บทที่ 584 ทาส
นกอินทรีวิเศษบินวนเวียน บินไปยังตำหนักแต่ละหลังที่อยู่ริมหน้าผา ก่อนจะร่อนลงบนลานกว้างที่ปูด้วยหินสีเขียว
เมื่อมองจากมุมสูง จะเห็นว่าลานนี้มีลวดลายเป็นรูปคล้ายสัญลักษณ์หยินหยาง แต่แทนที่จะเป็นสีขาวดำ กลับเป็นสีดำแดง
จ้าวอู่เจียงกระโดดลงจากหลังนกอินทรีวิเศษพร้อมกับคนอื่น ๆ เขามองไปรอบ ๆ ลานที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางราวร้อยจั้ง คงเป็นที่ใช้ฝึกฝนหรือประลองฝีมือของลูกศิษย์ในสำนักแห่งนี้
ผู้คนของสำนักเทพโลหิตที่สวมเสื้อคลุมยาวสีแดงหลายคน ต่างคารวะต่อหวังโหย่วฝู่
หวังโหย่วฝู่ ผู้พิทักษ์สำนักเทพโลหิต โบกมือใหญ่ เสียงเต็มไปด้วยความปีติที่ซ่อนไม่อยู่
“พาพวกเขาไปที่ตำหนักควบคุมสัตว์วิเศษ”
จ้าวอู่เจียงและชาวบ้านหมู่บ้านตระกูลจ้าวอีก 25 คน ถูกคนของสำนักเทพโลหิตคุมตัวไปยังตำหนักควบคุมสัตว์วิเศษ
ตำหนักควบคุมสัตว์วิเศษ ตามชื่อก็คือที่ที่สำนักเทพโลหิตใช้เลี้ยงและฝึกสัตว์วิเศษ
การนำจ้าวอู่เจียงและคนอื่น ๆ มาที่นี่ ความหมายก็ชัดเจนอยู่แล้ว เหมือนกับว่าพวกเขาถูกมองเป็นสัตว์วิเศษ
พื้นที่ของตำหนักควบคุมสัตว์วิเศษ อยู่ทางซ้ายสุดของอาณาเขตสำนักเทพโลหิต ยังไม่ทันได้เข้าไป ก็ได้กลิ่นคาวเลือดและมูลสัตว์ฉุนจัดอยู่ในอากาศ
ชาวบ้านหมู่บ้านตระกูลจ้าวหลายคนมีสีหน้าตื่นกลัว อยากจะร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา ถูกผลักไสให้เดินเข้าไปในตำหนักควบคุมสัตว์วิเศษ
พวกเขาไม่รู้ว่าข้างหน้าจะเป็นอย่างไร แต่เมื่อได้กลิ่นคาวเลือดหน้าประตูตำหนักควบคุมสัตว์วิเศษ พวกเขาก็เริ่มคาดเดาอย่างหวาดกลัวว่าสำนักเทพโลหิตจะเอาเลือดเนื้อของคนธรรมดามาเลี้ยงสัตว์วิเศษของพวกเขาใช่หรือไม่
ชาวบ้านส่วนใหญ่ถูกความคิดนี้ทำให้ขาอ่อน ทั้งร้องไห้ทั้งตะโกน ถูกผลักหรือลากตัวให้เดินไปข้างหน้าด้วยความหวาดกลัว
จ้าวอู่เจียงยิ้มหน้าบานเดินไปด้วยความสบายใจ ลูกศิษย์สำนักเทพโลหิตมองจ้าวอู่เจียงอย่างเย็นชา แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร
พวกเขาเห็นได้ชัดว่า ชายที่สวมเสื้อผ้าขาดวิ่นปะชุนคนนี้ ดูเหมือนจะมีปัญหาทางสมอง
แต่พวกเขาก็คาดเดาเอาไว้เช่นกันว่า บางทีอาจจะแกล้งทำเป็นบ้า แต่จะเป็นอย่างไรเล่า? ในรัศมีร้อยลี้ ไม่มีผู้ใดกล้าก่อกวนในสำนักเทพโลหิตเด็ดขาด!

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า