คู่แฝดคู่ป่วน นิยาย บท 28

“ท่านแม่ซินเอ๋อร์ต้องเก่งมากแน่ๆเลยใช่หรือไม่ เพราะท่านแม่เคยบอกว่าจะอบรมนางให้เก่งที่สุด” เย่วฉีเอ่ยอย่างคาดหวัง เพราะท่านแม่เคยบอกว่าจะสอนร่ำเรียนศาตร์ทั้งสี่ให้นางเก่งกาจแล้วน้องสาวของตนก็ฉลาดขนาดนี้จะไม่เก่งได้อย่างไร

จูเซียนไม่ตอบบุตรชายคนรองแต่เหลือบสายตาไปมองสามีและบิดาอย่างขอความเห็นใจในเรื่องนี้ แต่ยังไม่ทันได้รับคำตอบใดๆก็มีขันทีของไท่ซ่างหวงเดินเข้ามาหาบิดาแล้วเอ่ยกระซิบกระซาบกันจากนั้นก็จากไป

“มีอะไรหรือขอรับท่านพ่อ” อวี้หลางเอ่ยถามบิดา

“ไท่ซ่างหวงให้ขันทีมาบอกว่าให้ส่งหลานสาวร่วมแสดง ท่านเองก็เอ็นดูซินเอ๋อร์อยู่ไม่น้อยแม้จะเพิ่งเคยพบหน้าก็ตาม” ฮุ่ยฉินเอ่ยบอก สหายของเขานั้นชอบถามหาแต่หลานสาวเวลาที่เขาเข้าวัง ชอบฟังเรื่องราวต่างๆของนางจนเหมือนรู้จักกันดีสหายคงถูกใจไม่น้อยที่วันนี้นางยอมเข้าวังมาได้

“ท่านปู่...ถ้าหลานร่วมแสดงจริงๆไท่ซ่างหวงจะยังเอ็นดูหลานอยู่หรือเปล่าเจ้าคะแหะ แหะ” เย่วซินยิ้มแห้งออกไป

“มีอะไรกันหรือเปล่าขอรับท่านแม่” เย่วเทียนเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าทุกคนมีสีหน้าไม่ค่อยดีเท่าใดนัก

“นั่นสิขอรับ” เย่วฉีเอ่ย

“มี มีมากด้วย” จูเซียนกัดฟันเอ่ยออกไป

“อะไรหรือขอรับ” เย่วฉีเอ่ย

“น้องสาวตัวแสบของเจ้าไม่เก่งด้านใดเลยนะสิ” จูเซียนเอ่ยบอกอย่างถนอมน้ำใจทุกคนที่สุด

“ได้อย่างไรท่านแม่นางออกจะฉลาดเกินเด็กทั่วไป” เย่วฉียังไม่ยอมเชื่อ เขานึกว่าน้องสาวเก่งกาจจนไม่ต้องหมั่นฝึกฝนบ่อยๆก็ได้ เพราะเห็นนางทีไรก็ไม่เคยหยิบจับงานพวกนั้นเลย

“ฮ่าๆนางฉลาดเกินนะสิ ถึงได้ไม่เก่ง หลบหลีกแม่ของเจ้าได้ทุกวี่ทุกวันจริงๆ” ฮุ่ยฉินเอ่ยอย่างชอบใจไม่ได้โกรธหลานสาวแต่อย่างใดทุกคนมีเรื่องที่ตัวเองไม่ชอบด้วยกันทั้งนั้น

“ห๊า...” เย่วฉีส่งเสียงออกมาเพียงเท่านั้นแล้วมองหน้าน้องสาวอย่างไม่อยากจะเชื่อ

ส่วนเย่วเทียนแอบยกยิ้มมุมปากเล็กน้อยกับความแสบซนของน้องสาวผู้นี้ ทุกคนจมอยู่กับความคิดของตนเองอยู่เพียงชั่วครู่ก็เหมือนหาทางออกจากเรื่องนี้ได้จึงพร้อมใจกันย้ายสายตาไปทางสตรีอีกคนหนึ่งที่นั่งเงียบมานานอย่างพร้อมเพียง

จิวอิงรับรู้ถึงสายตาหลายคู่ที่จับจ้องและเมื่อมองสบสายตาของน้องสาวก็พอจะรู้ว่านางต้องการสิ่งใด

“พี่หรือ?แต่...”

“น่านะ...วันนี้ทุกคนคือผู้ร่วมสมคบคิดเจ้าอย่าได้กลัวไปเลยข้ารู้ว่าเจ้าเก่งกาจเรื่องพวกนี้” เย่วซินรีบเอ่ยโดยเหมารวมเอามาทั้งครอบครัวเพื่อไม่ให้นางปฏิเสธ

“เรื่องแบบนี้เจ้าช่างฉลาดยิ่งนักพี่ได้เปิดหูเปิดตาแล้ว” เย่วฉีเอ่ยกัดน้องสาวเล็กน้อยกับความหัวไวของนาง

“หลอกลวงเบื้องสูงเลยนะเจ้าคะ” จิวอิงเอ่ยเสียงอ่อย

“เรื่องนี้เดี๋ยวปู่จัดการเอง วันนี้เจ้าก็เป็นซินเอ๋อร์สักวันนึงลองเผยโฉมหน้าแท้จริงของเจ้าต่อหน้าคนอื่นดูบ้าง มันก็ไม่ได้แย่อย่างที่เจ้าคิดนักหรอก เจ้ายังมีปู่และทุกคนที่คอยดูแลและปกป้องยามที่เจ้ามีภัยเจ้าไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวอีกแล้วนะอิงเอ๋อร์” ฮุ่ยฉินเอ่ยบอกหลานสาวเขาค่อยๆให้นางกล้าเผชิญหน้ากับความจริง วันนี้เผยโฉมหน้าในนามของน้องสาวไปก่อน นางคงจะไม่กลัวเท่าใดหรอกกระมัง

“เจ้าค่ะท่านปู่ หลานจะทำให้ดีที่สุด” จิวอิงเอ่ย นางรู้สึกอบอุ่นหัวใจเป็นอย่างมากที่ได้ยินคำพูดของท่านปู่ วันนี้นางจะเผยโฉมหน้าในนามของน้องสาวนางจะต้องทำให้ดีที่สุด จากนั้นทั้งสองก็ให้นางกำนัลของวังพาไปห้องน้ำที่ตำหนักรับรอง เพื่อสับเปลี่ยนตัวกันเย่วซินหมายมั่นตั้งใจว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะทำให้พี่สาวลำบากใจเช่นนี้ ถ้าไม่มีเหตุฉุกเฉินอ่ะนะ เสร็จจากงานเลี้ยงนี้นางคงต้องไปหาเครื่องดนตรีสักชิ้นที่เหมาะแก่ตัวเองสักหน่อย จะให้ดีดกู่เจิงสิบยี่สิบสายไม่ไหวๆ ผีผ้ายิ่งแล้วใหญ่ไม่ใช่แนว คิดถึงเครื่องดนตรีในชาติก่อนยิ่งนัก ไม่ใช่ว่านางไม่เป็นอะไรสักอย่างแต่ที่เล่นเป็นมันไม่มีในยุคนี้ต่างหากเฮ้อ...

ทั้งสองผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าแต่งหน้าใหม่กันเรียบร้อย โชคดีที่เย่วซินเตรียมน้ำนมมาเช็ดหน้าด้วย เพราะครีมไข่มุกของท่านปู่ต้องล้างด้วยน้ำนมเท่านั้นมันถึงจะออก จะว่าโชคดีก็ไม่เชิงเพราะนางเตรียมตัวมาต่างหาก ทรงผมก็ทำมาเหมือนกันแค่เอาหน้าม้าลงมาเพียงเท่านั้น

“เหตุใดจึงไปนานนักเจ้าเห็นคุณหนูซูบุตรสาวท่านราชครูหรือไม่ นางขึ้นบรรงเลงผีผ้าจนเกือบจบแล้ว ต่อไปก็ถึงตาของเจ้าแล้วนะ” เย่วฉีเอ่ยอย่างรีบร้อนเพราะกลัวว่านางจะเตรียมตัวไม่ทัน

“ก็มาแล้วนี่ไงอาฉีอย่าตื่นตูมนักเลยน่า” เย่วซินเอ่ยบอกพี่ชายคนสนิท

หลังจากการแสดงของบุตรสาวท่านราชครูผ่านไปเสียงปรบมือก็ดังอื้ออึงไปทั่วฮ่องเต้ทรงประทานรางวัลให้เช่นเดียวกับเหล่าคุณหนูที่แสดงก่อนหน้านี้ เมื่อเสร็จเรียบร้อยขันทีก็เริ่มประกาศรายชื่อผู้แสดงลำดับต่อไปและเตรียมเครื่องดนตรีที่ผู้แสดงจะต้องใช้เอาไว้ให้เรียบร้อย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่แฝดคู่ป่วน