กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊ นิยาย บท 568

สรุปบท บทที่ 568 คืนแรกของการแต่งงาน: กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊

ตอน บทที่ 568 คืนแรกของการแต่งงาน จาก กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 568 คืนแรกของการแต่งงาน คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายโรแมนซ์ กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊ ที่เขียนโดย เมียวเมียว เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

พนักงานนำทั้งสองคนขึ้นไปชั้นบน

แนะนำบริการพิเศษของโรงแรม แล้วก็ภูมิทัศน์ที่เป็นเอกลักษณ์ของเกาะอย่างกระตือรือร้น

เปิดประตูห้องนอน ผ้าม่านหน้าต่างทั่วทั้งห้องถูกดึงปิดเอาไว้ เดิมทีแสงไฟที่ส่องสว่างก็ถูกเปลี่ยนเป็นแสงสีส้มที่สลัวๆ ทำให้รู้สึกคลุมเครือมากขึ้นไม่น้อย

บนเตียงขนาดใหญ่มีกลีบกุหลาบจัดวางเอาไว้เป็นรูปหัวใจ

บนผนังก็ติดลูกโป่งเป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษคำว่า Happy wedding……

ทั้งหมดมันเป็นความฝันที่แสนวิเศษและสวยงามอย่างถึงที่สุด!

พนักงานเห็นท่าทางที่ประหลาดใจของณิชาแล้ว ก็พูดอธิบายขึ้นอย่างยิ้มแย้ม “ของตกแต่งพวกนี้คุณเวธัสกับคุณชาลีเป็นคนเลือกมาทั้งนั้นเลยค่ะ แล้วก็หวังว่านายหญิงของตระกูลสนธิไชยจะพอใจนะคะ!”

คิ้วของจงกลก็ยกโค้งอย่างอดไม่ได้ “ธัสเริ่มเอาใจใส่เธอมากขึ้นเรื่อยๆแล้ว ณิชา เธอชอบไหม?”

“……ชอบค่ะ”แต่ทำไมยังต้องไปปรึกษากับพี่ด้วยนะ?!

พนักงานดูเหมือนจะมองออกว่าณิชารู้สึกอึดอัดไม่เป็นตัวเอง จึงพูดขึ้นอย่างจริงจัง “ธรรมชาติของผู้ชายก็เป็นแบบนี้เหมือนกันทุกคนนั่นแหละค่ะ ยิ่งไปกว่านั้นความสัมพันธ์ของคุณชาลีกับคุณเวธัสก็ดีมากด้วย คุณชาลีก็เป็นพี่ของคุณ ที่เสนอความคิดเห็นเยอะแยะมากมายขนาดนั้น ก็เพราะอยากให้คุณกับคุณเวธัสได้มีคืนแรกของการแต่งงานที่มีความสุขยังไงล่ะคะ……”

ณิชา “……”

พนักงานเรียกให้คนมาส่งของกินเล่น ก่อนที่จะจากออกไปก็แอบบอกให้ณิชาพักผ่อนให้เต็มที่ เก็บเรี่ยวแรงเอาไว้ เพราะว่าคืนนี้เจ้าบ่าวอาจจะกลายร่างเป็นหมาป่าก็ได้

ณิชาแทบจะสำลักอีกครั้ง ดื่มน้ำไปหลายอึกอย่างทันที

ผลที่ได้ไม่ทันได้ระวังสำลักน้ำจนได้……

จงกลตบลงที่หลังของณิชาเบาๆให้เธอหายใจคล่อง ก่อนจะพูดหยอกล้อขึ้นมา “ตั้งตาตั้งตารอคอยคืนแรกของการแต่งงานกับธัสขนาดนี้เชียวเหรอ? ขนาดดื่มน้ำก็ยังรอแทบไม่ไหวแล้ว”

“น้าเล็ก หนูไม่ได้……”ณิชาเงยหน้าที่แดงเนื่องจากสำลักน้ำของตัวเองขึ้นมา ท่ามกลางแสงไฟสลัวๆ แม้ว่าจะไม่แต่งหน้าแต่ก็ดูกระจ่างใส ราวกับผลไม้ที่รอคนมาเก็บเกี่ยว

จงกลยิ่งมองเธอก็ยิ่งคิดถึงกานต์รวีมากขึ้น

ไม่แปลกที่ตอนนั้นศิริจันทร์สติหลุดไปเพราะว่าเห็นเธอ ดูจากหลายๆมุมแล้ว เธอเหมือนกับกานต์รวีมากจริงๆ

จงกลเหม่อมองจนจิตใจเลื่อนลอยไปทันที

ณิชาจ้องมองจงกลด้วยความสงสัย พูดเรียกออกมาเบาๆ “น้าเล็ก เป็นอะไรไปคะ?”

“……”ความคิดของจงกลหยุดชะงักกะทันหัน จ้องมองณิชาอย่างอึ้งตะลึง “ณิชา ก่อนหน้านี้เธอถามฉันว่าเคยเห็นผู้ชายที่ทำร้ายแม่ของเธอที่ไหนมาก่อนหรือเปล่าใช่ไหม?”

แววตาของณิชาเผยให้เห็นถึงความประหลาดใจ “คุณนึกออกแล้วเหรอคะ?”

“อื้อ ตอนนั้นเขาน่าจะกำลังเดินชอปปิ้งเป็นเพื่อนแม่ของเธออยู่ ทั้งสองคนดูมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมากๆ แถมไม่ใช่แค่พวกเขาสองคนเท่านั้น ยังมีอีกคนหนึ่งด้วย……”

ความอยากรู้ของณิชาถูกฉุดกระชากขึ้นมาทันที พูดเค้นถามต่อ “ยังมีคนที่อยู่ด้วยอีกคน? หนูรู้จักไหม ถ้าหาตัวเขาเจอก็จะได้รู้ว่าผู้ชายที่ชอบล้อเล่นกับความรู้สึกของผู้หญิงคนนั้นเป็นใครแล้วใช่ไหมคะ?”

จงกลกุมมือของณิชา ไม่อยากที่จะพูดต่อ

“รองานแต่งงานของเธอกับธัสจบลงก่อน ฉันค่อยบอกเรื่องที่นึกขึ้นมาได้กับเธอจนหมดเปลือกอีกทีเธอ ตอนนี้เธอทำหน้าที่เจ้าสาวของเธออย่างสบายใจไปก่อนเถอะนะ ถ้าทำร้ายอารมณ์ความรู้สึกของเธอขึ้นมา ธัสจะต้องตัดความสัมพันธ์กับฉันที่เป็นน้าเล็กของเขาลงแน่ๆ”

ถึงยังไงก็รอมานานมากแล้ว ไม่รังเกียจที่จะรอต่อไปอีกสักคืน ณิชาพูดออดอ้อนขึ้นมา “ไม่หรอกค่ะ ที่ธัสใส่ใจที่สุดก็คือคุณที่เป็นน้าเล็กนะคะ จนบางครั้งหนูยังรู้สึกหึงเลยค่ะ!”

“แหม แม่หนูน้อยคนนี้นี่”จงกลยิ้มอย่างอ่อนโยน “แต่ว่ามีเธออยู่ข้างกายของเขา ต่อให้ในอนาคตฉันไม่อยู่แล้วก็วางใจลงได้……”

“ น้าเล็กจะอายุยืนเป็นร้อยๆปีแน่นอนค่ะ แถมยังต้องช่วยพวกเราลี้ยงลูกด้วยนะคะ……”

……

ประตูเปิดแง้มเอาไว้ มีแสงสว่างส่องลอดผ่านร่องออกมา

มีเงาคนหนึ่งเงาปรากฏขึ้นมาแล้วก็หายไป ดูไม่เข้ากับความอบอุ่นและความกลมกลืนในห้องพัก บรรยากาศในห้องกดต่ำลงจนน่ากลัว

ชั้นล่าง

ดื่มฉลองไปรอบแล้วรอบเล่า ชาลีก็จงใจมอมเหล้าเวธัส เวธัสดื่มจนเมาเล็กน้อย

สีของท้องฟ้าจากตอนเที่ยงก็ค่อยๆมืดครึ้มลง

ท่านประเสริฐพอเห็นว่าในที่สุดหลานของตัวเองก็ได้แต่งงานกับหลานสาวของจันทร์สักที ก็ดีใจเป็นอย่างมาก ยกแก้วไวน์แอบไปหาศิริจันทร์เพื่อพูดเล่าความในใจ

ศิริจันทร์อยู่ต่อหน้าของบรรดาแขกนับไม่ถ้วน ไม่อยากทำลายความปิติยินดีของวันแต่งงาน ก็เลยฝืนดื่มน้ำผลไม้ที่ท่านประเสริฐยื่นมาให้

ท่านประเสริฐรู้สึกดีใจเหมือนกับเด็ก เล่าความหลังไปเรื่อยอย่างไม่รู้จบ เดี๋ยวก็พูดเล่าเรื่องตอนเด็กของพวกเขา เดี๋ยวก็เล่าว่าช่วงหลายปีมานี้ของเธอมันไม่ง่ายเลย……

ศิริจันทร์ทั้งสุขทั้งทุกข์ ตาแดงอย่างไม่ได้เห็นบ่อยๆ

เวธัสดื่มจนถึงที่สุดแล้วก็แสร้งทำเป็นเมาถึงได้สลัดตัวหลุดออกมาจากชาลีได้ ให้โทนี่กับเอกแบ่งกันไปรับแขกแทน ส่วนตัวเขาก็แสร้งทำเป็นว่าเดินโซซัดโซเซ ให้คนรับใช้ช่วยประคองขึ้นมาชั้นบน

มีพนักงานของโรงแรมทักทายถามสารทุกข์สุกดิบกับเขาอย่างไม่หยุดไม่หย่อน

เวธัสไม่ได้ตอบกลับไปเลยแม้แต่นิดเดียว

มีเพียงแค่ผู้หญิงที่กำลังนั่งรอเขาอยู่ในห้องหอคนนั้นเท่านั้น ที่ให้ความอบอุ่นของครอบครัวกับเขาได้……

ภายในห้องนอน จงกลออกไปตั้งนานแล้ว ณิชากินของกินเสร็จรู้สึกง่วงกำลังนอนหลับอยู่ พอได้ยินเสียงเปิดประตู ก็รีบลุกขึ้นมานั่งบนเตียงทันที พอได้กลิ่นเหล้าที่แสบจมูกสีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที

“คุณดื่มไปเท่าไรเนี่ย……”เห็นได้ชัดว่าณิชาไม่ได้หลับสนิท ขมวดคิ้วพูดขึ้น

ถึงจะบ่น แต่เธอก็ยังช่วยถอดเสื้อตัวนอกให้กับเขาอยู่ดี

เวธัสกลัวว่าจะกระตุ้นจนทำให้เธอแพ้ท้อง จึงเว้นระยะห่างจากเธออยู่หลายเมตร ถอดเสื้อตัวนอกที่คละคลุ้งไปด้วยกลิ่นเหล้าออกมา ทิ้งเข้าไปในตะกร้าผ้าใช้แล้วที่อยู่ในห้องน้ำ ก่อนจะพูดขึ้น “อันนี้ก็ต้องไปถามพี่ชายตัวดีของคุณล่ะนะ ว่าเขามอมเหล้าผมไปเท่าไร”

ณิชาได้ยินแบบนั้นก็หลุดขำออกมา “พวกคุณนี่บางครั้งก็ตีกันตลอดแต่ก็รักกันไม่น้อยเลยนะ”

“ตัดคำพูดส่วนหลังทิ้งไปซะ”เวธัสพูดแก้ไขให้ถูกต้อง

ณิชายิ้มอย่างสุขใจมากขึ้น จากนั้นก็เห็นเวธัสหยิบเสื้อที่ซักรีดเรียบแล้วออกมาจากตู้เสื้อผ้า ยืนอยู่ตรงตำแหน่งที่ห่างจากเตียงสองเมตร จ้องมองณิชาตาไม่กะพริบ

แสงไฟอบอุ่น ค่ำคืนมืดมิด ห้องนอนที่เดิมทีเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะก็เงียบสงบลงทันที

ณิชาถูกเวธัสใช้สายตาที่เร่าร้อนจ้องมองอยู่แบบนั้น ขยับไปริมๆด้วยความรู้สึกอึดอัดไม่เป็นตัวเอง สายตาจ้องมองเพดานด้วยความรู้สึกผิด เหมือนกับมีเปลวไฟกำลังลุกโชนอยู่ภายในตัว รู้สึกประหม่าจนเหงื่อไหลตามฝ่ามือ

นี่มันคืนแรกของการแต่งงานแล้วเหรอ?

อีกเดี๋ยวจะเกิดอะไรขึ้น?

“ฉันตั้งท้องอยู่ หมอบอกว่าไม่ได้”รู้สึกตื่นตระหนกไม่น้อย ณิชารีบชิงพูดก่อนที่เวธัสจะเปิดปากพูดขึ้น จากนั้นก็หยุดไป ก่อนจะเม้มปากพูดขึ้นต่อ “แต่ว่า ถึงยังไงคืนนี้ก็เป็นคืนแรกหลังจากการแต่งงานของพวกเรา ถ้าคุณทนไม่ไหว ฉันสามารถช่วยคุณด้วยวิธีอื่นได้”

เวธัสแววตาประหลาดใจและเป็นประกายขึ้นมา พูดด้วยเสียงแหบแห้งในลำคอ “ผมไปอาบน้ำก่อน”

ณิชาม้วนผ้าห่มกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนเตียง……

ไม่อยากจะเชื่อว่าคำพูดเมื่อตะกี้ออกมาจากปากของเธอ!

แต่นี่ก็เป็นเรื่องปกติระหว่างสามีภรรยานี่นา มีอะไรที่น่าอายกันล่ะ?

……

เวธัสอาบน้ำเสร็จออกมา ณิชาก็นอนอยู่ในผ้าห่มอย่างเชื่อฟังเรียบร้อยแล้ว โผล่ออกมาแค่ผมสีดำขลับที่ถูกแสงไฟสลัวๆย้อมจนเปลี่ยนสีไปเท่านั้น

ตอนที่สายตาหันมองไปยังชุดนอนที่กระจัดกระจายอยู่ข้างๆนั้น แววตาของเวธัสก็ยิ่งดูมืดมนมากขึ้น

ณิชาสังเกตเห็นถึงแววตาของเวธัส กัดริมฝีปาก

เขาจะต้องคิดไม่ถึงว่าคืนนี้เธอจะเชื่อฟังขนาดนี้สินะ?

ลูบท้องเบาๆ ตั้งแต่ตั้งท้องมาเด็กในท้องก็มักจะเชื่อฟังอยู่ตลอดเวลา คืนนี้ก็น่าจะเป็นเหมือนกันสินะ

เวธัสคิดไม่ถึงว่าณิชาจะเชื่อฟังขนาดนี้จริงๆ ปกติแล้วเห็นเธอกล้าหาญแบบนี้แต่ความเป็นจริงแล้วเขินอายกับเรื่องระหว่างชายหญิงแบบนี้มากๆ แต่นี่ก็เชื่อฟังจนเกินไปเหมือนกัน……

ชุดพิธีการของเธอ เขาอยากที่จะฉีกกระชากด้วยมือของเขาเอง!

####บทที่ 569 เธอนอนจมกลางกองเลือด

แต่ในเมื่อเธอเตรียมตัวพร้อมเรียบร้อยแล้ว เขาก็ไม่มีเหตุผลที่จะไม่รับประทานอาหารมื้อใหญ่นี้เหมือนกัน

เขาถอดชุดคลุมอาบน้ำออกแล้วมุดเข้าไปในผ้าห่ม โอบกอดเธอจากข้างหลัง บังเอิญ ทั้งสองทำท่างอตัวเล็กน้อยพอดี ทำให้ร่างกายแนบชิดเข้าด้วยกันได้อย่างสมบูรณ์แบบมากขึ้น

ณิชารู้สึกได้ว่าลมหายใจของเวธัสที่มาโดนข้างหูของเธอนั้นเริ่มถี่มากขึ้นเรื่อยๆ……

“จูบผม”เสียงในลำคอที่แหบแห้งของเขา พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเชิงสั่ง

ณิชาหันไปจูบที่คางของเขา

จู่ๆมือก็ถูกฝ่ามือที่ร้อนผ่าวของเขากุมเอาไว้ ตามมาด้วยหน้าอกและหน้าท้องที่แข็งแรงของเขาค่อยๆเลื่อนลงข้างล่างอย่างช้าๆ……

จู่ๆก็มีเสียงของสิ่งของที่หนักกลิ้งตกจากบันได!

ณิชาสีหน้าเปลี่ยนไป รีบผลักประตูชำเลืองมองข้างล่างอย่างรวดเร็ว

เห็นเงาเงาหนึ่งวิ่งหนีออกไปจากสถานที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็ว ณิชาไม่ทันได้เห็นใบหน้าของเขาอย่างชัดเจน ส่วนจงกลก็กำลังกลิ้งลงมาจากบันได หัวกระแทกเข้ากับกระถางต้นไม้ที่บนบันไดขั้นสุดท้าย บนบันไดสีอ่อนนองไปด้วยเลือดกองใหญ่ ย้อมสีแดงไปทั่วทั้งพื้น

“น้าเล็ก……”

หลังจากที่ในหัวว่างเปล่าเป็นระยะเวลาสั้นๆ ณิชาก็ร้องตะโกนออกมาเสียงดังด้วยเสียงที่สั่น

เธอรีบวิ่งลงบันไดมาอย่างทันที พยุงจงกลที่นอนกองอยู่ที่พื้นขึ้นมา ตบแก้มของเธอ พยายามทำให้เธอได้สติกลับคืนมา “น้าเล็ก? น้าเล็กคุณได้ยินหนูพูดไหม? คุณอดทนหน่อยนะ เดี๋ยวหนูจะจะเรียกรถพยายามเดี๋ยวนี้แหละ……”

จงกลล้มลงอยู่ในกองเลือด มือข้างหนึ่งกำชายเสื้อของณิชาเอาไว้แน่น มืออีกข้างชี้ณิชาอย่างสั่นไม่นิ่ง

“คือ……คือ……”

“ว้าย!”ในเวลานี้เองก็มีคนรับใช้คนหนึ่งผ่านมาพอดี ได้ยินเสียงตะโกนก็รีบวิ่งมาดู ตกใจจนร้องกรี๊ดออกมาอย่างสุดเสียง

“คุณพระ!ใครก็ได้มานี่หน่อย คุณจงกลตกบันไดแล้ว……”

“หมอ? หมออยู่ไหน……”

โรงแรมโกลาหลวุ่นวายตั้งแต่เช้าตรู่

……

ตอนที่เวธัสรับโทรศัพท์นั้น เขากำลังพูดคุยปรึกษากับชาลีว่าคืนนี้จะมอบความทรงจำที่ยามจะลืมให้กับณิชาอีกสักครั้ง

เมื่อคืนเธอเหนื่อยเกินไป แล้วเขาก็ดื่มจนเมาเละอีก ถึงขนาดที่ไม่ทันได้ทำเรื่องที่โรแมนติกมากกว่าเดิมเลยด้วยซ้ำ

พอวางสายลง เวธัสก็ยืนอึ้งตะลึงอยู่กับที่

ชาลีเห็นท่าทางเหม่อลอยของเขา ก็กระแทกแขนของเขาหนึ่งที “คิดเซอร์ไพรส์ที่จะมอบให้กับณิชาในคืนนี้ได้แล้วเหรอ?”

“ตึง”

โทรศัพท์ไหลลงจากฝ่ามือ ตกกระแทกพื้นอย่างจัง

ชาลีถึงตระหนักได้ว่ามีอะไรผิดแปลกไป “มีอะไรเหรอ?”

เวธัสเม้มริมฝีปากจนซีดขาว กลับหลังหัน วิ่งตรงไปยังจุดเกิดเหตุด้วยความรู้สึกทุกข์ยากลำบากใจ

ชาลีแทบจะไม่เคยเห็นท่าทางที่สูญเสียการควบคุมของเวธัสขนาดนี้มาก่อน เขาสับเท้าตามไปอย่างรวดเร็ว

“เกิดเรื่องอะไรขึ้น? ณิชาเธอ……”

เวธัสไม่ได้ยินที่ชาลีพูดเลยแม้แต่นิดเดียว

ลมหนาวรอบตัวพัดโถมมาที่ใบหน้า เสื้อตัวนอกของเขาตกลงในบ้าน ใส่แค่เสื้อเชิ้ตบางๆเท่านั้น หนาวจนสั่น ใบหน้ากลับไม่มีสีหน้าอารมณ์ใดๆเลยแม้แต่นิดเดียว เต็มไปด้วยความมืดมนที่น่าตกใจกลัว

ในที่สุดเวธัสก็พุ่งมาถึงตรงประตูใหญ่ของโรงแรม พื้นที่ของเกาะไม่ใหญ่มาก ดังนั้นทีมรักษาพยาบาลก็เลยมาถึงอย่างรวดเร็วเช่นกัน

พวกเขาหามเปล กำลังที่จะพาจงกลขึ้นไปบนรถพยาบาล

รถพยาบาลขับออกไป ในหัวของเวธัสสับสนวุ่นวายไปหมด กระชากคอเสื้อของหัวหน้ายามรักษาความปลอดภัย พร้อมกับพูดถามขึ้นด้วยเสียงที่ตะโกนจนแหบแห้ง “นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่!ทำไมน้าเล็กถึงตกลงมาจากชั้นบน แล้วภรรยาของฉันล่ะ?”

“คุณ……คุณผู้ชาย สถานการณ์โดยละเอียดผมเองก็……ไม่ทราบอย่างแน่ชัดเหมือนกันครับ……”

“ธัส ฉันอยู่นี่!”หลังจากที่เสียงพูดสั่นๆของหัวหน้ายามรักษาความปลอดภัยจบลง ณิชาก็เบียดตัวออกมาจากกลุ่มคน

เวธัสสั่นไปทั่วทั้งตัว หันหน้าพุ่งตรงเข้าไปสองสามก้าว เอาณิชาเข้ามากอดเอาไว้แน่น

พอได้กลิ่นคาวเลือดที่เข้มข้น เขาก็ก้มหน้าลงมองร่างกายที่แปดเปื้อนไปด้วยเลือดของณิชา หัวใจที่เพิ่งจะผ่อนคลายลงมาได้นิดหน่อยเมื่อตะกี้นี้ก็กระวนกระวายขึ้นมาอีกครั้ง!

“เลือดพวกนี้……”

“ไม่ใช่ของฉัน นี่เป็นเลือดที่ฉันไม่ทันได้ระวังเผลอไปเปื้อนเข้าตอนที่ฉันกอดน้าเล็กเมื่อตะกี้นี้”ณิชาขอบตาแดง ส่ายหัวอย่างไม่หยุดหย่อน พูดสะเปะสะปะฟังไม่ค่อยรู้เรื่องอยู่ไม่น้อย “ขอโทษนะ เป็นเพราะฉันมันไม่ดีเอง ถ้าฉันรีบเข้าไปเร็วกว่านี้ ก็จะดึงน้าเล็กเอาไว้ได้ บางทีทุกสิ่งทุกอย่างนี้ก็จะไม่เกิดขึ้น เธอก็จะไม่ตกลงมา เป็นความผิดของฉันเอง……”

ในตอนนั้นทำไมเธอถึงต้องลังเล ไม่พุ่งเข้าไปที่ห้องบันไดสำรองให้เร็วกว่านี้ด้วยนะ?

ณิชาพอนึกถึงท่าทางที่นอนจมกองเลือดหายใจแผ่วเบาของน้าเล็กแล้ว ก็เหมือนกับถูกคนมาบีบคอเอาไว้!

เห็นๆอยู่ว่าเมื่อคืนพวกเธอยังพูดคุยกันอยู่เลยแท้ๆ แถมยังบอกว่าในอนาคตจะพาเธอไปเที่ยวรอบโลกด้วยกันอีกด้วย……

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊