ผู้ชายคนนี้อยู่ในตำแหน่งหน้าที่การงานที่สูง มักจะมีสีหน้าเย็นชา แม้ว่าจะหน้าตาหล่อเหลา ก็ไม่ได้ทำให้คนกล้ามองเขามากขึ้นแวบหนึ่ง
ภาพเหตุการณ์กระอักกระอ่วนเมื่อตอนเช้ายังอยู่ตรงหน้า คนที่ไป๋ซีเยว่ไม่อยากเจอมากที่สุดก็คือเขา
แต่ หลี่หยูนชิงกลับไม่รู้เรื่อง ยังถามต่อว่า “ไม่รับแล้ว? อย่างนั้นมู่มู่จะทำยังไงครับ”
ไป๋ซีเยว่ยังไม่ทันได้พูดอะไร จี้เหลียนเฉิงก็เอ่ยขึ้นว่า “ลูกสาวผม ผมรับเอง”
ประโยคเดียวก็ทำให้หลี่หยูนชิงเข้าใจฐานะของฝ่ายตรงข้าม เขามองชายหนุ่มแล้วหันไปมองไป๋ซีเยว่ และรู้สึกกระอักกระอ่วนขึ้นมาทันที
ไป๋ซีเยว๋จึงต้องเอ่ยว่า “ขอโทษ ฉันจำวันผิด คุณหมอหลี่ พวกเราไปกันเถอะค่ะ”
ประโยคหลังนั้นพูดกับหลี่หยูนชิง
หลี่หยูนชิงมองจี้เหลียนเฉิงอีกแวบหนึ่งแล้วตอบว่า “ไปเถอะ”
“เดี๋ยวก่อน”
สุดท้าย จี้เหลียนเฉิงก็เรียกพวกเขาเอาไว้
เขาเอ่ยว่า “ไป๋ซีเยว่ ผมอยากคุยกับคุณเป็นการส่วนตัวสักสองสามประโยค”
หลี่หยูนชิงรีบเอ่ยว่า “อย่างนั้น ซีเยว่ ผมไปรอคุณที่รถแล้วกันครับ”
ไป๋ซีเยว่ตะลึงค้าง ก่อนจะพยักหน้า
หลี่หยูนชิงก้าวเท้ายาวจากไป
เหลือแค่สองคน ยืนอยู่บนพื้นต่างระดับ หนึ่งบนหนึ่งล่าง บรรยากาศดูเหมือนชะงักงัน
ไป๋ซีเยว่เหนื่อยล้าอย่างยิ่ง เห็นจี้เหลียนเฉิง ในใจก็รู้สึกโมโหแปลกๆ น้ำเสียงที่ใช้พูดจึงไม่น่าฟังเท่าไร “คุณจะพูดอะไร”
จี้เหลียนเฉิงถอนสายตากลับมาจากที่ห่างไกล นัยน์ตาลึกล้ำ อำพรางความรู้สึกที่เดิมก็ไม่ยอมเปิดเผยเอาไว้มากมาย
เขาเอ่ยว่า “หลังจากนี้ ให้มู่มู่อยู่กับผมแล้วกัน”
จู่ๆเขาเอ่ยเรื่องนี้ขึ้นมา ไป๋ซีเยว่ตะลึงค้างไป “คุณหมายความว่าอะไร”
“ตอนแรก ผมรับปากคุณว่าจะไม่แย่งสิทธิ์ในการเลี้ยงดูมู่มู่กับคุณ แต่ว่า…” จี้เหลียนเฉิงมองเธอ “ถ้าหากคุณอยากเริ่มต้นชีวิตใหม่ เอาลูกไปด้วย ก็เกรงว่าจะไม่สะดวก”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ไป๋ซีเยว่ก็แทบจะเป็นบ้า “ตอนแรกคุณรับปากฉันว่ายังไง ตอนนี้ทำไมถึงได้กลับกลอกจี้เหลียนเฉิง คุณยังเป็นผู้ชายรึเปล่า?!”
จี้เหลียนเฉิงรู้สึกว่าขมับปวดตุบๆอย่างเลือนราง หย่ากันมาสามปี เขาไม่ได้ประสบกับความรู้สึกแบบนี้นานมากแล้ว เขาในตอนนี้ใช้ชีวิตไปทำงานตามวัฏจักรชีวิต ทำงานอย่างบ้าคลั่ง ราวกับหุ่นยนต์ที่ไม่มีความรู้สึกคนหนึ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คิดจะรัก คิดถึงอดีต(เมีย)