"แม่...โอเคแล้วใช่ไหมคะ" ไพลินค่อยๆเงยหน้าขึ้นมาถามผู้เป็นแม่ เธอยิ้มแห้งเมื่อเห็นภารดียังยกมือทาบอกและมองเธอกับบดินทร์สลับกันไปมาราวกับยังยอมรับคำขอของเธอไม่ได้
"แม่ไม่ค่อยโอเคกับอะไรที่มันไม่ถูกต้องนะน้องลิน แล้วอีกอย่างน้องลินก็เป็นผู้หญิง ยังไงก็เสียหายอยู่แล้ว เป็นแค่แฟนกันไม่ใช่คู่หมั้นหรือผัวเมีย แม่ไม่อยากให้น้องลินตกเป็นขี้ปากชาวบ้าน"
"แล้วชาวบ้านที่ชอบยุ่งเรื่องของคนอื่นมันเป็นญาติโกโหติกาของเราเหรอคะ ทำไมแม่ต้องแคร์นักหนาว่าคนอื่นจะมองเรายังไง เราจะเป็นยังไง นี่มันชีวิตลินนะคะแม่ ใครมันนินทาลินๆก็เรียกมันว่าพวกชอบเสือกทั้งนั้นแหละ ไม่เห็นต้องแคร์เลย"
"น้องลิน!" ภารดีเรียกลูกสาวเสียงหลง "นี่เป็นความผิดของแม่ใช่ไหมที่ปล่อยให้คุณพ่อเขาเลี้ยงเรามากเกินไป น้องลินเลยอ่อนโยนไม่เป็น คำพูดคำจาไม่มีความเป็นกุลสตรีเลยน้องลิน"
"ลินพูดความจริงค่ะ ทำไมเราต้องแคร์คนอื่นมากมายขนาดนั้นคะ ลินไม่ชอบที่แม่ชอบบอกว่าทำแบบนั้นแบบนี้แล้วจะตกเป็นขี้ปากชาวบ้าน ของแบบนั้นมันเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้วค่ะ แค่ลินพาเฮียดินเข้าบ้านคนในซอยก็คงพูดกันแล้วล่ะค่ะว่าลินมีผัวแล้ว แถวได้ผัวรวยด้วย"
"โอ๊ย! แม่จะเป็นลม" แต่ละถ้อยคำที่ไพลินพูดออกมาแทบทำให้คนเป็นแม่อย่างภารดีลมจับ
"แต่คุณแม่ไม่ต้องห่วงนะคะ หนูไม่ได้รู้สึกอะไรกับคำนินทาพวกนั้นหรอกค่ะ ออกจะภูมิใจด้วยซ้ำที่ได้เฮียบดินทร์เป็นแฟน"
"พอๆๆ แม่ไม่อยากฟังแล้ว"
"นี่เป็นลูกเขยที่เพอร์เฟกต์ที่สุดในตอนนี้แล้วนะคะ หล่อ รวย มีการศึกษา ตามแบบที่คุณแม่ชอบเลยค่ะ"
"พอๆๆ" ภารดียกมือปรามลูกสาว ก่อนจะถอนหายใจพรืดใหญ่
"ถ้าอยากอยู่ด้วยกันก็หมั้นหมายกันให้เรียบร้อยก่อน อย่างน้อยก็ช่วยทำให้แม่สบายใจหน่อยว่าอยู่ด้วยกันในฐานะคู่หมั้น ไม่ใช่วัยรุ่นใจแตกที่แอบหนีไปอยู่กับผู้ชายโดยไม่มีสถานะอะไรเลย"
"จริงนะคะ!" ไพลินฉีกยิ้มกว้างด้วยความดีใจเมื่อผู้เป็นแม่ยอมเปิดใจรับคำขอของเธอ บดินทร์เองก็ลอบอมยิ้มเหมือนกัน
"เรื่องหมั้นผมจะกลับไปคุยกับพ่อแม่ผมเองครับ แล้วจะรีบให้พ่อกับแม่มาสู่ขอน้องนะครับ" ไพลินยิ้มเขินอายกับคำพูดของแฟนหนุ่ม หัวใจดวงน้อยพองโตกับน้ำเสียงหนักแน่นของเขา
"อย่าหาว่าแม่เร่งเลยนะ แต่ถ้าอยากอยู่ด้วยกันจริงๆก็รีบยกขันหมากมาขอลูกแม่ หรือถ้าไม่สะดวกเดี๋ยวแม่ยกขันหมากไปขอเอง ไปขอผัวให้ลูกสาวก็คงไม่ขายหน้าเท่าไรหรอก" ภารดีเหลือบมองลูกสาวอย่างประชดประชัน ทำเอาไพลินที่กำลังยิ้มเขินอายกับคำพูดของบดินทร์หุบยิ้มทันที
"ถ้าจะหมั้นกันลินว่าเอาแค่แหวนหมั้นมาแลกกันต่อหน้าผู้ใหญ่ก็น่าจะพอแล้วนะคะ"
"เรื่องนั้นแม่ว่าเราค่อยคุยกันอีกทีดีกว่าค่ะ แม่จะไปทานข้าวแล้ว แล้วเราก็จะไม่พูดเรื่องน่าปวดหัวกันอีก"
"แค่ลินอยากย้ายไปอยู่กับแฟนไม่เห็นเป็นเรื่องน่าปวดหัวตรงไหนเลย" ภารดีส่ายหน้าน้อยๆอย่างเอือมระอากับความห้าวเกินผู้หญิงของลูกสาว เธอหยัดกายลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปในห้องรับประทานอาหารทันที ทำให้ไพลินและบดินทร์ต้องรีบเดินตามไป
@ครึ่งชั่วโมงต่อมา
"ไหนๆก็มากินข้าวด้วยกันแล้ว นอนค้างกับลินซะที่นี่เลยเป็นไงดิน" เดชาพูดขึ้นหลังจากรับประทานอาหารมื้อเย็นเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทำเอาบดินทร์ที่ได้ยินอย่างนั้นหลุดยิ้มดีใจอย่างลืมตัว
"คุณคะ" ภารดีตีแขนผู้เป็นสามีเบาๆ เธอมองหน้าเดชาอย่างไม่ชอบใจ
"เด็กมันเคยนอนเคยอยู่ด้วยกัน ห่างกันมันก็คิดถึงกัน ให้บดินทร์นอนค้างที่นี่เลยจะเป็นไรไป ดีซะอีกลูกจะได้ไม่เหงา"
"นี่คุณไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอคะที่ลูกพาผู้ชายมานอนที่บ้าน ลูกเป็นผู้หญิงนะคะ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กำราบรัก 20+