ทัตพงศ์เห็นสีหน้าที่ไม่เต็มใจของพี่น้อง ก็เข้าใจในทันทีว่าพวกเธอต้องเป็นคนก่อเรื่องแน่นอน ก็โมโหอย่างรุนแรงในทันที
แต่ว่าลูกสาวทั้งสองคนนี้ถูกเลี้ยงมาอย่างเป็นที่โปรดปราน เขาจะตีก็ไม่ได้หรอก ได้แต่ลงโทษเท่านั้น
“ตั้งแต่เดือนนี้เป็นต้นไป เงินค่าขนมจะลดลงครึ่งหนึ่ง!เมื่อไหร่ที่หยุดสร้างเรื่อง เมื่อนั้นถึงจะคืนสู้สภาพเดิม!”ทิ้งประโยคนี้ไว้ด้วยความโมโห แล้วทัตพงศ์ก็หยิบแผนธุรกิจ พยายามทำแผนการลงทุนอีกครั้ง
น้ำตาลมองดูทัตพงศ์เดินหายไปจากประตูห้องนั่งเล่นอย่างไม่พอใจ สายตาก็ดูดุร้ายขึ้นมาในทันที
ณิชา!!
“น้ำตาล ฐานภพเขา……พูดบางอย่างกับฉันตอนที่อยู่ที่โรงพยาบาล……”
มะนาวรีบเล่าเกี่ยวกับปฏิกิริยาของฐานภพให้น้ำตาลฟังในทันที และก็หยุดร้องไห้แล้ว ได้แต่รู้สึกกังวลใจ “คงไม่ใช่ว่าณิชาเกาะขาคนที่พวกเราไม่สามารถไปยั่วเย้าได้หรอกนะ? ”
น้ำตาลอารมณ์เสีย และก็พูดจาถากถางเหยียดหยามออกมา “เป็นไปไม่ได้ ยัยนั่นจะไปมีโอกาสอะไรที่จะไต่เต้าขึ้นไปหาคนที่ใหญ่โตได้กันล่ะ?!”
“แต่ว่าพ่อของเราก็สูญเสียโอกาสการลงทุนไปจริงๆ ……”นิสัยของมะนาวค่อนข้างจะเป็นคนขี้ขลาด เธอมองไปที่น้ำตาลด้วยความร้อนใจ “หรือว่าเราไม่ไปขอณิชาเจรจาสงบศึก ให้ผู้ชายที่อยู่เบื้องหลังของเธอให้เมตตาเราบ้าง? ”
“ถ้าเกิดจะให้ฉันก้มหน้าลงแล้วไปขอเจรจาสงบศึกกับเธอ สู้เธอเอามีดมาแทงฉันให้ตายซะยังจะดีกว่าอีก”น้ำตาลปฏิเสธโดยแทบไม่คิดเลยด้วยซ้ำ “ครั้งนี้มันน่าจะเป็นความบังเอิญมากกว่า บางทีอาจจะเป็นคนที่เคยจีบฉันละโดนปฏิเสธไป พอรักไม่ได้ก็กลายมาเป็นความแค้นแทน!”
……
อีกทางด้านหนึ่ง ณิชาออกจากโรงพยาบาล เธอยังคงเวียนหัวอยู่บ้าง สีหน้าก็ค่อนข้างซีด ก็เลยต้องขอพี่แอนหยุดงานอีกสามวัน ตอนนี้เองพี่แอนก็บอกเธอว่า ปัณณ์รู้แล้วว่าเธอถูกพาตัวไปสถานีตำรวจ
ณิชาก็รู้สึกเป็นกังวลขึ้นมาในทันที
ปัณณ์คือคนที่ทนเห็นเธอไม่ได้รับความเป็นธรรมไม่ได้มากที่สุดแล้ว……
เธอรีบเรียกรถไปยังโรงเรียนอนุบาลของปัณณ์ เดิมอยากจะมาดูว่าเขาจะงอแงไหม แต่ใครจะไปรู้ว่า ตอนที่ครูประจำชั้นของปัณณ์ครูน้ำฝนเห็นเธอนั้น ก็กลับยิ้มจนตาหยีและเดินเข้ามาต้อนรับ
“คุณณิชา ลายมือของน้องปัณณ์สวยงามมากเลยค่ะ ทางโรงเรียนของเราก็เลยอยากจะอยากให้เขาเข้าร่วมการแข่งขันคัดลายมือเด็กๆ คุณว่ายังไงคะ? ”
ครูน้ำฝนยังคงเป็นผู้หญิงอายุน้อย มัดผมหางม้า เดรสยาวสีขาว แต่ว่าสายตาสั้นเล็กน้อย เธอก็เลยใส่แว่นสายตากรอบสีดำ ณิชาที่กำลังจะเอ่ยถามนั้นก็หยุดนิ่งไปทันที
เธอก็นึกว่าปัณณ์สร้างเรื่องอะไรซะแล้ว……
“เข้าร่วมการแข่งขันงั้นหรอคะ?”
“ใช่ค่ะ ฉันไม่เคยคิดเลยว่าเด็กจะเขียนลายมือที่สวยงามได้ขนาดนี้……”ครูน้ำฝนหยิบงานคัดลายมือออกจากลิ้นชักและยื่นให้ณิชา
ณิชามองดูตัวอักษรพู่กันที่อยู่ตรงหน้า มันเป็นแค่สำนวนธรรมดาบทหนึ่ง มีเพียงแค่ 4 ตัวอักษรเท่านั้น ถึงแม้ว่าจะขาดจิตวิญญาณไปบ้าง แต่ก็ถือว่าเป็นผลงานที่ดีเลยทีเดียว
นี่……คือสิ่งที่ลูกชายของเธอเขียนงั้นหรอ?
ปัณณ์เกลียดศิลปะการเขียนพู่กันจีนมากที่สุดแล้วไม่ใช่หรอ?
ณิชารู้สึกสงสัยเป็นอย่างมาก อดไม่ได้ที่จะวิ่งออกไปนอกห้องเรียน และมองดูเด็กน้อยจากระยะไกลผ่านหน้าต่างกระจก
ใน 1 ห้องเรียนมีเด็กทั้งหมด 20 กว่าคน นั่งอยู่ในห้องเรียนอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย คุณครูกำลังเขียนตัวอักษรบนกระดานดำ เด็กน้อยบางคนก็ดูง่วงเหงาหาวนอน บางคนก็เหม่อลอย แต่ว่าปัณณ์ของเธอนั้นนั่งหลังตรง มองไปที่คุณครูอย่างตั้งอกตั้งใจ
สีหน้าของเขาสงบนิ่งมาก ไม่เหมือนกับว่ากำลังกังวลใจหรือว่าโกรธอยู่เลย
หรือว่าเด็กน้อยคนนี้โตขึ้นแล้ว เริ่มรู้เรื่องรู้ราวแล้ว?
ณิชารอเด็กน้อยเลิกเรียนอยู่ที่ห้องทำงานของครูน้ำฝน ด้วยความที่ง่วงมากก็เลยหลับไปอย่างไม่รู้ตัว
ไม่รู้เหมือนกันว่านอนไปนานแค่ไหน ระหว่างที่สะลึมสะลืออยู่นั้นก็รู้สึกได้ว่ามีสายตามองมาที่เธอ
เธอลืมตาขึ้นอย่างเกียจคร้าน
แล้วก็สบตากับใบหน้าเล็กๆ ที่ดูเหมือนเด็กน้อยและกำลังตื่นเต้น
“หม่ามี๊ ตื่นแล้วหรอครับ? ”อรัลรู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมาก ได้ใกล้ชิดกับน้าณิชาขนาดนี้อีกแล้ว ตอนกลางคืนก็จะได้ฟังเธอเล่านิทานด้วย
เขาวิ่งไปที่หน้าตู้กดน้ำ กดน้ำร้อนมาให้ณิชา แล้วก็ยื่นไปตรงมุมปากของเธออย่างเฉลียวฉลาด
“ครูน้ำฝนบอกว่าหม่ามี๊ไม่ค่อยสบาย ไม่ให้ผมไปรบกวน ตอนนี้ดีขึ้นรึยังครับ? จะดื่มน้ำอุ่นหน่อยไหม? ”
ท่าทางเล็กๆ ที่ดูกระตือรือร้นของเขาเหมือนกับเมื่อก่อน
ณิชารับแก้วมาด้วยความสงสัย จิบเข้าไป แล้วก็ถามหยั่งเชิงว่า “น้องปัณณ์ เมื่อวานลูกโทรหาหัวหน้าหม่ามี๊หรอ? ”
อรัลพยักหน้า “ใช่ครับ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊
ตอน571-670หายไปไหนคะ ต้องทำไงถึงจะอ่านตอนที่ขาดไปได้...