สองวันต่อมาก็ถึงเวลาไปขายของวันแรกแล้ว ทุกคนตื่นพร้อมกันลู่ชิงกับฟางซินช่วยกันหมักเนื้อหมูและน่องไก่ ส่วนลู่เวินกับบุตรชายก็ช่วยกันยกเตาและอุปกรณ์ที่ใช้ทอดทุกอย่าง ขึ้นบนรถเข็นรออยู่นอกบ้าน
ลู่ชิงได้ตั้งกฎกับครอบครัวเอาไว้ว่า จะขายของหกวันและหยุดพักหนึ่งวัน เพราะไม่อยากให้ทุกคนเอาแต่คิดเรื่องทำงานหาเงิน ควรมีเวลาพักผ่อนบ้าง แม้จะมีน้ำจากบ่อวิเศษให้ดื่ม แต่อย่างน้อยการพักผ่อนให้เต็มที่ ก็เป็นผลดีต่อร่างกายมากกว่า เมื่อทุกอย่างพร้อมจึงปิดประตูบ้านและเดินเท้าไปในตำบลหย่งฝู พื้นที่ขายของที่ลู่เวินจองไว้ให้นั้นเป็นการจองแบบรายเดือน และมันก็อยู่บริเวณที่มีคนพลุกพล่านมาเดินจับจ่ายซื้อของยามเช้า
พอถึงบริเวณพื้นที่ของตนเองแล้ว ทุกคนทำตามหน้าที่ของตน ลู่เวินกับบุตรชายช่วยกันยกเตาและติดเตาไฟ ลู่ชิงกับมารดาช่วยกันจัดวางอุปกรณ์บนโต๊ะให้หยิบใช้สะดวก ยกถังไม้ที่ใส่ข้าวเหนียวที่นึ่งแล้ววางไว้ข้างโต๊ะกับใบตอง ที่เช็ดทำความสะอาดสำหรับใช้ห่ออาหาร ซึ่งก็เอามาจากป่าชั้นนอกที่อยู่ด้านหลังบ้านของพวกเขา ยามนี้ลู่เวินได้ตั้งกระทะและใส่น้ำมันลงไปทั้งสามกระทะ ควบคุมไฟไม่ให้ร้อนมากเกินไป มีเก้าอี้สามตัววางชามขนาดใหญ่ ที่ใช้หมักเนื้อทั้งสองอย่างและแป้งสำหรับชุบก่อนนำลงไปทอด
ลู่ชิงจัดหน้าร้านเรียบร้อยแล้ว ด้านบิดากับพี่ใหญ่ก็เริ่มทอดหมูและไก่ กลิ่นหอมเริ่มลอยกระจายออกไป แตะจมูกผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาไม่ว่าใกล้หรือไกล มีหลายคนที่มองมายังร้านของพวกเขาเพื่อมองดูว่าทำอะไรขาย
จากนั้นไม่นานหมูทอดและสามชั้นทอดก็เสร็จ ท่านพ่อตักขึ้นวางสะเด็ดน้ำมัน และหันไปทอดรอบใหม่ต่อทันที ทางด้านพี่รองก็ช่วยเอาเนื้อหมูมาเทใส่ถาดไม้ให้ เพราะมันร้อนจึงไม่อยากให้ท่านแม่กับน้องสาว จับของที่ร้อนเกินไปกลัวว่าจะลวกมือบาดเจ็บได้
ลู่ชิงจึงเตรียมตัวเรียกลูกค้าตอนนี้อาหารพร้อมขายแล้ว อีกไม่ถึงสองจิบชาน่องไก่ทอดก็จะสุกแล้วเช่นกัน การขายที่จะเอาแต่นั่งแล้วร้องเรียกลูกค้าเบา ๆ มันจะได้ผลได้อย่างไรกัน ต้องเสียงดังฟังชัดบรรยายความน่าทานของอาหาร เชิญชวนให้ลูกค้าอยากจะลองชิมเพื่อประกอบการตัดสินใจซื้อ แบบนี้ถึงจะได้ผลสำหรับการขายอาหาร
“สวัสดีตอนเช้าเจ้าค่า เอ้าเร่เข้ามา ๆ เจ้าค่า พี่ ป้า น้า อาทั้งหลาย วันนี้ที่ร้านค้าของครอบครัวข้า มีของอร่อยมาขายแล้วเจ้าค่ะ เข้ามาลองชิมกันดูก่อนได้ หากรสชาติไม่อร่อยไม่ซื้อก็ไม่ว่ากันเจ้าค่ะ เร่เข้ามา ๆ ใครมาก่อนได้ชิมก่อนนะเจ้าคะ มีทั้งเนื้อหมูและเนื้อไก่เจ้าค่า” ลู่ชิงเริ่มส่งเสียงเชิญชวนชาวบ้าน ที่เดินผ่านไปมาแวะมาชิมอาหารที่ทำ กับคำพูดที่ประทับใจเพื่อเรียกลูกค้าทันที และเสียงเจื้อยแจ้วนี้ของลู่ชิง ก็เรียกความสนใจได้มากทีเดียว
มีคนไม่น้อยที่มองอย่างสนใจ ตั้งแต่ได้กลิ่นหอม ๆ ก่อนหน้านี้ พวกเขาจึงเดินเข้ามาสอบถามว่า อาหารทอดที่ทำอยู่นี้ มันแตกต่างจากเนื้อทอดทั่วไปตรงที่ใด และที่จะให้ลองชิมก่อนได้พูดจริงหรือพูดเล่นกันแน่ บุรุษคนหนึ่งที่เดินเข้ามาก่อน เอ่ยกับลู่ชิงที่ทำหน้าที่รับลูกค้าเอง
“แม่นางน้อยที่เจ้าทอดอยู่ใช่เนื้อหมูหรือไม่ ที่เจ้าบอกว่าเป็นของอร่อยของเจ้าน่ะ” ชายคนนี้เปิดปากถามเป็นคนแรก เพราะเขาได้กลิ่นหอมตอนที่เดินผ่านร้านของเด็กสาว
“ท่านอาต้องลองชิมดูเจ้าค่ะ แล้วท่านช่วยบอกข้าหน่อยว่ามันอร่อยหรือไม่ ท่านสามารถพูดความจริงได้ไม่ต้องเกรงใจ หากไม่อร่อยหรือขาดรสชาติใดไป ครอบครัวข้าจะได้นำไปปรับปรุงเจ้าค่ะ” ลู่ชิงหั่นเนื้อหมูออกเป็นชิ้นพอดีคำ และใช้ไม้จิ้มขึ้นมายื่นให้ชายคนนั้นได้ชิม
ชายคนนั้นรับเนื้อหมูทอดชิ้นเล็กมาชิม ครั้นพอลิ้นของเขาได้สัมผัสเนื้อหมูทอดก็ตาโต รีบเคี้ยวรีบกลืนแล้วพูดกับชิงเอ๋อร์อย่างตื่นเต้น เพราะมันมีรสชาติที่แตกต่างจากหมูทอดที่ตนเองเคยได้ชิมมาจริง ๆ
“อึก แม่นางน้อย เนื้อหมูทอดของเจ้าอร่อยมาก ข้าไม่เคยกินเนื้อหมูทอดที่อร่อยเช่นนี้มาก่อน เจ้าขายอย่างไรหรือ แล้วในถังนั่นคือสิ่งใดใช่เนื้อเหมือนกันหรือไม่ บนโต๊ะนี้ก็มีเนื้อถึงสองอย่าง เจ้ายังทำเนื้ออันใดมาทอดขายอีกหรือ” เขารู้สึกว่ากระเพาะของเขากำลังเรียกร้องหาเนื้อหมูทอด ที่สำคัญต้องซื้อกลับไปหลาย ๆ ห่อเผื่อคนที่จวนเช่นกัน
“ข้ามีเนื้อหมูทอด สามชั้นทอดและน่องไก่ทอด มีทั้งหมดสามอย่างเจ้าค่ะ เนื้อหมูทั้งสองอย่างข้าจะขายพร้อมข้าวเหนียวร้อน ๆ ในราคาห่อละสิบห้าอีแปะ ส่วนน่องไก่ทอดขายพร้อมข้าวเหนียว ห่อละยี่สิบอีแปะเจ้าค่ะจะได้น่องไก่สองน่อง
แต่ถ้าซื้อเฉพาะเนื้อหมูและน่องไก่ จะขายเนื้อหมูอยู่ที่เหลียงละยี่สิบห้าอีแปะ และน่องไก่ขายเหลียงละสามสิบอีแปะเจ้าค่ะ พวกท่านอย่าคิดว่ามันแพงเกินไปเลย เพราะข้าใช้น้ำมันในการทอด ทุกท่านคงจะรู้ว่าน้ำมันนั้นมีราคาค่อนข้างแพง และเนื้อหมูก็ใช่ว่าจะราคาถูก ส่วนเนื้อไก่ก็หาได้แต่ต้องสั่งจากเมืองอื่น พวกท่านซื้อไปทำกับข้าวได้ คงจะรู้ถึงราคาของเนื้อดีจริงไหมเจ้าคะ ท่านอาสนใจซื้ออย่างไหนดีเจ้าคะ” ลู่ชิงอธิบายราคาขายด้วยเสียงที่ดังนิดหน่อย เผื่อคนด้านหลังได้ยิน จะได้ตัดสินใจถูกว่าต้องการซื้อแบบไหน
“ข้าเอาเนื้อหมูกับสามชั้น พร้อมข้าวเหนียวอย่างละสองห่อ” เขาซื้อไปกินพร้อมข้าวสะดวกกว่าตั้งเยอะ และข้าวเหนียวที่ว่าก็เรียงเม็ดสวยน่ากิน อีกทั้งยังมีกลิ่นหอมของข้าวอีกด้วย
“ท่านอารอสักประเดี๋ยวนะเจ้าคะ ท่านแม่ห่อข้าวกับเนื้อหมูและสามชั้นทอด ให้ท่านอาท่านนี้อย่างละสองห่อด้วยเจ้าค่ะ”
ลู่ชิงหันไปหาฟางซินเพื่อตักข้าวเหนียว แล้วโปะด้วยหมูทอดสามชั้นทอดอย่างละสองห่อ สำหรับลูกค้าคนแรกของร้านในวันนี้
“แฮ่ก ๆ ๆ แม่ค้า ๆ เนื้อหมูทอดของเจ้ายังพอมีเหลืออยู่หรือไม่ โอยเหนื่อยจริง ๆ อายุเยอะมันช่างลำบากยิ่งนัก” ดูท่าทางคงรีบวิ่งมาตลอดทางถึงได้เหนื่อยหอบ เพื่อมาถามซื้อหมูทอดของร้านนางหรือนี่
“ยังพอมีเหลืออยู่เจ้าค่ะท่านลุง ตอนนี้มีเนื้อหมูกับสามชั้นทอดเจ้าค่ะ แต่ว่าข้าวเหนียวหมดแล้วนะเจ้าคะ ท่านลุงยังจะรับอยู่หรือไม่”
“ข้าเอาเนื้อหมูกับสามชั้นทั้งหมดที่มีตอนนี้ เจ้าคิดรวมราคามาได้เลย” เขารีบวิ่งมาเพราะกลัวจะไม่ทัน หากช้ากว่านี้คงโดนหักเงินเดือนเป็นแน่ คุณชายน้อยของจวน เห็นบ่าวไพร่ที่ซื้ออาหารร้านนี้ ไปนั่งกินกันอย่างเอร็ดอร่อย จึงเดินเข้าไปถามและได้ลองชิม ก็ติดใจร่ำร้องจะกินเสียให้ได้ เมื่อถามพวกบ่าวว่าซื้อมาจากที่ใด เขาก็รีบวิ่งออกมาทันทีไม่ได้หยุดพักเลย
“นี่เจ้าค่ะท่านลุง เนื้อหมูและสามชั้นทอดของท่าน ทั้งหมดสี่เหลียงเป็นเงินหนึ่งร้อยอีแปะพอดีเจ้าค่ะ” ข้ายื่นห่อเนื้อหมูทอดไปให้ท่านลุงคนนั้นและรับเงินค่าอาหารมาพร้อมกัน
“ขอบใจเจ้ามากนะแม่ค้า ที่ยังเหลือเนื้อไว้ให้ข้าได้มาซื้อ วันนี้ข้าคงไม่โดนหักเงินเดือนแล้วล่ะ ไว้คราวหน้าข้าจะมาอุดหนุนเจ้าใหม่ข้าไปก่อนล่ะนะ” เขารีบพูดและรีบวิ่งกลับจวนไปอย่างรวดเร็ว
“หมดเกลี้ยงแล้วเจ้าค่ะ พวกเราเก็บของกลับบ้านไปพักผ่อนกันเถิด จากนั้นค่อยมาเตรียมของขายกันใหม่นะเจ้าคะ” ลู่ชิงหันไปบอกทุกคนด้านหลัง เมื่อลูกค้าคนสุดท้ายวิ่งออกไป ซึ่งตอนนี้เพิ่งจะกลางยามเฉินเท่านั้น แต่อาหารร้านนางกลับขายหมดเสียแล้ว ดูท่าคงต้องเพิ่มจำนวนเนื้อขึ้นอีกสักสองสามจิน เผื่อมีลูกค้าตื่นสายอยากกินกับเขาบ้าง
วันนี้เป็นการเริ่มกิจการได้ดี ทุกคนดูมีความสุขมากแม้จะเหนื่อยสักหน่อย แต่ทำงานเพียงสองชั่วยามก็ได้เงินไม่น้อยแล้ว ระหว่างทางเดินกลับบ้าน ก็พูดคุยกันด้วยเสียงหัวเราะไปตลอดทาง จนคนที่เดินทางสวนกันยังหันมามองพวกเราทั้งครอบครัว ก็คนมันมีความสุขถ้าไม่ให้ยิ้มแย้มหัวเราะ จะให้พวกเราทำหน้าอมทุกข์กันหรือไร แต่คนที่ดูจะมีความสุขและสนุกยิ่งกว่าใคร คงหนีไม่พ้นพี่ชายคนรองอย่างลู่เสียนที่หัวเราะเสียงดังกว่าใคร สงสัยจะชอบทำการค้ามากแน่ ๆ แบบนี้
ได้ท่านพ่อเต็ม ๆ

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย