อ่านสรุป Chapter 67 My baby จาก คลั่งรักร้ายนายวิศวะ โดย Kim Nayeol
บทที่ Chapter 67 My baby คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายโรแมนซ์ คลั่งรักร้ายนายวิศวะ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Kim Nayeol อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
3 ปีต่อมา
โรงแรมแห่งหนึ่ง
ด้านริวหลังจากที่ริกนั้นได้แยกตัวออกไปเปิดบริษัทใหม่เป็นของตัวเองซึ่งแยกจากบริษัทแม่ในเครือบริษัทของบิดาแล้วนั้น ริวเองที่ทุ่มเทเวลาให้กับงานบริษัทตลอดสามปีที่ผ่านมาทำให้ริวนั้นได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจจากเหล่าผู้ถือหุ้น และได้แต่งตั้งให้ริวนั้นเป็นผู้บริหารคนใหม่แทนบิดา ซึ่งในงานเลี้ยงฉลองตำแหน่งผู้บริหารคนใหม่ของริวในวันนี้ งานเลี้ยงถูกจัดขึ้นที่โรงแรมหรูระดับหกดาวใจกลางกรุง
โดยมีเหล่าเพื่อนสนิท คนในครอบครัวต่างมาร่วมแสดงความยินดีให้กับผู้บิหารหนุ่มหล่อไฟแดงของทายาทตระกูลดังมากมาย
โดยครั้งนี้มีครอบครัวของอรัณ ครอบครัวของเรียวตะ และครอบครัวของริก ที่ต่างพากันมาร่วมแสดงความยินดี และความสำเร็จให้กับริว เลือกได้ว่า บิดาและมารดาที่ได้รับคำชมจากปากคนที่มาร่วมงานในครั้งนี้ถึงกับยิ้มไม่หุบที่มีบุตรชายคนเก่ง ทำให้บริษัทเติบโตขึ้นแบบก้าวกระโดด เรียกได้ว่าริว นั้นเป็นคนยุคใหม่ไฟแรง จนกลายเป็นที่ยอมรับของเหล่าแวดวงในธุรกิจตามบิดาและพี่ชายอย่างริกที่บริหารหลายบริษัท แบบไม่น้อยหน้าเช่นกัน ด้านเชอรีนที่มากับสามีอย่างเรียวตะนั้น
"พี่เรียว พี่ริวนิยังไม่มีแฟนจริงเหรอ" รีนลดายังคงสงสัย เนื่องจากก่อนหน้านี้ทริปเที่ยวทะเลครั้งก่อนไม่กี่วันเธอและนินิวยังบังเอิญไปเจอกับริวเดินควงสาวที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง แต่แปลกงานสำคัญงและงานใหญ่ขนาดนี้กับไร้วีแววสาวสวยคนนั้น
"ไม่รู้สิ ไอ้ริวมันเคยผิดหวังจากน้องเจนิส ไม่รู้ว่าชีวิตนี้มันคิดจะมีครอบครัวไหม...? เห็นไอ้ริกบอกว่าที่ผ่านมามันไม่เคยพาสาวที่ไหนไปเปิดตัวกับคุณน้า" เรียวตะตอบภรรยา อย่าว่าแต่เชอรีนสงสัยเลย เขาเองก็ไม่คิดว่าไอ้ริวจะครองโสดนานสุดมนกลุ่มเขาคิดว่าเป็นอรัณแต่ผิดคลาด
" เจนิส ชื่อนี้คุ้นๆ แฮะ" รีนลดาเอ่ยแค่นั้น จากนั้นก็เดินเข้าไปหานินิวและเลิกสนใจเรื่องของริว
ด้านริวร่างสูงในชุดสูทสีเข้มวันนี้ไม่ได้มีแค่เหล่าคนสนิท แต่กับมีนักข่าวและสื่ออีกหลายช่องที่ต่างให้ความสำคัญกับงานเลี้ยงตำแหน่งในครั้งนี้ด้วย หลังจากที่ให้สัมภาษณ์กับทางสื่อเสร็จแล้วนั้น ร่างสูงก็เดินมายังกลุ่มเพื่อนๆ เรียวตะ อรัณ และริกที่รอแสดงความยินดีกับตน
"ยินดีกับพี่ริวด้วยนะคะ เก่งขนาดนี้เมื่อไหร่จะมียอมสละโสด และมีเจ้าตัวแสบสักทีคะ" มิริณภรรยาของอรัณที่มาในงานนี้ด้วยถึงกับอดแซวเพื่อนสนิทของสามีไม่ได้
"นั้นนะสิ รีนนิก็รอรับขวัญหลานนานแล้วนะพี่ริว เมื่อไหร่จะยอมมีแฟนซักทีคะ" รีนลดาเองก็เอ่ยมาอีกเสียง ไหนคุยโม้กับเธอไว้เจออีกทีลูกเข้า ปอ .1 ไง
"แม่ของลูกพี่ยังหาไม่ได้เลยครับ"ริวเอ่ยตอบทั้งสามสาว
"หาไม่ได้ หรือว่ารอคนนั้นหรือเปล่าคะ" นินิวเอ่ยพร้อมกับเผยรอยยิ้มให้กับน้องชายสามี พี่ริวไม่ยอมมีใครซแบบนี้เป็นเพราะรอคนที่ชื่อเจนิสหรือเปล่า อย่างที่ริกนั้นเคยบอกกับเธอ
ฉันพึ่งจะเรียนจบได้ไม่ถึงสองเดือน เพราะที่ฉันจบช้า ช่วงที่ฉันคลอดน้องฟรอสต์นั้น ฉันหยุดเรียนไป ตลอดเวลาที่เราอยู่ที่นี่ฉันมีความสุขมาก ฉันเลี้ยงลูกไปด้วยส่วนกลางวัน วันไหนที่ฉันมีเรียนฉันก็จ้างพี่เลี้ยงที่เป็นคนไทยนั้นช่วยเลี้ยงอีกน้องฟรอสต์อีกที ฉันใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับลูก ส่วนเรื่องที่ฉันมีลูกนั้นไม่มีใครทราบมีเพียงอาจารย์วนิศรา ต้นเตย และเพื่อนที่มาด้วยกันอีกไม่กี่คน เพราะช่วงที่ฉันตั้งครรภ์นั้นท้องฉันไม่ได้โตมาก ถ้าไม่สังเกตุดีๆ จะไม่รู้ ฉันเหมือนคนที่อ้วนขึ้นนิดหน่อยเท่านั้นเอง
ส่วนคุณพ่อและคนที่บ้านของฉัน ณ ตอนนี้ผ่านมาสามปี ก็ยังไม่มีใครทราบ และที่ฉันต้องกลับไทยด่วนในครั้งนี้ ไม่ใช่ว่าฉันเรียนจบแล้วกลับบ้านหรอกนะ ฉันมีเงินเก็บก้อนหนึ่งที่ได้จากการเล่นหุ้นฉันตั้งใจจะมีร้านอาหารไทยเล็กๆที่ออสเตรเลีย แต่ก็ต้องเก็บความฝันนี้ไว้ เมื่อสองวันก่อน ฉันได้รับสายจากเลขาและคนสนิทของคุณพ่อ โทรแจ้งข่าวร้ายกับฉัน พ่อฉันท่านนั้นกลายเป็นบุคคลล้มละลาย และที่หนักสุดคือท่านซ็อคถึงขั้นเข้าโรงพยาบาลและที่ฉันโกรธหนักสุดคือ คนในครอบครัวพี่แป้งและคุณป้าลัดดาไม่มีใครโทรแจ้งข่าวเรื่องคุณพ่อให้ฉันทราบเลยซักคน ฉันพยายามติดต่อทั้งคุณป้า และพี่แป้งแต่ก็ติดต่อใครไม่ได้เลยซักคน การที่พี่แป้งและคุณป้าขาดการติดต่อเช่นนี้ ฉันว่ามันต้องมีอะไรมากกว่านี้แน่นอน ไม่งั้นเลขาคุณพ่อไม่โทรหาฉันด่วนแบบนี้หรอก นั้นคือเหตุผลที่ฉันต้องบินกลับไทยด่วนในครั้งนี้ หลังจากที่จัดเสื้อผ้าของฉันและของน้องฟรอสต์เสร็จแล้วนั้น ฉันก็พาลูกชายสุดที่รักของฉันนั้นเข้านอน เพราะพรุ่งนี้เราต้องเดินทางกันตั้งแต่เช้า
"วันนี้เราต้องเข้านอนกันเร็วนะเจ้าอ้วน" ฉันเอ่ยกับลูกชายวันสองขวบเศษๆ จากนั้นก็ประทับจูบลงที่หน้าผากเล็กของน้องฟรอสต์ที่นับวันยิ่งรู้มาก พอจะไปจากที่นี่จริงๆ ฉันเองก็รู้สึกใจหายเพราะฉันอยู่ที่นี่นานถึงสามปี ซึ่งหลังจากที่ต้นเตยเรียนจบฉันก็อยู่ที่คอนโดแห่งนี้กับน้องฟรอสต์เพียงแค่สองคน
ไม่รู้คุณพ่อท่านจะรู้สึกยังไงนะ ถ้าท่านทราบเรื่องที่ฉันมีลูก น้องฟรอสต์เป็นเด็กที่น่ารักแบบนี้คุณพ่อต้องรักต้องหลงและเอ็นดูลูกชายของฉันมากแน่ๆ ส่วนเรื่องพี่แป้งหลายปีมานี้ฉันคิดว่าพี่แป้งคบหากับพี่ริว แต่ยัยเฟย์บอกกับฉันว่า คนที่พี่แป้งคบไม่ใช่พี่ริว พี่แป้งมีหนุ่มคนใหม่ที่พึ่งเปิดตัวไปได้ไม่นาน
ส่วนเรื่องพี่ริวนั้นฉันเองก็ไม่ได้ข่าวอะไรมาก เพราะฉันไม่ได้ตามข่าวของเขา ที่ไม่ตามเพราะไม่ต้องการรับรู้อะไรเกี่ยวกับเขา ทุกวันนี้แค่มีน้องฟรอสต์ ชีวิตฉันก็มีความสุขมากแล้ว มือเรียวของเจนิสดึงร่างน้อยๆ ของลูกชายเข้ามากอดไว้แนบอก ตั้งแต่มีน้องฟรอสต์เข้ามา ในทุกๆวันฉันก็ไม่เคยเหงาและมีเวลาว่างให้ฉันได้คิดฟุ้งซ่านอะไรเลย แค่เรียนกับเลี้ยงน้องฟรอสต์วันๆ นึงเวลาของฉันก็หมดแล้ว ขอบคุณเจ้าตัวแสบที่เข้ามาในชีวิตของม่ามี้นะครับ
!! จุ๊บ !! หน้าผากและแก้มย้วยๆ ของเจ้าอ้วนลูกชายสุดที่รักของฉัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คลั่งรักร้ายนายวิศวะ
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ...