บทที่ 399 โหมเปลวไฟให้ลุกโชน
ขุนนางภายในท้องพระโรงเกิดความรู้สึกหลากหลาย ตลอดห้าปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่ฮ่องเต้องค์ใหม่ขึ้นครองบัลลังก์ ความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ก็เกิดขึ้นมากมาย ฮ่องเต้เติบโตจากเด็กหนุ่มกลายเป็นชายชาตรีผู้มีสง่าราศี สามารถร่วมงานกับบรรดาขุนนางเฒ่าได้โดยไม่มีปัญหา นอกจากนี้ยังทรงงานหนัก อุทิศทั้งชีวิตให้แก่การรับใช้ประชาชน
แม้จะมีบ้างที่ขุนนางบางส่วนมีจิตใจคิดเป็นอื่น แต่ขุนนางเกือบทุกคนก็จงรักภักดีต่อราชบัลลังก์ และเคารพเทิดทูนฮ่องเต้พระองค์นี้จากใจจริง
แต่ห้าปีที่ผ่านมามีปัญหาเกิดขึ้นมากมาย กระทั่งปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง บัดนี้พวกเขาได้รับทราบข่าวอันไม่เป็นมงคล นี่นับเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าปีหน้า สวรรค์อาจจะไม่เมตตาแคว้นต้าเซี่ยอีกแล้ว
กลุ่มขุนนางบางคนถอนหายใจ บางคนโศกเศร้า บางคนส่งเสียงดังโวยวาย แต่ละคนต่างก็มีวิธีแสดงความรู้สึกในรูปแบบของตนเอง
ในกลุ่มของขุนนางที่ส่งเสียงโวยวายนั้น บางส่วนเริ่มโต้เถียงกันอย่างดุเดือด พวกเขากำลังคาดเดาว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างหากตู๋กูเทียนชิงเสียชีวิตขึ้นมาจริง ๆ
หากตู๋กูเทียนชิงตายพื้นที่ทางแดนเหนือของแคว้นต้าเซี่ยจะต้องตกอยู่ในความวุ่นวายโกลาหล และพวกคนเถื่อนแดนเหนือก็จะฉวยโอกาสนี้บุกโจมตี เช่นเดียวกับพวกแคว้นหนานเจียงและชาวโพ้นทะเล ถ้าแคว้นต้าเซี่ยไม่อยากถูกเหยียบย่ำจนแหลกสลาย ทางรอดเดียวก็คือ ต้องขอยอมศิโรราบต่อข้าศึก ไม่ว่าอีกฝ่ายต้องการอะไรก็ต้องมอบให้โดยไร้ข้อแม้ ไม่ว่าจะเป็นเงินทอง เขตแดน หรือศักดิ์ศรีก็ตาม
ในขณะเดียวกัน ขุนนางอีกหลายคนก็กำลังช่วยปลอบประโลมตู๋กูอี้เหอในฐานะสหายเก่า พวกเขารู้สึกเศร้าใจเป็นอย่างยิ่งหากคนหนุ่มผู้มีพรสวรรค์อย่างตู๋กูเทียนชิงจะต้องเสียชีวิตขึ้นมาจริง ๆ พวกเขาไม่เข้าใจเลยว่าทำไมสวรรค์ถึงได้ดวงตามืดบอด และไม่สนใจความทุกข์ยากของมนุษย์เช่นนี้
ยิ่งไปกว่านั้น ขุนนางบางคนก็โหมเปลวไฟให้ลุกโชน ยกมือกล่าวโทษว่าเป็นความผิดของจ้าวอู่เจียง
พวกเขากล่าวว่า ถ้าจ้าวอู่เจียงไม่เสนอให้ตู๋กูเทียนชิงไปควบคุมกองทัพทางแดนเหนือ ตู๋กูเทียนชิงก็คงไม่ต้องมาเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่อันตรายเช่นนี้ และท่านประมุขตระกูลตู๋กูก็อาจจะไม่ต้องสูญเสียบุตรชายอันเป็นที่รัก
โชคดีที่ประมุขตระกูลตู๋กูมีความเมตตาและเคารพในตัวของจ้าวอู่เจียงอยู่ไม่น้อย กระนั้นตู๋กูอี้เหอก็ยังอดเสียใจไม่ได้อยู่ดี
หนำซ้ำหลายคนก็ยังคงช่วยเติมฟืนใส่กองไฟไม่หยุดยั้ง พวกเขากล่าวว่า จ้าวอู่เจียงเป็นคนแนะนำให้ฮ่องเต้เลือกตู๋กูเทียนชิงไปประจำการที่ชายแดนเหนือ แม้ตู๋กูเทียนชิงจะเป็นคนหนุ่มที่มีความสามารถสูงล้ำ แต่เขาก็เป็นเพียงคนหนุ่มที่ขาดประสบการณ์ หากเปลี่ยนเป็นทหารที่มีประสบการณ์ในสนามรบมากกว่านี้ แคว้นหนานเจียงก็คงไม่มีโอกาสลงมือแม้แต่น้อย
จากนั้นก็เริ่มมีผู้รู้ดีออกมาพูดมากขึ้นและมากขึ้น บางคนถึงกับกล่าวด้วยความมั่นใจว่ารู้ดีอยู่แล้วว่าเรื่องนี้จะต้องเกิดขึ้น บางคนก็บอกว่าถ้ารู้ว่าจะเป็นเช่นนี้ พวกเขาคงยอมเสียสละไปอยู่ที่ชายแดนเหนือเองแล้ว!


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า