บทที่ 1202 ความรักไม่มีลางบอกเหตุ
ซูเสี่ยวเหยาประเมินสายตานั้นว่าเป็นความชื่นชม ไม่ใช่ความรัก
นางไม่มีทางคิดว่าองค์ชายสี่จะรักนาง
ทั้งสองพบหน้ากันไม่กี่ครั้ง เพียงแค่หนึ่งหรือสองครั้งเท่านั้น
จะพูดถึงความชอบได้อย่างไร?
นางยอมรับว่าตนเองหน้าตาดี แต่ก็แค่หน้าตาดีเท่านั้น ในราชวงศ์เซียนต้าโจวมีสตรีงดงามมากมาย จีปอฉางจะมารักสตรีที่มีจุดยืนต่างกันได้อย่างไร?
แต่ถ้าจีปอฉางไม่ได้ชอบนาง เหตุใดบทกวีสองบทนี้ นางถึงรู้สึกถึงความจริงใจ?
‘ข้าอยู่ทะเลเหนือ ท่านอยู่ทะเลใต้ ส่งห่านนำสารมาบอกว่าไม่อาจทำได้?’
นี่มันไม่ใช่กำลังสื่อถึงพวกเขาทั้งสองคนหรอกหรือ?
ภายใต้จุดยืนที่ต่างกัน ทั้งสองคนก็เหมือนคนหนึ่งอยู่ทะเลเหนือ อีกคนอยู่ทะเลใต้มิใช่หรือ?
ไม่อาจพูดคุยกันได้ จึงต้องส่งห่านนำสารมาบอกว่าไม่อาจทำได้
‘ท่ามกลางดอกท้อดอกบ๊วย สายลมแห่งฤดูใบไม้ผลิ เพียงถ้วยสุรา’ ราวกับกำลังบอกเล่าว่าการพบกันครั้งแรกของทั้งสองนั้นเร็วเกินไป เหมือนมีเวลาเพียงแค่ดื่มสุราหนึ่งถ้วย ยังไม่ทันได้สนทนา ก็ยากที่จะได้พบกันอีก
‘ยามราตรีในยุทธภพ สายฝนสิบปี แสงตะเกียง’ กำลังบอกว่า ค่ำคืนแห่งความคิดถึงนั้นช่างยาวนานเหลือเกิน
หากสิ่งเหล่านี้ไม่สามารถพิสูจน์ได้ บทกวีที่กล่าวถึงหญิงงามนั้นก็เหมือนจะบอกตรง ๆ ถึงซูเสี่ยวเหยา
ซูเสี่ยวเหยาสรุปในใจว่าเป็นความหลงใหล บางทีอาจหลงใหลที่นางเป็นหนึ่งในขุนนางหญิงที่หายากของราชวงศ์เซียนต้าโจว หรืออาจหลงใหลในพรสวรรค์ของนาง
แต่ในฐานะองค์ชายหกไข่มุก จริง ๆ แล้วเขาหลงใหลนางจริงหรือ?
ซูเสี่ยวเหยารู้สึกสับสนวุ่นวายในใจ ความคิดยุ่งเหยิง
นางมองไปยังบุรุษที่นั่งเฉียง ๆ ตรงข้าม ต้องการสังเกตสีหน้าของเขาให้ละเอียด แต่กลับเห็นดวงตาที่หลุบต่ำของเขา
ราวกับว่าเขากำลังหลบเลี่ยง
นางจึงรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย
ไม่รู้ว่าผิดหวังอะไร
แต่ก็รู้สึกโล่งใจอยู่บ้าง


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า