สมองของเวินหงอิงมีเครื่องหมายคำถามอยู่เต็มไปหมด
“จรรยาบรรณแพทย์น่ะครับ ผมเป็นหมอ การช่วยชีวิตคนเป็นหน้าที่ของผมครับ”
“ท่านย่าเวินไม่ต้องเกรงใจหรอกครับ ผมชื่อฉินเป่ย”
ฉินเป่ยพูดจบก็ดึงเข็มออกจากตัวเวินหงอิง จากนั้นก็พูดกับเธอว่า “ท่านย่าเวิน ตอนนี้คุณสามารถลุกขึ้นมาขยับตัวได้แล้วล่ะครับ”
หญิงสาวอายุราวสิบเจ็ดสิบแปดในชุดเดรสสีขาวพยุงเวินหงอิงให้ลุกขึ้น ก่อนจะพูดด้วยความร้อนรน “ท่านย่า ตอนนี้ท่านย่ารู้สึกยังไงบ้างคะ?”
“ดีมาก ตอนนี้ย่ารู้สึกดีมากเลย!”
“จริงเหรอคะ? ดีจังเลย เมื่อกี้ท่านย่าทำหนูตกอกตกใจหมดเลยค่ะ ฮือฮือ……”
เด็กสาวร้องไห้ยกใหญ่ ผู้คนรอบข้างเองก็พากับสบายใจ ก่อนจะพากันพูด “ท่านประธาน คนดีผีคุ้มจริง ๆ นะคะ ดีจังเลย”
“อือ ขอบใจทุกคนนะ รีบกลับไปทำงานของตัวเองเถอะ”
“ซูซู ไปเขียนเช็คเงินสดร้อยล้านมาให้แพทย์เซียนน้อยคนนี้ที”
“คะ?”
เวินซูซูพูดเป็นหลานสาวถึงกับงุนงง
“คะอะไรล่ะ รีบไปสิ!”
“ไม่ได้นะคะท่านย่า จะให้เขาเยอะขนาดนั้นไม่ได้ ใครจะรู้ว่าเขารักษาท่านหายจริงหรือเปล่า อีกอย่างใครจะรู้ว่าเมื่อกี้เขาให้ท่านย่ากินอะไร?”
“ถ้าเกิดเป็นยาพิษล่ะคะ?”
“น้องสาว คุณจะสงสัยฝีมือการรักษาของผมก็ได้ แต่จะมาสงสัยจิตใจผมไม่ได้นะครับ!”
“ผมกับท่านย่าของคุณไม่เคยมีความแค้นต่อกัน เมื่อกี้เพิ่งจะช่วยเธอ แล้วตอนนี้คุณมาปรักปรำว่าผมให้ยาพิษเธอเหรอครับ?”
เดิมทีฉินเป่ยอารมณ์ดีแต่เมื่อได้ยินคำสงสัยของเวินซูซูเขาก็รู้สึกหงุดหงิดใจอย่างแรง!
ใครจะไปคิดว่าเวินซูซูจะยืดอกพูดด้วยความหยิ่งยโสว่า “ฮึ ฉันไม่เชื่อหรอกว่านายไม่รู้ฐานะของท่านย่า คนในเมืองหยางตูที่อยากจะมาประจบสอพลอท่านย่าของฉันน่ะเยอะแยะไปหมด ต่อให้ฉันเข้าใจผิด แต่นายก็ต้องมีความคิดอื่นแน่!”
“หุบปากเดี๋ยวนี้นะ!”
เวินหงอิงโมโหอย่างหนัก จนเกือบเป็นลมอีกแล้ว
เวินซูซูตกใจจนรีบตบหน้าอกท่านย่าเบา ๆ
“ท่านย่าคะ หนูผิดไปแล้ว ท่านย่าอย่าโมโหนะคะ”
“เหอะ ๆ ท่านย่ามีหลานสาวอกใหญ่ไร้สมองอย่างเธอ สักวันคงโดนเธอทำให้โมโหจนอกแตกตาย”
“นี่นาย!”
คำพูดของฉินเป่ยทำให้เวินซูซูถึงกับโมโหจัด เธอกัดฟันกรอด แต่เมื่อเห็นสีหน้าของท่านย่าเธอก็ไม่กล้าส่งเสียง
“แค่ก ๆ … แพทย์เซียนน้อย ต้องขอโทษด้วยนะ หลานสาวคนนี้ถูกฉันตามใจจนเสียคนตั้งแต่ยังเล็ก แต่ฉันต้องขอบคุณที่ช่วยชีวิตฉันไว้นะ”
“ซูซู รีบขอโทษแพทย์เซียนน้อยเดี๋ยวนี้นะ แล้วก็รีบไปเขียนเช็คเงินสดมาซะ รีบไปสิ!”
ถึงแม้ว่าเวินซูซูจะไม่ค่อยยินยอมเท่าไร แต่เธอก็ยอมขอโทษฉินเป่ย จากนั้นก็ไปเขียนเช็คเงินสด
ฉินเป่ยรีบพูด “ท่านย่าเวิน เรื่องเงินไม่ต้องหรอกครับ ผมเป็นหมอนะครับ ที่จริงผมมาซื้อบ้าน เมื่อกี้ได้ยินว่าคุณเป็นประธานหรือว่าบริษัทนี้จะเป็นของคุณครับ?”
“ถ้าใช่ละก็ คุณลองดูว่าลดราคาให้ผมหน่อยได้ไหมครับ?”
ฉินเป่ยไม่ได้คิดจะฉวยโอกาส แต่เขารู้ดีว่าอสังหาริมทรัพย์เป็นของที่มีกำไรสูงมาก ไม่ว่าจะลดราคาบ้านยังไงบริษัทก็ไม่มีทางขาดทุนแน่!
เวินหงอิงได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มขึ้นมา “ที่แท้คุณก็มาซื้อบ้านนี่เอง คุณพูดถูกแล้วล่ะ บริษัทอสังหาริมทรัพย์นี่เป็นหนึ่งในธุรกิจตระกูลเวินของเรา พอดีวันนี้เป็นวันส่งมอบตึกใหม่ ฉันก็เลยมาดูเป็นเพื่อนหลาน แต่โรคหัวใจดันมากำเริบ”
“แพทย์เซียนน้อย เอาอย่างดีไหมคะ บ้านหลังนั้นคุณไม่ต้องจ่ายเงินซื้อหรอกค่ะ คฤหาสน์หมายเลขหนึ่งบนตำหนักทิพย์พิมานเมฆยังว่างอยู่พอดี ฉันจะยกบ้านหลังนั้นให้แล้วเพิ่มเงินอีกร้อยล้านให้ด้วย ถือว่าเป็นค่าตอบแทนที่คุณช่วยชีวิตคนแก่แบบฉันเอาไว้!”
เมื่อฉินเป่ยได้ยินก็รีบปฏิเสธทันที “ท่านย่าเวินไม่ต้องหรอกครับ คุณลดราคาให้ผมก็พอ”
เวินหงอิงได้ยินแบบนั้นก็เริ่มไม่พอใจ
“ทำไม หรือแพทย์เซียนน้อยคิดว่ามูลค่าชีวิตของคนแก่แบบฉันไม่สูงพอคฤหาสน์หนึ่งหลังกับเงินอีกร้อยล้าน?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณภรรยาเทพนักรบของผม
ต้องการอ่านต่อต้องทำยังไงคะ...
อยากอ่านต่อต้องทำยังไงคะ...
ไม่ไปต่อแล้วเหรอครับ...
บทที่ 11-14 หายไปไหนเหรอครับ...