ตกลงเธอเป็นใครกันแน่?
ถึงก่อนหน้านี้ฉินเป่ยจะถูกรูปร่างหน้าตาอันงดงามของอวี่เจียวหรงทำเอาตกตะลึงไปชั่วขณะ แต่เขาก็ยังสามารถรับรู้ได้ทันทีว่าเธอเป็นนักรบจากการวิเคราะห์อาการบาดเจ็บของเธอ
อวี่เจียวหรงไม่ได้สนใจสายตาของฉินเป่ย เธอนั่งลงที่ข้างเตียงก่อนจะยื่นแก้วน้ำให้เขา
ฉินเป่ยรับแก้วน้ำไว้ก่อนจะดื่มเสียงดังอึก ๆ ตอนนี้เองที่อวี่เจียวหรงเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ “สวัสดีฉินเป่ย ฉันชื่ออวี่เจียวหรง เป็นคู่หมั้นของคุณ!”
“อะไรนะ? คู่หมั้นผม?”
ฉินเป่ยงุนงงจนไม่มีกะจิตกะใจสนใจรูปร่างสะโอดสะองของอวี่เจียวหรง
คู่หมั้นมาจากไหน?
ในระหว่างที่ฉินเป่ยกำลังทำตัวไม่ถูก จู่ ๆ อวี่เจียวหรงไม่รอช้าถาโถมตัวเข้ามาในอ้อมกอดของเขา ก่อนจะพูดขึ้น “เดิมทีฉันอยากจะยกตัวเองให้คุณตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว แต่ว่าคุณดื่มจนเมาไม่รู้เรื่อง ตอนนี้คุณก็ตื่นแล้ว ด้านนอกแสงแดดก็งดงามมาก เราอย่าพลาดยามเช้าอันงดงามแบบนี้ไปเลยนะคะ!”
พูดจบ อวี่เจียวหรงก็ประกบปากเข้าจูบฉินเป่ยทันที
ฉินเป่ยตะลึงจนสมองขาวโพลน แต่ตัวเขาในฐานะเทพเจ้าสงครามแห่งซิวหลัว แน่นอนว่าเขาควบคุมตัวเองได้อย่างยอดเยี่ยม เขาจึงยื่นมือไปดันหัวไหล่ของอวี่เจียวหรง
“คุณหนูอวี่ นี่คุณทำอะไรน่ะ? ชายหญิงจะใกล้ชิดแบบนี้ไม่ได้นะครับ คุณอย่าผลีผลามสิ!”
“คุณไม่คิดว่าเราสองคนควรคุยกันดี ๆ หน่อยเหรอครับ?”
“คุณบอกว่าคุณเป็นคู่หมั้นผม แต่ผมจำไม่ได้เลยว่าเราเคยหมั้นกัน”
“ฉินเป่ยคนนี้ไม่ได้ใจง่ายนะ ทำแบบนี้ก็ไม่ยุติธรรมกับเราทั้งคู่ คุณคิดว่ายังไงล่ะ?”
เมื่ออวี่เจียวหรงฟังคำพูดของฉินเป่ยเธอก็โมโหขึ้นมาทันที
“คุณหมายความว่าอะไร? คุณจะบอกว่าฉันใจง่ายเหรอ?”
“ได้ วันนี้ฉันจะใจง่ายให้คุณดู!”
อวี่เจียวหรงคร่อมร่างของฉินเป่ยก่อนจะใช้มือสองข้างจับหน้าของเขาแล้วกดจูบเขา!
เธอรู้สึกโมโหจริง ๆ
เธอที่เป็นถึงเทพีแห่งสงครามระดับเจ็ดดาวยังถูกปฏิเสธ แค่นี้ก็มากพอแล้ว ฉินเป่ยยังมาบอกว่าเธอเป็นผู้หญิงใจง่ายอีก!
คำพูดนี้ไม่ว่าจะพูดกับผู้หญิงคนไหนก็คงจะโกรธกันหมด!
ฉินเป่ยรู้สึกว่าริมฝีปากของตัวเองถูกแงะเปิดออก จากนั้นความรู้สึกราวกับมีกระแสไฟไหลเวียนไปทั่วร่างก็ปะทุขึ้น
มีอยู่แว่บหนึ่งที่เขาอยากจะพลิกกลับร่างของอวี่เจียวหรงไปด้านล่าง แต่เมื่อนึกถึงบาดแผลของอวี่เจียวหรง เขาก็สงบลงทันที จากนั้นเขาก็ใช้แรงดันเธอออกแล้วรีบพูดต่อ “คุณหนูอวี่ คุณอย่าโกรธสิ คุณเข้าใจคำพูดผมผิดแล้วนะ ผมไม่ได้หมายความแบบนั้น!”
“แล้วก็บาดแผลคุณหนักขนาดนี้ ยังจะทำเรื่องอย่างว่ากับผมอีก ไม่อยากรักษาชีวิตไว้แล้วเหรอครับ?”
ทันทีที่อวี่เจียวหรงได้ยินก็รู้สึกตกใจ
“คุณดูออกเหรอว่าฉันบาดเจ็บ?”
“ไม่เหลวไหลไปหน่อยเหรอครับ? สีหน้าคุณแย่ขนาดนั้น เป็นใครก็ดูออกทั้งนั้นล่ะ”
“ฉันไม่เชื่อ งั้นคุณลองบอกหน่อยสิว่าอาการบาดเจ็บของฉันเป็นอาการอะไร?”
จู่ ๆ อวี่เจียวหรงก็รู้สึกสงสัยใคร่รู้ในตัวฉินเป่ย แต่เธอไม่เชื่อคำพูดของฉินเป่ย เพราะอาการบาดเจ็บของเธอเป็นอาการบาดเจ็บภายใน อย่าว่าแต่คนธรรมดาเลย แม้แต่เหล่าแพทย์หัตถ์ศักดิ์สิทธิ์แห่งดินแดนตอนแรกก็ยังมองไม่ออก!
หรือว่าฉินเป่ยจะเป็นเซียน?
อวี่เจียวหรงเคยตรวจสอบฉินเป่ยแล้วก่อนที่เธอจะมา เธอรู้ว่าฉินเป่ยเคยติดคุก และก็รู้เรื่องที่เขาเพิ่งจะถูกนอกใจ ส่วนประวัติส่วนตัวของเขาก็สามารถบ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่าเขาเป็นคนพ่ายแพ้ที่ไม่ประสบความอะไรสักอย่าง แล้วยังเป็นคนที่มีคดีติดตัว!
แต่ถึงยังไงฉินเป่ยก็เป็นถึงศิษย์ของผู้มีพระคุณ เพราะอย่างนั้นเริ่มแรกเดิมทีเธอยังรู้สึกมีความหวังอยู่บ้าง
ตอนนี้เอง ฉินเป่ยที่เอ่ยปาก “เป็นอาการบาดเจ็บภายใน อีกทั้งตรีลมปราณสัตตะชีพจรของคุณขาด แถมยังมีเลือดคั่งที่ปอด”
“ถ้าหากแพทย์ตั้งใจตรวจดูและถามอาการ ขอแค่เป็นแพทย์แผนจีนที่พอมีประสบการณ์อยู่บ้างก็คงจะดูออก พรสวรรค์ด้านการแพทย์ของผมยังถือว่าใช้ได้ เมื่อกี้ผมสังเกตร่างกายกับสีหน้าและการสัมผัสกับร่างกายของคุณ ผมก็สามารถวิเคราะห์อาการบาดเจ็บภายในของคุณได้อย่างง่ายดายเลยล่ะ”
คำกล่าวของฉินเป่ยทำให้หัวใจของอวี่เจียวหรงเกิดคลื่นที่โหมซัดสาดและรู้สึกตกใจสุดขีด!
ถึงเธอจะไม่ใช่แพทย์และไม่เข้าใจทักษะการแพทย์ แต่ในระยะเวลาอันสั้นแบบนี้ ฉินเป่ยยังสามารถวิเคราะห์อาการบาดเจ็บของเธอได้อย่างแม่นยำจากการมองด้วยสายตาและสัมผัสร่างกายของเธอเท่านั้น จะไม่ให้เธอประหลาดใจได้ยังไง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณภรรยาเทพนักรบของผม
ต้องการอ่านต่อต้องทำยังไงคะ...
อยากอ่านต่อต้องทำยังไงคะ...
ไม่ไปต่อแล้วเหรอครับ...
บทที่ 11-14 หายไปไหนเหรอครับ...