เข้าสู่ระบบผ่าน

ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย นิยาย บท 3

เมื่อถึงปลายยามโหย่ว หลังจากที่ทุกคนทานมื้อเย็นเสร็จ และเก็บจานชามไปทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว ก็กลับมารวมตัวกันอยู่ที่โต๊ะทานข้าวอีกครั้ง และเป็นท่านพ่อที่เอ่ยถาม เรื่องที่ลู่ชิงอยากจะพูดคุยกับพวกเขาขึ้นมา ซึ่งนี่เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจ สำหรับทุกคนในครอบครัวอย่างมาก เพราะเมื่อก่อนลู่ชิงจะพูดน้อยและทำตัวเงียบ ๆ หากไม่มีผู้ใดถามนาง ก็จะทำงานของตนไม่เคยมีข้อสงสัยใด ๆ

“ชิงเอ๋อร์ ท่านแม่ของเจ้าบอกพ่อว่า เจ้ามีเรื่องอยากจะพูดคุยกับพวกเราเช่นนั้นหรือ” ลู่เวินเอ่ยถามบุตรสาว

“เจ้าค่ะท่านพ่อ ข้ามีเรื่องสำคัญมาก อยากจะบอกความจริงบางอย่างกับพวกท่านทุกคน ก่อนที่จะเล่าข้าอยากขอให้พวกท่านตั้งสติและทำความเข้าใจกับสิ่งที่จะได้ยิน เพราะเรื่องที่จะพูดต่อไปนี้อาจจะเหลือเชื่อจนเกินไป หรือจะเรียกว่าเป็นเรื่องเหนือธรรมชาติก็ว่าได้ แต่มันเกี่ยวข้องกับบุตรสาวคนนี้ของท่าน รวมถึงน้องสาวของพวกท่านสองคนด้วยเจ้าค่ะ” ที่ลู่ชิงพูดเช่นนั้นเพราะอยากให้พวกเขามีสติ กับความจริงที่นางกำลังจะพูดออกไป

“เอาเถอะ ไม่ว่าจะเรื่องอะไร พวกเราทุกคนยินดีที่จะรับฟังทั้งสิ้น เจ้าพูดมันออกมาได้เลยนะชิงเอ๋อร์” เขาอยากจะรู้ว่าบุตรสาวมีเรื่องหนักใจอันใดกันถึงได้ทำสีหน้ากังวลเช่นนั้น

“ลู่ชิงที่ยืนอยู่ต่อหน้าพวกท่านในตอนนี้ ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกยังคงเป็นบุตรสาวของท่านพ่อท่านแม่ และเป็นน้องสาวของพี่ชายทั้งสอง แต่ดวงจิตที่อยู่ในร่างกายนี้ กลับไม่ใช่บุตรสาวตัวจริงของท่าน สวีลู่ชิงตัวจริงได้ตายจากไป ตั้งแต่เมื่อเช้ามืดของวันนี้แล้วเจ้าค่ะ และข้าที่เป็นดวงวิญญาณที่ตายจากโลกคู่ขนานอีกโลกหนึ่งอันห่างไกล ถูกท่านเทพชะตาพามาอยู่ในร่างบุตรสาวของพวกท่าน ซึ่งข้าเองได้ให้สัญญากับสวีลู่ชิงไว้แล้วว่า จะช่วยดูแลพวกท่านแทนนางนับจากนี้เป็นต้นไปเจ้าค่ะ” ข้าเล่าออกไปและสังเกตอาการของทุกคนว่าเป็นอย่างไร แน่นอนว่าท่านแม่ร้องไห้ออกมา ตั้งแต่บอกว่าลู่ชิงตัวจริงนั้นได้ตายไปแล้ว ท่านพ่อกับพี่ชายดูจะเสียใจไม่น้อยแต่ไม่มีน้ำตาให้เห็น

“ขอบอกพวกท่านตามตรง ตัวข้าในโลกแห่งนั้นไม่เป็นที่รักของครอบครัวสักเท่าใดนัก พ่อแม่รักพี่ชายมากถึงมากที่สุด ไม่ว่าพี่ชายอยากได้อะไรต้องการอะไร ล้วนได้ตามที่ต้องการเสมอ แต่กับข้าอยากได้อะไรต้องหามันมา ด้วยกำลังของตนเองเท่านั้น ในใจลึก ๆ ข้าใฝ่ฝันมาตลอดว่า อยากมีครอบครัวที่พ่อแม่รักลูกทุกคน ไม่ว่าจะสตรีหรือบุรุษ

ขอแค่มีครอบครัวที่อบอุ่น ได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขก็เพียงพอ ดังนั้นข้าที่ได้มาเกิดใหม่ ในร่างของบุตรสาวพวกท่าน หากจะขอความเมตตาฝากตัวเป็นบุตรสาว เป็นน้องสาวของพวกท่านจะได้หรือไม่เจ้าคะ” ลู่ชิงคนใหม่พูดถึงเรื่องครอบครัวที่นางใฝ่ฝัน และอยากมีในชีวิตสักครั้งให้กับทุกคนได้ฟัง

“เป็นเพราะพ่ออย่างข้าที่ไม่เอาไหน ปล่อยให้บุตรสาวต้องล้มป่วยจนตาย นี่คงเป็นลิขิตของสวรรค์ ที่บุตรสาวของข้าได้ใช้ชีวิตเพียงแค่สิบสองหนาว ส่วนตัวพวกเราก็ไม่อาจรู้ได้ว่า จะมีชีวิตอยู่ยืนยาวหรือไม่ ไหน ๆ เรื่องราวมันก็เกิดขึ้นแล้ว ไม่สามารถย้อนกลับไปแก้อะไรได้ ไม่ว่าเจ้าจะเป็นใครก่อนหน้านี้ แต่ตอนนี้เจ้าคือสวีลู่ชิงบุตรสาวคนเล็กของครอบครัวตระกูลสวี” แม้จะเสียใจอยู่ลึก ๆ แต่อย่างน้อยร่างของบุตรสาว ก็ยังได้ทำความดีให้อีกคน ได้เกิดใหม่มีโอกาสใช้ชีวิต

ที่เหลือแทนนาง

“โธ่ชิงเอ๋อร์ลูกแม่ ฮือ ๆ เพราะพวกเราดูแลลูกได้ไม่ดี ทำให้เจ้าต้องจากไปเร็วเช่นนี้ ฮือ ๆ ๆ” ฟางซินเองไม่อยากเชื่อว่าบุตรสาวของนางได้จากโลกนี้ไปแล้ว จึงยังทำใจไม่ได้ขอตัวกลับเข้าห้องไปก่อน

“เจ้าช่วยให้เวลาท่านแม่ได้ทำใจสักพักเถิดนะ พวกเราเองก็เสียใจไม่น้อย แต่จะทำอย่างไรได้ ในเมื่อทุกอย่างมันเกิดขึ้นแล้ว พวกเราคงต้องยอมรับความจริง เจ้าเองอย่าได้กังวล ขอเพียงไม่ทำร้ายคนในครอบครัว พวกเราก็อยู่ร่วมกันได้ต่อไป และเจ้าก็เกิดอยู่ในร่างของชิงเอ๋อร์ เจ้ายังเป็นน้องสาวของพวกเราสองคนอยู่ดี” ลู่จื้อพูดขึ้นมาอย่างจริงจังและลู่เสียนก็พยักหน้าเห็นด้วยกับพี่ชาย

“อืม อาจื้อพูดถูกแล้วล่ะ พวกเรายังต้องใช้ชีวิตต่อไป ค่อย ๆ ทำความรู้จักนิสัยใจคอกันไป อย่างไรเสียพวกเราก็ตัดใจทิ้งเจ้าไม่ได้อยู่ดี” ลู่เวินยังเคยแอบคิดว่าจะได้เห็นลู่ชิงร่าเริงสดใสบ้าง

“ฮึก ขอบคุณพวกท่านที่ไม่รังเกียจข้า ที่เป็นคนแปลกหน้ามาจากที่อื่น ข้าขอสัญญาว่าต่อจากนี้ไป ความรู้ใดที่ติดตัวมาจากโลกเดิมจะนำทุกอย่างมาใช้ให้เกิดประโยชน์ เพื่อให้ทุกคนได้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นในอนาคตอย่างแน่นอนเจ้าค่ะ” ลู่ชิงคุกเข่าลงและก้มหัวคำนับให้กับพวกเขา

“ข้ายังมีอีกเรื่องที่อยากจะบอกพวกท่านเจ้าค่ะ ถือว่าข้าบริสุทธิ์ใจไม่คิดมีความลับกับพวกท่าน ที่จะให้ข้าอยู่ที่นี่ในฐานะสมาชิกคนหนึ่งของครอบครัวตระกูลสวี และเรื่องนี้มันสำคัญมาก หากข้าบอกไปแล้วพวกท่านต้องเก็บเป็นความลับ จะบอกให้คนอื่นรู้ไม่ได้เด็ดขาดนะเจ้าคะ” ลู่ชิงไม่ลืมที่จะบอกพวกเขาเรื่องมิติวิเศษนั่น

“เรื่องสำคัญที่ต้องเก็บเป็นความลับเลยรึ ถ้าเช่นนั้นเจ้าไม่ต้องบอกพวกเราก็ได้” ท่านพ่อถามข้าด้วยความสงสัย ว่าเป็นเรื่องสำคัญอันใด แต่ก็ยังคิดเผื่อว่าไม่ต้องบอกและเก็บไว้กับตัวดีกว่า

“ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ บอกพวกท่านให้รู้ไว้ย่อมดีที่สุด ยามที่พวกท่านเห็นสิ่งแปลก ๆ จะได้ไม่ตกใจจนจับไข้อย่างไรเล่า ตอนนี้จับมือกันไว้และหลับตานะเจ้าคะ หายใจเข้าลึก ๆ ด้วยเจ้าค่ะ ข้าจะพาพวกท่านไปยังที่แห่งหนึ่ง ขอให้พวกท่านมีสติยามที่บอกให้ลืมตา ถ้ามีข้อสงสัยอันใดสามารถถามข้าได้ทันทีเจ้าค่ะ” ทุกคนทำตามที่ลู่ชิงบอกแล้วก็พูดคำว่าเข้ามิติ เพียงวูบเดียวก็พาทุกคนมาโผล่ด้านในของมิติแล้ว

“พวกท่านลืมตาได้แล้วเจ้าค่ะ” ลู่ชิงบอกให้พวกเขาลืมตาทันทีที่เข้ามาในมิติของตน

“ชิงเอ๋อร์!!! นะ นี่เจ้าพาพวกเรามาที่ใดกัน เมื่อครู่ยังอยู่ในบ้านอยู่เลยถ้าท่านแม่ออกมาไม่เจอเล่า” ลู่เสียนตกใจว่าตนเองมาอยู่ที่ใด

“ชิงเอ๋อร์!! เจ้าอาคารนั่นคือสิ่งใด ทำไมมันถึงมีขนาดใหญ่เช่นนั้น ที่เมืองหลวงไม่เคยเห็นมีอาคารเช่นนี้นะ” ลู่จื้อมองดูอาคารรูปร่างแปลกตาไปรอบ ๆ

บทที่ 3 1

บทที่ 3 2

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย