“ถ้างั้นจริงๆ แล้วผู้พัฒนาเกมต้องการจะสื่อสารอะไร
“ความจริงแล้วแยกได้ง่ายมาก
“ปัญหาในชีวิตจริงที่สะท้อนให้เห็นในเกมซึ่งคือเนื้อหาที่ทางออฟฟิเชียลรว บรวมผ่านกิจกรรมที่โพสต์บนเว่ยป๋อ เนื้อหาเหล่านี้คือกระจก เป็นการนำ องค์ประกอบชีวิตจริงมาทำใหม่ เพื่อที่ทุกคนจะเห็นถึงชีวิตจริงผ่านเกม
“แต่ถ้าสะท้อนความเป็นจริงทุกอย่าง ก็ชัดเจนว่าสารคดีถือเป็นตัวเลือกที่ ดีกว่าในการนำมาใช้เป็นสื่อกลางนำเสนอเนื้อหาให้ทุกคนอย่างไม่ลำเอียง
“ดิ้นรนเป็นเกม ที่เลือกรูปแบบนี้เพราะผู้พัฒนาอยากผสานเนื้อหาที่อยาก สื่อสารผ่านกลไกเกม!
“ดังนั้นส่วนต่างๆ ที่ประกอบเข้ากับกลไกของเกมคือจุดประสงค์ที่แท้จริงที่ ผู้พัฒนาเกมต้องการจะสื่อสาร!
“ต่อไปคือชุดคำถามกับคำตอบ คำถามเหล่านี้คือความไม่สมเหตุสมผลที่ ผู้พัฒนาทิ้งไว้ในเกม ด้วยความไม่สมเหตุสมผลนี้แหละที่ทำให้มันเป็นปริศนา
“ทุกคนลองนึกถึงความหมายเบื้องหลังดูได้
“[1] ทำไมเกมนี้ถึงแบ่งขายเป็นเวอร์ชันคนจนกับเวอร์ชันคนรวย ตั้งราคา แยกกัน และบังคับว่าถ้าซื้อคู่กันจะไม่ได้ส่วนลด
“ส่วนหนึ่งก็เพราะการวางราคาเป็นศิลปะรูปแบบหนึ่ง เช่น เป็นการเน้นย้ำว่า ชีวิตไม่มีโอกาสที่สอง เราเลือกเกมได้ แต่เราเลือกชีวิตตัวเองไม่ได้ อีกส่วนคือการ ที่คนจนถูกสนับสนุนให้ซื้อเวอร์ชันคนรวย ผู้พัฒนาสนับสนุนให้คนจนซื้อเวอร์ชัน คนรวยเพื่อที่จะสับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมการใช้ชีวิตของกันและกันอย่างแท้จริง
“ในเกม สภาพแวดล้อมการใช้ชีวิตของคนจนกับคนรวยแตกต่างกันมาก ขนาดที่ทั้งสองฝ่ายไม่เข้าใจกัน
“ตัวเอกคนรวยถามว่า ทำไมคนจนถึงไม่มีเวลาอยู่กับลูก พวกเขาจะยุ่งไปกว่า ประธานบริษัทยักษ์ใหญ่ได้ยังไง
“ที่เป็นแบบนั้นก็เพราะตัวเอกคนรวยไม่เคยเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในชีวิตของคน จน จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเข้าใจว่าคนจนที่อยู่ชนชั้นล่างสุดไม่สามารถจัดสรร เวลาของตัวเองได้
“ตัวเอกคนจนเชื่อว่า ขอแค่ดิ้นรนสู้ก็จะมีชีวิตที่ดีขึ้น และถ้าเรียนรู้จากคน เก่งๆ เปลี่ยนวิธีคิดแบบคนจนทิ้งไป ก็จะสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของตัวเองได้
“เพราะคนจนเห็นแค่ความเพียรพยายามของคนรวย แต่มักมองข้ามข้อ ได้เปรียบเรื่องทรัพยากรที่มากเกินพอดีของคนรวย คนรวยหลายคนชอบสอนคน อื่นว่า ‘ความมั่งคั่งเหนือการทำงานหนักคือศูนย์’ และตัวเองเริ่มสร้างเนื้อสร้างตัว จากศูนย์ ซึ่งคนจนก็เชื่อ แล้วทำไมถึงเชื่อล่ะ ก็เพราะคนจนไม่รู้ว่าคนรวยมีเส้น สาย มีวิธีคิด มีการศึกษา และอะไรอื่นๆ ที่ช่วยสนับสนุนชีวิตบ้าง
“ฆาตกรคิดว่าคนรวยเป็นคนลวงโลก เพราะตอนแรกเขาเชื่อมั่นในตัวคนรวย แล้วมาตระหนักทีหลังว่าคนรวยพูดความจริงแค่ส่วนเดียว
“เพราะงั้นกลยุทธ์การวางราคาแบบนี้จึงเป็นการส่งเสริมให้คนจนและคนรวย สัมผัสประสบการณ์ชีวิตของอีกฝ่ายในเกม ก้าวออกจากจุดบอดทางความคิด และ มองประเด็นนี้จากมุมมองที่กว้างขึ้น
“วิธีนี้คือการทำลายกำแพงที่สี่และใช้การตัดสินใจในชีวิตมากำหนด ประสบการณ์การเล่นเกม ซึ่งจะประสบผลสำเร็จได้ด้วยการสื่อสารศิลปะนี้ในเกม
“[2] ทำไมถึงใช้ชื่ออังกฤษว่า Struggle
“เหตุผลก็เพราะความล้ำลึกของภาษา ถ้าจะสื่อความหมายแค่ ‘ต่อสู้’ ใช้ว่า fight กับ strive ก็ย่อมเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า เพราะสองคนนี้มีความหมายเชิงบวก และตรงกับความหมายที่ต้องการจะสื่อ
“แต่คำว่า struggle ไม่ได้หมายความแค่การต่อสู้ แต่ยังรวมถึงการดิ้นรนด้วย พอเอามารวมกับฉากหลังเรื่องราวภาษาอังกฤษแล้วก็จะเจอมุกจิกกัดได้ง่ายซึ่งก็ คือ คนรวยต่อสู้ ส่วนคนจนดิ้นรน
“หลังจากเข้าใจความหมายแล้วกลับมามองคำแปลจีนของคำว่าดิ้นรน ก็จะ ได้การเสียดสีเพิ่มอีกขั้น คุณน่าจะรู้ว่าถึงจะดิ้นรนเหมือนกัน แต่การดิ้นรนของคน รวยกับคนจนนั้นแทบไม่เหมือนกันเลย
“คนรวยเหมือนดิ้นรนอยู่บนสวรรค์ ถ้าอยากไปให้สูงขึ้นก็ต้องสู้ ถ้าไม่อยากสู้ ก็นอนกลิ้งไปมาได้ แต่ไม่ว่าจะดิ้นรนยังไง พวกเขาก็ยังอยู่บนหมู่เมฆอยู่ดี
“แต่การดิ้นรนของคนจนเหมือนอยู่ในตม การพยายามอย่างเต็มที่มีเพื่อ ป้องกันไม่ให้ตัวเองจมลงไปลึกกว่านี้ ถ้าหยุดดิ้นรนเมื่อไหร่ก็จะจมหายลงไป
“[3] ทำไมตัวละครในเกมถึงขาดเอกลักษณ์
“ตอนเล่นเกม ทุกคนจะพบว่าคนรวยหน้าตาดีมีเสน่ห์ ส่วนคนจนก็ตรงตาม ภาพจำของคนทั่วไป
“สไตล์ในเกมเน้นให้สีหน้าท่าทาง การแสดงออก และรูปลักษณ์แต่ละตัว ละครออกมาเวอร์วัง เพื่อที่จะได้ดูไม่เหมือนคนจริงๆ
“เห็นได้ชัดว่าไม่ตรงกับตีมของเกม เพราะตีมชีวิตจริงต้องการเน้นย้ำ ความรู้สึกสมจริง จึงต้องทำออกมาให้เหมือนจริงที่สุด การทำสีหน้าท่าทางออกมา โอเวอร์เกินไปจะลดความรู้สึกสมจริงลง
“ในแง่หนึ่งก็เพื่อลดความอึดอัดใจให้ผู้เล่น อีกแง่ก็เพื่อไม่ให้ผู้เล่นอินกัน มุมมองตัวละคร แต่ให้มองประเด็นที่นำเสนอในแง่มุมที่สูงขึ้น ไม่เอาใจไปยึดติด
“สีหน้าของตัวละครทำออกมาเคร่งเครียดจริงจัง เป็นการบอกว่าเนื้อเรื่องเกม ดิ้นรนนั้นอัดแน่นไปด้วยเรื่องราวที่ตึงเครียด
“ในเกม ใบหน้าแต่ละแบบเป็นตัวแทนคนแต่ละประเภท และเกมก็ใช้ชีวิต ของตัวเอกคนรวยและคนจนสะท้อนชีวิตคนรวยและคนจนทุกคน
“เรื่องการโปรโมตก็เหมือนกัน ชัดเจนว่าเป็นการสื่อสารโดยนัยที่เต็มไปด้วย การแสดงออกเชิงสัญญะ
“[4] ทำไมเกมถึงมีตอนจบแค่แบบเดียวและไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้
“ไม่ว่าจะเลือกทางไหน ยังไงคนรวยก็โดนฆ่า ส่วนคนจนก็จะตกสู่วงจร อุบาทว์แห่งความจน
“ตอนแรก ผมคิดว่าเป็นแนวคิดแบบยอมจำนนต่อโชคชะตา สื่อว่าไม่ว่าจะ พยายามหนักขนาดไหนก็ไม่มีทางเปลี่ยนชะตาชีวิตของตัวเองได้
“แต่ไม่นานผมก็ตระหนักว่าตัวเองคิดผิดมหันต์
“เหตุผลก็เรียบง่ายมาก เพราะบอสเผยที่เป็นผู้พัฒนาเกมนี้ไม่ใช่คนที่เชื่อเรื่อง การยอมจำนนต่อโชคชะตา!
“ผมไม่เคยเจอบอสเผย แต่คนวงในรู้ว่าบอสเผยแตกต่างจากตัวเอกคนรวยใน เกม เพราะบอสเผยเริ่มจากศูนย์จริงๆ!
“จากเกมโดดเดี่ยวเดียวดายกลางทะเลทรายสู่เกมที่ประสบความสำเร็จ และ อุตสาหกรรมที่ประสบความสำเร็จ เราเห็นเถิงต๋าผงาดขึ้นมาในช่วงสองปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะค้นขนาดไหนก็ไม่พบข้อมูลเรื่องการแทรกแซงด้านเงินทุนเลย ข้อมูลทุก อย่างชี้ว่าบอสเผยเกิดในครอบครัวชนชั้นกลางทั่วไปที่ค่อยๆ ไต่เต้าขึ้นไปทีละขั้น

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี