“ให้ IV Drip แมนนิทอลหนึ่งร้อยยี่สิบห้ามิลลิลิตรเร็ว! และเปิดเส้นเลือดดำอีกเส้นหนึ่ง!”
“ใส่นอร์อิพิเนฟรินหนึ่งมิลลิกรัมในน้ำเกลือหนึ่งร้อยมิลลิลิตรสำหรับเส้นเลือดดำ”
“เตียงสามหายใจเป็นยังไงบ้าง? เตรียมอุปกรณ์ช่วยหายใจ โลเบลีนสามมิลลิกรัม...”
ราวกับเรือกลไฟที่หลงทิศทางเห็นประภาคารบนฝั่ง การปรากฏตัวของไป๋ซีเยว่ เป็นการฉีดยาสงบใจให้กับทุกคนที่ลนลานอยู่ครู่หนึ่ง
คนไข้ที่ม้ามแตก ไป๋ซีเยว่ก็ทำการผ่าตัดให้เขาด้วยตัวเอง
ผ.อ.แผนกเข้ามาในห้องผ่าตัด เอ่ยล้อเล่นว่า “คนคนนี้โชคดีจริงๆ ได้พบกับคุณหมอไป๋ ปากแผลเย็บได้สวยหน่อย”
ไป๋ซีเยว่แยกม้ามส่วนที่แตกออกจากน้ำเมือก “ชนถึงขนาดนี้ โชคดีอะไรกันคะ ผ.อ. ถ้าคุณว่างขนาดนี้ รีบไปล้างมือแล้วมาเปลี่ยนกับฉันเถอะค่ะ พรุ่งนี้เช้าฉันยังมีเคสผ่าตัดอีกสองเคส”
ไป๋ซีเยว่กลับไปห้องทำงานของตัวเองแล้วอาบน้ำ รอกลับไปถึงแผนกศัลยกรรมกระดูกก็เป็นเวลาเที่ยงคืนแล้ว
คุณหวางรู้ว่าเธอไปช่วยที่แผนกฉุกเฉิน เธอไม่กลับมา เธอก็นอนไม่สนิท ได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวก็ลืมตาขึ้นมา
“ยุ่งจนถึงตอนนี้เลย? หิวมั้ย”
ไป๋ซีเยว่ที่เดิมทำอะไรด้วยความเบามือเบาเท้า ได้ยินคำพูดนี้แล้วก็ถอนหายใจ “ทำไมแม่ยังไม่นอนอีกคะ”
คุณหวางตอบ “แก่แล้ว นอนน้อย ยิ่งไปกว่านั้นแม่ก็นอนอยู่บนเตียงทั้งวัน ตอนบ่ายก็นอนไปตั้งชั่วโมงนึงนะ”
ไป๋ซีเยว่เอ่ย “รีบนอนเถอะ หนูก็ง่วงแล้วค่ะ”
เธอเอนตัวลงบนเตียง พลางคิด ความจริงแล้วงานยุ่งก็เป็นการทดสอบตัวเองที่ดีมากอย่างหนึ่ง
อย่างน้อย ก็ทำให้เธอไม่มีเวลาไปคิดถึงจี้เหลียนเฉิง
หลายวันหลังจากนั้น เธอก็ไม่ได้เป็นฝ่ายติดต่อจี้เหลียนเฉิงไป มู่มู่จะเป็นฝ่ายคอลวิดีโอหาเธอเอง ในกล้องก็ไม่มีใบหน้าของจี้เหลียนเฉิงปรากฏขึ้น
ไม่รู้ว่าเขากล่อมมู่มู่ยังไง เด็กคนนี้ถึงได้เชื่อฟังมาก ไม่ได้ร้องไห้หาแม่อีก
คุณหวางผ่าตัดส่องกล้องเรียบร้อยแล้ว ปลายแขนตอกตะปูเหล็กเอาไว้สี่ตัว และใส่เฝือก สองอาทิตย์หลังจากนี้ X-Ray ตรวจซ้ำอีกครั้ง หกอาทิตย์หลังจากนี้ หากไม่มีเหตุไม่คาดฝันอะไรก็สามารถเอาเฝือกและตะปูออกได้
เธอได้รับบาดเจ็บที่มือขวา ไม่ได้ทำให้มีปัญหาอะไรกับการใช้ชีวิต แต่หวังให้เธอทำงานบ้าน ดูแลเด็ก นั่นเป็นไปไม่ได้
เธอเสนอกับไป๋ซีเยว่ว่าให้หาแม่บ้าน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คิดจะรัก คิดถึงอดีต(เมีย)