ทุกคนที่อยู่รอบ ๆ มองมาอย่างสนใจ แต่โศภิตาเมินเฉยต่อทุกสิ่ง โศภิตายิ้มอย่างมีเลศนัย ขณะเหลือบมองแทนไทยซึ่งกำลังคุกเข่าข้างหนึ่งอยู่ จากนั้นเธอจึงมองจุฑามาศและพูดอย่างเฉยเมย “ประการแรก ฉันขอโทษที่มาที่นี่โดยไม่ได้รับเชิญ ประการที่สอง ใครสามารถยืนยันได้บ้างว่าคลิปวิดีโอที่กำลังขึ้นเทรนด์เป็นของจริง คุณบอกว่าต้องการที่จะเอาคืนเรื่องเมื่อหกปีก่อนใช่ไหมคะ ฉันถูกกล่าวหาอย่างผิด ๆ จริงๆ” โศภิตาจ้องไปที่ทักษอรขณะที่พูด ทักษอรหน้าซีดเผือด เธอรีบไปหลบหลังแทนไทยอย่างรวดเร็ว เมื่อทุกคนเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น พวกเขาก็เริ่มตำหนิโศภิตา “ผู้หญิงคนนี้ช่างกล้าจริง ๆ เมื่อหกปีก่อนเธอขับรถชนทักษอร แต่ก็ยังกล้าที่จะมาร่วมงานเลี้ยง!” “นั่นสิ ดูนั่น คุณทักษอรกลัวมากเลย เธอนี่มันเกินไปจริง ๆ” จุฑามาศสังเกตเห็นว่าลูกสาวสุดที่รักของเธอกลัวมากแค่ไหน แต่เธอไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะมาล้อเล่นไร้สาระกับโศภิตา “ช่างเป็นผู้หญิงปากร้ายเสียจริง ถ้าเธอบอกว่าตัวเองถูกกล่าวหาผิด ๆ งั้นก็ไปอธิบายให้ตำรวจฟังสิ” จุฑามาศกำลังจะโทรเรียกตำรวจในตอนที่แทนไทยห้ามเธอไว้ ในที่สุดชายหนุ่มที่เงียบมานานก็เอ่ยปาก “โศภิตา เธอไม่ควรมาที่นี่” เขาพยายามที่จะข่มขู่ฉันอย่างนั้นหรือ โศภิตายิ้มโดยไม่สนใจสิ่งที่คนอื่นคิด เธอเลิกคิ้วขึ้นและพูดอย่างประชดประชัน “แล้วฉันควรจะไปที่ไหนดีล่ะ ยังไงก็เถอะนะคุณแทนไทย เราแต่งงานกันมาตั้งหกปี ถึงแม้ว่าคุณจะไม่ได้ดีกับฉันมากนัก แต่ฉันก็ไม่เคยทำอะไรที่เป็นการทรยศต่อคุณเลย แล้วคุณโพสต์วิดีโอปลอมบนอินเทอร์เน็ตเพื่อใส่ร้ายฉันได้ยังไง คุณอยากให้ฉันตายขนาดนั้นเลยเหรอ” แทนไทยหนังตากระตุก เขากำกล่องผ้าในมือแน่นขึ้นเล็กน้อย ธนากรกำลังจะอธิบายแทนเจ้านายของแต่ถูกแทนไทยตัดบทเสียก่อน แทนไทยจ้องเธอด้วยสายตาลึกซึ้ง “ทักษอรจะไม่ยุ่งกับเรื่องนี้อีก เพราะฉะนั้นเธอควรหยุดทำแบบนี้ได้แล้ว” โศภิตารู้สึกราวกับว่าเธอเพิ่งได้ยินเรื่องตลกที่สุด “นี่คุณล้อเล่นหรือเปล่า” เธอมองดูพวกเขาทุกคน จากนั้นจึงนั่งลง “คราม เอาของขวัญที่ฉันจะมอบให้คุณทักษอรให้พวกเขาดูหน่อย” ขณะที่ทุกคนมองดูด้วยความประหลาดใจ ครามจึงฉายวิดีโอบนจอโปรเจ็กเตอร์ติดผนัง ทุกคนเห็นเหตุการณ์ที่แตกต่างจากในวิดีโอที่กำลังขึ้นเทรนด์อยู่ตอนนี้ ในตอนนี้เอง ดวงตาของทวีรัชต์มืดลงเล็กน้อยขณะที่พูด “คุณโศภิตา คุณจะพิสูจน์ได้ยังไงว่าวิดีโอนี่เป็นเรื่องจริง ตอนนี้เทคโนโลยีล้ำหน้าไปมาก ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนสามารถปลอมแปลงได้” โศภิตาคาดไว้แล้วว่าเขาต้องพูดแบบนี้ เธอจึงมองไปที่ฌาน ฌานกดโทรออก และในเวลาไม่นาน คน ๆ หนึ่งกำลังลงจากรถที่ประตูทางเข้า คนส่วนใหญ่รู้จักผู้ที่เพิ่งมาถึงคนนี้ เขาคือนักเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ที่มีชื่อเสียงในซีฟิลด์ คำพูดของเขาน่าเชื่อถือมากกว่าคำพูดของใคร ๆ “ผมยืนยันได้ว่าวิดีโอของคุณโศภิตาเป็นของจริง ส่วนวิดีโอที่เผยแพร่บนอินเทอร์เน็ตนั้นเป็นวิดีโอที่มีการแก้ไขดัดแปลง” ทันทีที่เขาพูดจบ สีหน้าของทุกคนก็เปลี่ยนไป โดยเฉพาะแทนไทยที่รู้สึกตกตะลีงกับสิ่งที่เกิดขึ้น เขายังคงไม่เชื่อ และถามว่า “โศภิตา เธอสร้างเรื่องเสร็จหรือยัง” ฌานยืนกอดอกและเยาะเย้ยเขา “ผมจะบอกอะไรให้นะคุณแทนไทย คุณนี่มันน่าสงสารจริง ๆ คุณมันโง่ให้คนหลอก! อย่าว่าแต่เรื่องวิดีโอเลย เรื่องอุบัติเหตุในปีนั้น คุณแค่ต้องทุ่มเทมากขึ้นอีกหน่อย ทำไมไม่ตามหาเจ้าหน้าที่เจ้าของคดีเพื่อตรวจสอบเรื่องทั้งหมดล่ะ คุณจะได้รู้ความจริงไง” สีหน้าของแทนไทยเย็นชาอย่างมาก เขาจ้องไปที่ทักษอรอย่างไร้ความรู้สึก มีบางสิ่งแปลก ๆ โหมกระหน่ำอยู่ภายใต้ดวงตาของเขา ทำให้เขาดูอันตรายอย่างยิ่ง ทักษอรตื่นตระหนก เธอคาดไม่ถึงว่าโศภิตาจะมีหลักฐาน! ทักษอรส่ายหัว ความกลัวปรากฏชัดในดวงตาของเธอ “ฉัน… ฉันไม่ได้โกหกนะคะ แทนไทย… ฉันไม่ได้… ฟังฉันก่อน…” คำอธิบายของเธอฟังไม่ขึ้นเกินไป ด้วยความจริงที่ปรากฏต่อหน้าพวกเขา ทุกสิ่งที่เธอพูดล้วนไม่มีประโยชน์! เมื่อเห็นเรื่องราวเป็นแบบนี้ ฌานจึงสามารถระบายความโกรธของเขาออกมาได้ในที่สุด “คุณแทนไทย มีอีกอย่างที่คุณอาจไม่เข้าใจ ในช่วงหลายปีที่ทักษอรอยู่ในอาการโคม่า โศภิตาของฉันไปที่โรงพยาบาลเพื่อให้เลือดแก่ทักษอร ถ้าเธอจงใจขับรถชนทักษอรจริง ๆ แล้วทำไมถึงต้องไปให้เลือดด้วย เธอทำเพื่อคุณ น่าสมเพชนะที่คุณ ผู้ชายที่คิดว่าตัวเองฉลาดมาก แต่จริงๆ แล้วกลับโตครจะตาบอดเลย!”