เข้าสู่ระบบผ่าน

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี นิยาย บท 639

เสียงเพลงดังขึ้น เพลงประกอบไม่ได้ชวนสนุกหรือชวนเศร้า บอกได้แค่ว่าเป็นเพลงที่ลื่นไหลไป กับการบรรยายของตัวเอกและภาพเหตุการณ์ต่างๆ บนจอ “พ่อผมเป็นผู้ใจบุญและผู้ก่อตั้งแบรนด์หรู พ่อเคยเป็นคนร่าเริงและมักได้ไป ออกทีวีและขึ้นปกนิตยสารอยู่บ่อยๆ เพราะหน้าตาอันหล่อเหลา “จนเกิดเหตุปล้นจี้ก่อนผมลืมตาดูโลก “หลังจากนั้น พ่อแม่ผมก็เก็บเนื้อเก็บตัวสุดๆ ผมได้รับการปกป้องอย่างดี เยี่ยม และแทบจะไม่ถูกกล่าวถึงโดยสื่อ ไม่มีใครรู้ว่าชีวิตความเป็นอยู่ในแต่ละวัน ของเราเป็นยังไง “หลังผมเกิดได้ไม่นาน แม่ก็ลาออกจากงานเพื่อมาดูแลผมเต็มเวลา ไม่ว่ายุ่ง ขนาดไหน พ่อก็จะหาเวลามาให้ผมตลอดด้วยเหมือนกัน “พ่อผมเจอโรงเรียนอนุบาลดีๆ แต่อยู่ไกลจากบ้านมาก ใช้เวลาเดินทาง ประมาณสี่สิบห้านาที ซึ่งพ่อผมจะจ้างคนขับรถก็ได้ แต่พ่อก็ยังเลือกไปรับไปส่ง ผมสัปดาห์ละสองครั้ง ทำอยู่แบบนั้นอยู่สามปีจนผมขึ้นชั้นประถม “พ่อมักเล่านิทานให้ผมฟัง ช่วยผมทำการบ้าน ไปร่วมกิจกรรมครอบครัวที่ โรงเรียน และเตรียมอาหารเย็นให้เป็นประจำหลังเลิกงาน “ผมเลยไม่เข้าใจเวลาเพื่อนบอกว่าพ่อแม่ไม่มีเวลาให้

“มีใครยุ่งกว่า CEO บริษัทด้วยเหรอ”

ระหว่างการบรรยายของตัวเอก ภาพเหตุการณ์ต่างๆ ก็ปรากฏขึ้นบนจอ

เป็นภาพเหตุการณ์ตอนตัวเอกเกิดในห้องคลอดสุดหรู

ห้องพื้นที่กว้างขวาง มีโซฟายาวและเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ ดูเหมือนห้องสวีตของ โรงแรม พยาบาลรุ่นอาวุโส นักโภชนาการ และพยาบาลเดินไปมาขวักไขว่ โต๊ะ เต็มไปด้วยอาหารมากโภชนาการ ราวกับอาหารงานเลี้ยงฉลอง

พ่อของตัวเอกอุ้มทารกด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม

มีภาพชีวิตตัวเอกตอนเป็นทารก

ในวิลล่าพร้อมหาดและท่าเรือส่วนตัว คนงานเดินไปมาช่วยดูแลตัวเอกที่ยัง เป็นเด็กอ่อนอยู่ แม่ของตัวเอกยิ้มอยู่ข้างๆ

มีภาพตอนสมัยเรียนชั้นอนุบาล

พ่อตัวเอกขับรถหรู ทิวทัศน์เมืองใหญ่เคลื่อนผ่านหน้าจอไปอย่างรวดเร็ว ใน โรงเรียนอนุบาลเอกชนระดับไฮเอนด์ ตัวเอกได้เรียนวิชาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นภาษา คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และอื่นๆ

การเรียนการสอนเข้มข้นและน่าสนใจ เด็กๆ ได้เห็นไข่ฟักตัวออกมาเป็น ลูกเจี๊ยบในเครื่องฟัก และเห็นหนอนผีเสื้อกลายเป็นผีเสื้อ

ที่นี่มีครูมืออาชีพสอนเรื่องศิลปะให้กับเด็กๆ แต่ละเดือนมีตีมให้เรียนรู้ เกี่ยวกับศิลปิน ซึ่งเด็กๆ จะได้เรียนรู้เกี่ยวกับผลงานของศิลปินคนนั้นๆ นอกจากนี้

ยังได้เลียนแบบทักษะด้านศิลปะที่ใช้ในผลงานของศิลปินด้วย ไม่ว่ารูปจะออกมา สวยหรือไม่สวย ผลงานของทุกคนจะได้รับคำชมและนำไปแขวนไว้บนผนัง

แม้แต่ของเล่นที่ให้เล่นในช่วงพักผ่อนยังดูแพงมาก

“ตอนผมอยู่ชั้นอนุบาล พ่อสอนแนวคิดเรื่องเวลาให้กับผม เราเริ่มเรียนตอน 7.30 น. ถ้าผมไปช้าสิบนาที ประตูโรงเรียนจะปิด ผมจะโดนหักคะแนน ซึ่งจะทำ ให้ผมได้เกรดไม่ดี

“พ่อไม่เคยให้ผมไปเรียนสาย พ่อบอกอยู่เสมอว่าในโลกมีอยู่ไม่กี่อย่างที่ไม่ สามารถซื้อได้ด้วยเงิน และหนึ่งในนั้นก็คือเวลา ผมจึงต้องใช้เวลาทุกวินาทีให้มีค่า แนวคิดเรื่องเวลานี้ฝังลึกอยู่ในใจของผม

“พ่อไม่อนุญาตให้ผมกินอาหารฟาสต์ฟู้ดหรือสวมนาฬิกาข้อมือที่ทำงานโดย แบตเตอรี่ ผมได้มือถือตอนอายุสิบห้า แต่มีเวลาเล่นจำกัด ผมเล่นคอมพิวเตอร์ได้ ไม่เกินสี่สิบนาที แต่ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์จะได้เล่นเพิ่มเป็นหนึ่งชั่วโมง

“ผมลองขอแม่ให้ขอพ่อให้ผมแล้ว แต่ก็ไม่ได้ผล ถึงอย่างนั้น พ่อก็หาเวลาว่าง มาอ่านหนังสือกับผมตลอด”

หลังจบฉากเล่าเรื่องวัยเด็กของตัวเอก เหออันก็พบว่าตัวเองสามารถควบคุม ตัวเอกและเริ่มเล่นเกมได้แล้ว

ตัวเอกตอนนี้ยังอยู่ในวัยเด็ก มุมมองยังเป็นมุมมองผ่านไหล่เหมือนตอนฉาก เปิด เนื้อหาเกมฉากแรกเป็นตัวเอกเล่นและอาศัยอยู่ในวิลล่าใหญ่กับครอบครัว

ไม่ช้าเหออันก็พบว่านี่คือเกมแนวภาพยนตร์เชิงโต้ตอบตามแบบฉบับทั่วไป

โมเดลมนุษย์ในเกมนั้นทำมาละเอียดมาก ตัวละครหลักทุกคนแสดงสีหน้า ท่าทางเวลาพูด เห็นได้ชัดว่าการเคลื่อนไหวต่างๆ ใช้โมชันแคปเจอร์ทำ ภาพกราฟิกสวยตระการตาทำให้รู้สึกสมจริงมาก

ขณะเดียวกัน UI ของเกมก็ถูกซ่อนไว้หรือไม่ก็ทำให้กลมกลืนกับฉาก ทำให้ คำสั่งของเกมไม่ทำลายการมีอารมณ์ร่วมกับเกมของผู้เล่น

ยิ่งไปกว่านั้น การเปลี่ยนฉากก็ทำออกมาได้ดีมากๆ เป็นเทคนิคที่พบได้บ่อย เฉพาะในภาพยนตร์

มีจุดที่แปลกอยู่จุดเดียวคือ ตัวละครทุกตัวดูโอเวอร์เกินจริงมาก ตัวอย่างเช่น หน้าตาของตัวเอกคนรวยและครอบครัวดูเป๊ะปังเกินไปจนเหมือนเป็นดารากันทุก คน

ส่วนแม่บ้าน พ่อบ้าน และคนขับรถทำหน้าตาตามแบบพิมพ์นิยม

จุดนี้ทำให้เหออันรู้สึกแปลกๆ ในช่วงแรก แต่เพราะตัวละครทุกตัวใช้สไตล์ เดียวกันหมด ไม่นานเขาก็เริ่มชิน

เกมแนวภาพยนตร์เชิงตอบโต้มีระบบการเล่นไม่มาก หลักๆ คือเดินไปเดินมา หรือเลือกตัวเลือกเพื่อให้เกิดเหตุการณ์ต่างๆ หรือที่มีลูกเล่นกว่านั้นก็จะเป็นระบบ QTE

ตัวอย่างเช่น ระหว่างที่อยู่ในวิลล่า ผู้เล่นสามารถควบคุมตัวเอกวัยเด็กไป สัมผัสประสบการณ์ได้หลายอย่าง

วาดรูปตามคำสั่งของติวเตอร์ส่วนตัวในห้องสำหรับศิลปะโดยเฉพาะ

เรียนวิธีการเล่นเครื่องดนตรีอย่างเปียโนหรือไวโอลิน

ขี่ม้าในคอกม้าส่วนตัว

ยิงธนูหรือเล่นกับน้องหมาในสนามหญ้าส่วนตัว

ไปเล่นบ้านเพื่อนคนรวย หลังกินเลี้ยงก็ไปโดดปราสาทลมยางกับเด็กรุ่น เดียวกัน ทำไอศกรีมจากเครื่อง ขี่ม้าไม้ และเล่นโมเดลรถไฟ

นั่งเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวไปดูสัตว์ป่าที่สวนสัตว์แอฟริกากับเด็กคนอื่นๆ เพื่อ ฉลองวันเกิด แถมยังได้ของขวัญจากห้างหรูกองเป็นภูเขา…

แต่ละฉาก ผู้เล่นสามารถควบคุมให้ตัวละครมีปฏิสัมพันธ์กับฉากหลักได้ ขี่ม้า เล่นเปียโน เล่นรถไฟ และอื่นๆ ได้หมด

นอกจากมินิเกมเหล่านี้แล้ว ในฉากยังมีรายละเอียดอื่นๆ ด้วย เช่น มีบท สนทนาระหว่างตัวละคร หนังสือ หนังสือพิมพ์ ของขวัญ และอื่นๆ

เทคนิคการเปลี่ยนฉากต่างๆ ถูกนำมาใช้ในการเปลี่ยนฉากหนึ่งไปอีกฉากหนึ่ง ซึ่งคล้ายกับวิธีการที่ใช้ในภาพยนตร์ ตัวอย่างเช่น พอตัวเอกถ่ายรูปกลุ่มเสร็จ รูปก็ จะไปอยู่บนหัวเตียงของตัวเอก และเป็นการเริ่มต้นฉากใหม่

ตรงช่วงระหว่างฉากที่ค่อนข้างใหญ่หน่อยจะมีเสียงตัวเอกตอนโตบรรยาย รำลึกความหลัง

พอจบช่วงวัยเด็ก ก็เข้าสู่ช่วงวัยรุ่น ตัวเอกได้เข้าเรียนชั้นมัธยมและ มหาวิทยาลัย แต่เรื่องราวไม่ค่อยเหมือนในหนัง ไม่มีการเรียนสบายๆ หรือตั้งวง กินเหล้า ชีวิตประจำวันของเขามีตารางกำหนดแทบทุกนาที

นอกจากจะต้องทำผลสอบ SAT ออกมาให้ดีแล้ว เขายังต้องตั้งใจกับทุกการ สอบตลอดสี่ปีในช่วงมัธยม แถมยังมีการแข่งกีฬาโอลิมปิก แข่งโต้วาที กิจกรรม บำเพ็ญประโยชน์… อะไรก็ตามที่จะช่วยให้เข้าไอวีลีกได้ ต่างมีผู้คนแห่ไปแย่งชิง โอกาส

ตัวเอกได้ยินข่าวเรื่องเพื่อนร่วมชั้นฆ่าตัวตายและได้รู้จักคำว่า ‘Stanford Duck Syndrome’ เป็นครั้งแรก บนผิวน้ำดูสงบและสมบูรณ์แบบ แต่ใต้น้ำกำลัง กระเสือกกระสนเตะเท้าเพื่อให้มีชีวิตรอดโดยไม่สนอะไรอย่างอื่นบนโลก

พอหันไปทางไหนก็เห็นแค่เป็ดผู้สงบเงียบ พวกเขาย่อมต้องคิดว่ามีแค่ตัวเองที่ ไม่สมบูรณ์แบบ

แถมยังมีสิ่งที่เรียกว่า ‘สี่’ คือ นอนสี่ชั่วโมง อัดกาแฟสี่แก้วใหญ่ และเกรด เฉลี่ย 4.00

ในช่วงต่างๆ ของเกม เหออันต้องเลือกตัวเลือกมากมาย

ตอนเด็ก ชีวิตของตัวเอกดำเนินไปตามตารางชีวิตที่วางไว้อย่างเคร่งครัด แต่ ช่วงพักผ่อนก็เล่นสนุกผ่อนคลายตัวเองด้วยกิจกรรมต่างๆ ได้ เขาเลือกได้ว่าจะทำ กิจกรรมอะไร เช่น ศิลปะหรือดนตรี และสามารถเลือกได้ว่าปิดเทอมจะไปทำ อะไร

ตัวเลือกทุกข้อส่งผลกับชีวิตวัยรุ่น

บทที่ 639 “ไอ้คนโกหก” 1

บทที่ 639 “ไอ้คนโกหก” 2

Verify captcha to read the content.VERIFYCAPTCHA_LABEL

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี