัณณ์“ปัณณ์รู้สึกว่าเมื่อวานซืนหม่ามี๊ดูผิดแปลกไปไหม?”

ดวงตาใสแป๋วของปัณณ์นิ่งลึก“พี่กำลังจะบอกว่าเริ่มตั้งแต่เมื่อวานซืนที่หม่ามี๊ไม่ได้กลับบ้าน?”

อรัลพยักหน้า รู้สึกเป็นกังวลในใจ“โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อวานตอนค่ำ หม่ามี๊พาพวกเราไปเที่ยวเล่น เอาแต่พูดว่าจะทำความปรารถนาของพวกเราให้เป็นจริงๆ จะชดเชยให้กับพวกเราอยู่ตลอดเวลา เห็นได้ชัดว่าเธอเตรียมตัวที่จะหนีไปตั้งนานแล้ว”

หลังจากได้ฟังการวิเคราะห์ของอรัล ปัณณ์ก็เข้าใจเรื่องทุกอย่างขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว

ให้ตายสิ!เมื่อวานเขาสนใจแต่เรื่องเล่น ไม่ได้สังเกตดูอารมณ์ความรู้สึกของหม่ามี๊เลยสักนิด……

จ้องมองถุงช็อปปิ้งที่กองเป็นเนินตรงมุมกำแพง ปัณณ์ก็เหมือนกับลูกสิงโตน้อยที่ถูกแหย่จนโมโห วิ่งตรงเข้าไป ผลักสิ่งของจนตกลงเสียงดังโครมครามด้วยความโมโหเกรี้ยวกราด……

ของขวัญรวมถึงเสื้อผ้า กระเป๋าหนังสือ รองเท้าและพวกของเล่นทั้งหมดกระจัดกระจายเต็มพื้น

เขาไม่ต้องการของขวัญไม่ต้องของชดเชย เขาต้องการให้เธออยู่ด้วยกันกับเขา!

สาวรับใช้พอได้ยินเสียง ก็กลัวว่าคุณหนูจะหกล้มลง ก็เลยรีบตามเข้ามาดูอย่างทันที

ปัณณ์ขยี้ขอบตาที่เริ่มแดงเล็กน้อย นิ่งเงียบไม่พูดอะไร ยืดหลังตรงเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า ดึงกระเป๋าเดินทางขนาด18นิ้วออกมาหนึ่งใบอย่างแรง จากนั้นก็เก็บเสื้อผ้าเสื้อโค้ตของตัวเอง ยัดลงไปในกระเป๋าเดินทาง

อรัลขมวดคิ้ว“ปัณณ์จะออกจากบ้าน?”

“ผิดแล้ว หม่ามี๊อยู่ที่ไหนบ้านของปัณณ์ก็อยู่ที่นั่น ปัณณ์ก็แค่ไปหาบ้านใหม่ของปัณณ์เท่านั้น ปัณณ์ไม่อยากอยู่ให้ปีศาจยักษ์ทารุณอีกแล้ว ถึงยังไงเขาก็ไม่รักปัณณ์”

พูดพลาง มือที่กำลังเก็บข้าวของของปัณณ์ก็หยุดชะงักลง ในใจรู้สึกเศร้าเสียใจไม่น้อย แต่ไม่นานก็ฮึดขึ้นมาอีกครั้ง มองอรัลอย่างลึกซึ้ง“ต่อไปพวกเราก็ต่างคนต่างไปก็แล้วกันนะ ปัณณ์จะคิดถึงพี่”

“……”

ตอนแรกปัณณ์มองเสื้อผ้าเห็นว่าน่ารักทั้งนั้น อยากที่จะยัดลงไปให้หมด แต่เสื้อโค้ตหน้าหนาวมันหนาและหนักมากจริงๆ

สุดท้าย เขาก็โยนเสื้อที่เวธัสซื้อให้ลงไปในถังขยะด้วยความโมโหเกรี้ยวกราด เอาแค่เสื้อผ้าที่ณิชาซื้อให้เขาพับให้เรียบร้อย ก่อนจะวางลงไปในกระเป๋าเดินทาง

คนรับใช้พอได้ยินก็ปิดปากเอาไว้ด้วยความตกใจกลัว“คุณหนูผ่านปีใหม่ไปก็เพิ่งจะสี่ขวบเองนะคะ อย่าออกไปเถลไถลเลยค่ะ……ใกล้จะสิ้นปีแล้ว ข้างนอกวุ่นวายมากเลย มีพวกค้ามนุษย์มากมายที่คอยเพ่งเล็งเด็กๆแบบพวกคุณหนูอยู่นะคะ”

เรียบร้อย

ในที่สุดปัณณ์ก็จัดกระเป๋าเดินทางเสร็จ จากนั้นก็ลากขึ้นมาอย่างสุดแรง

ใหญ่และหนักไปหน่อย แต่ว่าไม่มีปัญหา เขามีเงิน เดี๋ยวหาคนมาช่วยขนย้ายก็ได้แล้ว

เขาตบมือน้อยๆ ไม่ฟังคำห้ามของสาวรับใช้ ลากกระเป๋าเดินทางออกไปข้างนอก

ล้อของกระเป๋าเดินทางถูกับพื้นเกิดเป็นเสียงที่น่ารำคาญ ร่างกายที่สูงยาวของเวธัสปรากฏขึ้นมาอยู่ตรงประตูของห้องนอนเด็ก ทำเอาปัณณ์รู้สึกตกใจ เขาโกรธแค้นเรื่องที่เขาเอาตะเกียบมาเคาะที่หลังมือของตัวเองเมื่อตะกี้นี้ สบถเชอะใส่เขาไปอย่างจองหอง

“รู้อยู่แล้วว่าคำพูดของผู้ชายมันหลอกลวงเชื่อไม่ได้ ไม่น่าให้หม่ามี๊แต่งงานกับคุณพ่อเลยตั้งแต่แรกเลย”

เวธัสขมวดคิ้วมองไอ้เจ้าตัวจิ๋วนี้“ลูกคิดจะไปไหน?”

“ตาแก่ ถอยไปหน่อย”ปัณณ์ไม่สนใจเขา สองมือถือกระเป๋าเดินทาง

เวธัสสองเข่ากดลงที่กระเป๋าเดินทาง ไม่ขยับเขยื้อนเลยแม้แต่นิดเดียว ปัณณ์ดันกระเป๋าเดินทางไม่ไป ก็เลยตัดสินใจไม่ยื้อแย่งกับเขา พูดขึ้นอย่างช้าๆ“ปัณณ์ไม่ไปเรียนก็ไม่เป็นไรอยู่แล้ว แต่ปัณณ์ไม่เชื่อว่าคุณพ่อจะไม่ไปทำงานไม่ได้แน่นอน”

พอเขาไปบริษัท ตัวเองก็ค่อยออกไปก็ได้ มันก็เหมือนกัน

ก็แค่วัดความอดทนกันเท่านั้นเอง? เขาไม่กลัวปีศาจยักษ์หรอก

ขมับของเวธัสปูดนูนออกมาเล็กน้อย รู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก

ใครบอกว่าอรัลดื้อกัน? เห็นๆอยู่ว่าปัณณ์เวลาดื้อแล้วหัวรั้นซะยิ่งกว่าอรัลซะอีก

อรัลรีบทำหน้าที่เป็นผู้สร้างสันติทันที พยายามพูดเกลี้ยกล่อมทั้งสองคน“ปัณณ์ คุณพ่อก็ไม่อยากให้หม่ามี๊จากไปเหมือนกัน ปัณณ์เลิกสร้างปัญหาได้แล้ว เขาจะไปตามหม่ามี๊กลับมาแน่นอน!ถ้าเกิดหม่ามี๊ยังอยู่ หม่ามี๊ก็คงไม่อยากจะเห็นพวกปัณณ์ทะเลาะกันหรอกนะ”

ปกติแล้ว ณิชามักจะเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ยระหว่างสองพ่อลูกในบ้านเสมอ

ปัณณ์เมินหน้าน้อยๆไปทางอื่น“ปัณณ์ไม่ได้ทะเลาะกับเขาสักหน่อย เขาต่างหากล่ะที่มาสร้างความลำบากใจให้เด็ก”

เวธัสจ้องมองเจ้าก้อนแป้งนุ่มที่อยู่ตรงหน้า นัยน์ตาดำมืดดุร้ายเป็นประกายเล็กน้อย ยกคิ้วขึ้นทันทีพร้อมกับพูดขึ้น“ลูกอยากตามหม่ามี๊ของลูกกลับมาไหม?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊