คลั่งรักร้ายนายวิศวะ นิยาย บท 67

2 ชั่วโมงต่อมา

ด้านเจนิสร่างบางเดินออกจากห้องตรวจด้วยสีหน้าและแววตาที่ดูซีดเซียว สิ่งที่ฉันได้ฟังจากปากของคุณหมอ ราวกับโลกของฉันนั้นหยุดหมุน เสียงของที่คุณหมอเอ่ยแว่วเข้ามาในหูของฉัน เมื่อผลตรวจออกมาฉันกำลังตั้งครรภ์อ่อนๆ ได้ประมาณเก้าวิค สิ่งที่คุณหมอบอกกับฉันเมื่อครู่ฉันถึงกับกายเป็นคนหูหนวกไปชั่วขณะ เท้าที่หนักอึ้งถึงกับแทบไม่มีแรงจะก้าวเดินออกจากจากตรวจ

"ฉันท้องๆ ขณะที่ฉันยังไม่ได้เตียมตัวเตียมใจอะไร เรื่องนี้จะโทษใครได้นอกเสียจากฉันเอง ฉันลืมไปเสียสนิทว่าประจำเดือนฉันนั้นขาดไปเมื่อเดือนก่อน" ฝ่ามือเรียวได้แต่ลูบเข้าที่หน้าท้องของตน ด้วยความรู้สึกสับสนและหลงทาง ลูกที่อีกไม่นานก็ต้องเกิดขึ้นมา

ต่อจากนี้ไปไม่รู้ว่าชีวิตฉันจะไปต่อยังไงดี ลูกที่กำลังจะเกิดมาอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ฉันในตอนนี้เหมือนคนที่กำลังหลงทางมืดมนไม่รู้จะเลือกเดินทางไหนก่อนดี ทั้งเรื่องเรียนและเรื่องลูกๆ ที่เป็นลูกของฉันกับพี่ริว ผู้ชายที่ฉันนั้นจากเขามาราวเกือบจะสามเดือน ฉันท้องขณะที่เราเลิกติดต่อ แต่ที่หนักไปกว่านั้นเราไม่มีสถานะอะไรต่อกัน ใบหน้าสวยหวานถึงกับคิดหนัก

ไม่ใช่ว่าฉันเสียใจอะไรหรอกนะการที่มีเด็กซักคนที่จะมาเกิดกับฉัน แต่เขานั้นมาเร็วจนฉันตั้งตัวไม่ทันเลยนี้สิ ฉันถึงกับรู้สึกมืดมนไปหมด ร่างบางนั่งครุ่นคิดเพียงลำพังอยู่เช่นนั้น จนกระทั้งต้นเตยนั้นเดินเข้ามาและนั่งลงข้างๆ กับฉัน

"เจ เจนิส เธอเป็นยังไงบ้าง คุณหมอว่ายังไงเหรอ " ต้นเตยถามเจนิสมาด้วยสีหน้าเป็นห่วง เพราะดูสีหน้าและท่าทีแล้วนั้นเจนิสเหมือนกันมีอะไรที่ค้างภายในใจ ใบหน้าสวยหวานซีดเผือกอย่างเห็นได้ชัด

"ฉันๆ คุณหมอบอกว่าไม่เป็นอะไรมาก แค่พักผ่อนไม่เพียงพอนะ ที่ฉันอ้วกอาจจะเป็นเพราะว่าช่วงนี้เรียนหนักเลยทำให้เครียดด้วย" ฉันเลือกที่จะบอกกับต้นเตยไปเช่นนั้น เพราะฉันยังไม่พร้อมที่จะบอกเรื่องท้องกับใคร เอาจริงสำหรับฉันมันเป็นเรื่องใหญ่และรู้สึกซ็อคมาก ถึงแม้ยังไงซักวันต้นเตยก็ต้องทราบอยู่ดีแต่ฉันขอเวลาทำใจก่อน

หลายชั่วโมงต่อมาหลังจากที่กลับจากโรงพยาบาลเมื่อฉันไม่ได้เป็นอะไรมาก ฉันก็แยกกับต้นเตยเพื่อกลับห้องส่วนเพื่อนก็ไปเรียน ฉันพยายามที่จะปรับตัวและไม่เครียดกับเรื่องที่เกิดขึ้น แน่นอนเรื่องนี้ฉันจะบอกให้คุณพ่อนั้นทราบไม่ได้ ถ้าท่านรู้เรื่องเข้าท่านคงไม่พอใจฉันมากแน่ๆ ใบหน้าสวยหวานถึงกับคิดไม่ตกถึงฉันยังไม่พร้อมที่จะเป็นแม่ใครในตอนนี้ ในเมื่อเขาเลือกที่จะมาเกิดในท้องของฉันแล้ว ฉันก็ต้องเลี้ยงเขาให้ดีที่สุดเท่าที่แม่คนนึงอย่างฉันจะเลี้ยงได้ เมื่อคิดได้ดังนั้นฉันก็เสริตหาวิธีการดูแลตัวเองขณะตั้งครรภ์และวิธีเลี้ยงเด็กทันทีเรื่องค่าใช้จ่ายที่จะเลี้ยงเขาฉันไม่ได้คิดมากอะไร เพราะการที่ฉันมาเรียนที่นี่คุณพ่อท่านเองก็ให้ฉันเดือนละเกือบสองแสน ฉันถึงไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงินมากนัก ที่ฉันเช่าหอร่วมกับเพื่อนเพราะอยากประหยัดและเก็บตังไว้เท่านั้นเอง เพราะหลังจากเรียนจบไปฉันอยากมีธุระกิจเป็นของตัวเอง ที่ไม่ใช่ธุระของคุณพ่อที่ร่วมกับแม่เลี้ยงของฉัน นั้นคือสิ่งที่ฉันเคยคิดเอาไว้ก่อนที่จะมาเรียนที่นี่

ส่วนเรื่องพ่อของลูกนั้นฉันเองก็คิดไม่ตกถึงเรื่องนี้เหมือนกัน ฉันควรจะบอกเรื่องนี้กับเขายังไงเริ่มต้นตรงไหนก่อนดี แต่อีกใจกับคล้านขึ้นมา เขาจะสนใจอะไรขนาดที่โรงแรมวันนั้นเขายังคอยแต่จะหาเรื่องฉัน ทั้งที่ฉันเองก็ไม่ได้เป็นอย่างที่เขาพูด อีกอย่างฉันและพี่ริวเองก็ไม่ได้ติดต่อกันมาหลายเดือนมากแล้ว ฉันคิดว่าฉันคงไม่กล้าแบกหน้าเอาเรื่องลูกไปบอกกับเขาหรอก ร่างบางได้แต่คิดเช่นนั้นด้วยความรู้สึกที่เจ็บแปลบๆ ขึ้นมาในอก จู่ๆ ฉันก็รู้สึกน้อยใจขึ้นมาเสียดื้อๆ หึ...มันคงเป็นอาการของคนที่ตั้งครรภ์สินะ

เช้าวันต่อมาและวันนี้ก็เป็นอีกวันที่ฉันไปเรียนตามปกติ และหลังจากที่ฉันไปพบคุณหมออาการแพ้ท้องของฉันก็ค่อยยังชั่วขึ้น ฉันก็ใช้ชีวิตปกติเพียงแต่ต้องระวังตัวมากขึ้นก็เท่านั้น ขณะที่นั่งรอเรียนนั้น มือเรียวหยิบสมาร์ตโฟนขึ้นมาเพื่อเข้าโซเชียลต่างๆ ฉันไม่ได้เป็นคนติดโซเชียลอะไรมากๆ ไอจี เฟสบุ๊ค อะไรฉันก็มีหมด แต่ไม่ค่อยชอบลงความเคลื่อนไหวของตัวเองลงไปเท่านั้นเอง ซึ่งน้อยครั้งมากที่ฉันจะเข้าพวกโซเชียล

มือเรียวเปิดเข้าที่ไอจี เพื่อดูภาพพวกไอดอลที่ฉันติดตาม แต่ขณะที่เลือนไปเรื่อยๆ กับสะดุดเข้ากับไอ้จีของพี่แป้งเมื่อสามวันที่แล้ว ที่เหมือนว่าเขานั้นไปงานแต่งที่ไหนซักแห่งที่ยืนเคียงคู่กับร่างสูงในชุดสูทสีเข้มใบหน้าอันหล่อเหลาที่ฉันนั้นคุ้นตาเป็นอย่างดี เป็นภาพของพี่แป้งและพี่ริวนั่นเองรอยยิ้มอันสดใสใบหน้าที่เต็มอิ่มไปด้วยความสุข ที่พวกเขานั้นถ่ายภาพคู่กัน แต่จู่ๆ กับเป็นฉันเสียเองที่รู้สึกเจ็บแปลบๆ และจุกขึ้นมาที่หน้าอกอย่างบอกไม่ถูก ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ฉันกับพี่แป้งเราเองก็ไม่ได้คุยกัน ส่วนเรื่องไอจีเราฟอลกันมาตั้งนานแล้ว ยิ่งฉันเห็นใบหน้าอันหล่อเหลาพ่อของลูก จู่ๆ ฉันกับรู้สึกร้อนที่ขอบตาขึ้นมาพราวๆ ราวกับว่าน้ำตาของฉันนั่นจะไหลออกมาให้ได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คลั่งรักร้ายนายวิศวะ