คู่แฝดคู่ป่วน นิยาย บท 3

ทางด้านเสี่ยวชิงที่หลบหนีเข้ามายังป่าลึกและได้หลบซ่อนตัวอยู่ซอกโขดหินใหญ่ ในมืออุ้มทารกน้อยที่กำลังหลับอยู่ ตั้งแต่เธออุ้มคุณหนูน้อยหลบหนีมานางก็หลับตลอดทางไม่มีงอแงหรือส่งเสียงร้องไห้งอแงเลย 'ช่างเป็นเด็กที่เลี้ยงง่ายเสียจริง' เสี่ยวชิงก้มหน้ามองคุณหนูน้อยพลางน้ำตาเอ่อไหล ป่านนี้คุณหนูของเธอจะเป็นอย่างไรบ้าง เสี่ยวชิงนั่งรออยู่ตรงนี้นานจนกลางยามหม่าแล้ว(05.00-06.59)ยังไม่มีวี่แววว่าจะเห็นคุณหนูของเธอเลย ครั้นจะเดินย้อนไปหารอบด้านนั้นมีแต่ป่าไม่รู้ว่าจะเดินไปทางใด เรื่องของเรื่องก็คือเสี่ยวชิงหลงป่านั่นเอง

เสี่ยวชิงลุกขึ้นยืนหันซ้ายหันขวา เธอจะมัวมานั่งรั้งรออยู่ตรงนี้ไม่ได้ คุณหนูน้อยตื่นมาจะหิวเธอต้องหาทางออกจากป่านี้ให้ได้เสียก่อน คิดได้ดังนั้นเสี่ยวชิงก็ตัดสินใจก้าวเท้าเดินไปทางทิศหนึ่งจะใช่ทางออกจากป่าหรือไม่คงต้องเสี่ยงดวงกัน

# โรงเตี้ยมในเมืองแคว้นฉิน

สองคนต่างวัยกำลังนั่งจ้องมองทารกน้อยบนเตียงนอน ซึ่งเด็กน้อยก็จ้องมองมาทางสองปู่หลานเช่นเดียวกัน

" ท่านปู่จะเลี้ยงดูนางหรือไม่ขอรับ " เย่วฉีเอ่ยถามด้วยความสงสัย

ฮุ่ยฉินได้ยินที่หลานชายถามก็พลันคิดไม่ตก ไม่ใช่ว่าเขาไม่คิดตลอดระยะทางที่ออกจากป่าทึบในเขตนอกเมือง เขาคิดมาตลอดทางว่าจะทำเช่นไรกับเด็กทารกคนนี้ดี เขาไม่เคยเลี้ยงเด็กทารกมาก่อน ตอนที่มีบุตรก็เป็นภรรยาของเขาที่เป็นคนเลี้ยงดูเสียส่วนใหญ่

" ปู่ไม่เคยเลี้ยงเด็กมาก่อน ปู่เลี้ยงไม่เป็น "

" อ้าว.." เย่วฉีส่งเสียงดังออกมาด้วยความผิดหวัง ใจของตนนั้นอยากจะให้ท่านปู่รับเลี้ยงนางนักหนาจึงเอ่ยเกลี้ยกล่อม " ท่านปู่ลองเลี้ยงนางดูก่อนเถิดขอรับ นางไม่อ้อนเลยน่าจะเลี้ยงไม่ยาก "

" เจ้าชอบนางหรือ " ฮุ่ยฉินเอ่ยถาม หลานชายพยักหน้ายิ้มรับคำทันทีอย่างไม่เสียเวลาคิด "เช่นนั้น..เจ้าต้องเป็นคนเลี้ยงดูนางเอง " ฮุ่ยฉินเอ่ยต่อรอง

" อ้าว..ทำไมถึงเป็นข้าเล่าขอรับ แล้วท่านปู่เล่า " เย่วฉีเอ่ยถามด้วยความสงสัย

" ปู่มีงานต้องทำ ทั้งเก็บสมุนไพร ทั้งปรุงยาแล้วยังต้องนำยาไปขายเพื่อนำเงินไปซื้ออาหารมาเลี้ยงดูพวกเจ้าอย่างไรเล่า " ฮุ่ยฉินเอ่ยยืดยาวให้หลานชายคล้อยตาม "ถ้าเจ้าไม่ตกลงก็เอานางไปให้คนอื่นเลี้ยงดูเสีย" คำพูดสุดท้ายทำให้หลานชายสะดุ้งหันขวับมาตอบทันที

" ตกลงขอรับ ข้าจะเป็นคนเลี้ยงนางเอง '' เย่วฉีเอ่ยเสียงหนักแน่น "แต่ว่าท่านปู่ต้องสอนข้าก่อนนะขอรับเพราะตอนนี้ข้ายังเลี้ยงไม่เป็นเลย แฮะๆ" ประโยคหลังเย่วฉีเอ่ยเสียงแผ่วด้วยความเขินอาย

ฮุ่ยฉินใช้ความคิดแล้วเดินลงไปยังด้านล่างของห้องพัก เพียงชั่วครู่ก็กลับมาพร้อมกับหญิงวัยกลางคนผู้หนึ่ง เขาไปหาว่าจ้างหญิงที่มีบุตรเพื่อจะได้ให้ทารกน้อยได้ดื่มนม และก็สอนวิธีเลี้ยงดูเด็กทารกน้อยด้วย

หญิงกลางคนสอนวิธีอุ้ม อาบน้ำเปลี่ยนผ้า ไม่เว้นแม้แต่สอนวิธีทำความสะอาดเด็กน้อยเวลาถ่ายหนักอีกด้วย นางสอนอย่างละเอียดและลองให้เย่วฉีลองทำเองให้นางดูด้วยว่าทำถูกต้องหรือไม่ หลานชายของเขาก็ตั้งใจเรียนรู้และทำตามได้หมดทุกขั้นตอน

จันทร์ที่อยู่ในร่างของเด็กน้อยเมื่อถูกจับแก้ผ้า เช็ดตูดเช็ดก้นก็อับอายจนหน้าดำหน้าแดง แต่ก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ได้แต่คิดแบบปลงๆว่าตอนนี้เธอยังเป็นเด็กทารกเป็นเรื่องธรรมดา.. 'ซะที่ไหนกันเล่า โอ้ยย..อายโว้ยย..' จันทร์กู่ร้องตะโกนในใจ

สตรีมีบุตรนั่งหันหลังแล้วบีบน้ำนมใส่ถ้วยเมื่อได้น้ำนมตามต้องการแล้วจึงนำมาป้อนเด็กน้อย แต่เด็กน้อยไม่ยอมอ้าปากดื่มกินแถมยังเบือนหน้าหนีอีกต่างหาก สายตาหลายคู่ก็ลุ้นกันจนตัวโก่งหวังให้เด็กน้อยอ้าปากแต่สุดท้ายต้องยอมแพ้ให้นาง

สตรีมีบุตรจึงลองป้อนนมจากเต้าเผื่อว่าเด็กน้อยจะยอมดื่มกิน จึงนั่งหันหลังให้บุรุษทั้งสองแล้วแหวกอาภรณ์ให้นมเด็กน้อย แต่นางก็ยังเบือนหน้าหนี ไม่ยอมอ้าปากเลยแม้แต่น้อย

ฮุ่นฉินจึงลองลงไปหาเถ้าแก่โรงเตี้ยมเพื่อขอแบ่งซื้อนมวัว นมแพะ มาให้เด็กน้อยเผื่อว่านางจะยอมดื่มกินบ้าง เมื่อได้นมมาแล้วก็รีบเดินกลับเข้ามาภายในห้องเอามาป้อนเด็กน้อยทันที

จันทร์พอได้กลิ่นนมที่คุ้นเคยก็ยอมอ้าปากดื่มนมที่หญิงตรงหน้าป้อนทันที ในตอนแรกที่เธอไม่ยอมดื่มนมนั้นก็เพราะนมแม่มันเหม็นคาวได้กลิ่นแล้วอยากจะอ้วก เธอจึงไม่ยอมอ้าปากคิดว่ามันคงจะไม่อร่อยเท่าไร แต่ถ้าเธอไม่มีความทรงจำของร่างเดิมนมแม่คงจะเป็นนมที่อร่อยที่สุดเลยก็ว่าได้

" ท่านปู่นางยอมดื่มแล้วขอรับ นางดื่มนมวัว " เย่วฉีเอ่ยอย่างดีใจ เขาลุ้นแทบตายกลัวนางไม่ยอมดื่ม

" เออๆ..ดีๆ " ฮุ่ยฉินพยักหน้าพอใจ อย่างน้อยนมวัวก็ยังพอหาได้ง่าย

หลังจากที่สอนกันมาครึ่งค่อนวัน เย่วฉีก็ทำตามได้ถึงแม้จะยังเก้ๆกังๆอยู่บ้างก็ตาม ฮุ่ยฉินปล่อยให้หลานชายดูแลเด็กน้อย ส่วนตัวเขานั้นจะออกไปซื้อของใช้จำเป็นสำหรับเด็กทารกในตลาดเสียหน่อย

เมื่อเดินออกจากโรงเตี้ยมมุ่งหน้าสู่ตลาด ฮุ่ยฉินเห็นหญิงสาวอุ้มเด็กทารกไว้ในมือ ปากก็ร้องขอแบ่งน้ำนมจากหญิงวัยกลางคนผู้หนึ่ง แต่หญิงคนนั้นไม่ยอมแบ่งนมให้อ้างว่าตนเองนั้นมีน้ำนมไม่เพียงพอ หญิงสาวผู้นั้นร้องไห้ดูแล้วช่างน่าสงสารยิ่งนัก เพราะฮุ่ยฉินเองก็เพิ่งได้เลี้ยงเด็กทารกเช่นกันจึงเข้าใจหัวอกหญิงสาวผู้นั้นดี ฮุ่ยฉินจึงเดินเข้าไปหาหญิงสาวทันที

" แม่นางถ้าเจ้าหาน้ำนมแม่ไม่ได้ เจ้าก็ไปหาซื้อนมวัว นมแพะให้นางดื่มกินเถิด "

เสี่ยวชิงเมื่อได้ยินเสียงบุรุษเอ่ยก็หันกลับมามองทันที เธอน้ำตานองหน้าไม่ใช่ว่าไม่อยากซื้อแต่ตอนนี้ไม่มีเงินสักตำลึงเดียว

" นายท่านข้าน้อยไม่มีเงินติดตัวมาเลยเจ้าค่ะ " เสี่ยวชิงเอ่ยบอกชายตรงหน้าตามตรง เผื่อว่าเขาจะใจดีหยิบยื่นไมตรีให้บ้างตอนนี้เธอหวังเพียงหานมให้คุณหนูน้อยดื่มกินประทังหิว ให้ทำอะไรก็ยอมทั้งนั้น

ฮุ่ยฉินหยิบถุงเงินออกมาหนึ่งถุงค่อนข้างหนักแล้วส่งให้หญิงสาวตรงหน้าทันทีโดยไม่คิดเสียดายแม้แต่น้อย

'' เจ้ารับถุงเงินนี้แล้วไปหาอาหารใส่ท้องเสีย ทั้งเจ้าและเด็กทารกน้อยนั่น " ฮุ่ยฉินเอ่ยเสียงนุ่ลนวลที่เปี่ยมล้นไปด้วยความเมตตา

" ขอบคุณเจ้าค่ะนายท่าน ข้าน้อยเป็นหนี้บุญคุณท่านแล้ว " เสี่ยวชิงทิ้งเข่าทั้งสองข้างลงพื้นทันทีแล้วยื่นมือไปรับถุงเงินนั่นมา " นายท่านมันไม่มากไปหรือเจ้าคะ ข้าน้อยเกรงใจ " เสี่ยวชิงรับถุงเงินมาแต่มันหนักมากคิดว่าเงินคงไม่ใช่น้อยๆเป็นแน่

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่แฝดคู่ป่วน