"อายทำไม ฉันเห็นบ่อยแล้วแก้มแดงๆของเธอน่ะ" ต้นน้ำพูดหยอกล้อ พร้อมกับใช้ปลายนิ้วลากวนไปมาบนหน้าท้องแบนราบ
"อื้อ!" สัมผัสวาบหวามของคนข้างบนทำเอาเด็กสาวหายใจไม่ทั่วท้อง เธอบิดเร่าร่างกายไปมาพลางใช้รองเท้าส้นสูงยันหน้าท้องแกร่งเบาๆ
"อ๊ะ..ตะ..ต้นพอแล้ว..อื้อ!" ยังไม่ทันได้ตั้งตัวความเสียวซ่านก็ตรงเข้าเล่นงานใจกลางความเป็นสาวอีกครั้ง เมื่อต้นน้ำจงใจกลั่นแกล้งด้วยการขยับสะโพกเข้าออกอย่างเนิบนาบ ทำให้เธอต้องรีบยันตัวลุกขึ้นทั้งที่อีกคนยังเคลื่อนไหวร่างกายอยู่กลางหว่างขา
"ตะ..ต้นหนูบอกให้หยุด..อึก..พะ..พอแล้ว..อ๊า"
"วางแขนไปข้างหลังจะไม่เมื่อยมากนะ" ถ้อยคำห้ามปรามของเธอไม่มีผลใดๆต่อความต้องการของต้นน้ำ เขาเลื่อนใบหน้าเข้ามากระซิบบอกเสียงพร่าเหนือริมฝีปาก แต่คะนิ้งกลับทำตรงกันข้าม เรียวแขนสวยทั้งสองข้างยกขึ้นมาโอบรัดลำคอหนาไว้หลวมๆ
"ถ้าไม่หยุดหนูจะโกรธแล้วนะ"
"ไม่งอแงตอนนี้ได้ไหม" ต้นน้ำสบตาอย่างเว้าวอน ขณะที่สะโพกสอบเปลี่ยนจังหวะรักเนิบนาบให้กลายเป็นหนักหน่วงในนาทีต่อมา "เฮียขอนะ เป็นเด็กดีของเฮียสักวันได้ไหม"
"..." คะนิ้งชะงักไปกับสรรพนามใหม่ที่หลุดออกจากปากของต้นน้ำ อีกทั้งท่าทางออดอ้อนของเขาที่ไม่เคยเห็นมาก่อนยังทำให้หัวใจดวงน้อยเต้นแรงอย่างบ้าคลั่งจนกลัวว่าเขาจะได้ยิน
ปึก! ปึก! ปึก! ปึก!
"อื้อ!..ถะ..ถ้าไม่หยุดหนูจะโกรธจริงแล้วนะ!" เธอทำเสียงแข็งอย่างเอาจริงเมื่อคนตรงหน้ากระแทกกระทั้นแก่นกายเข้ามาอย่างหยาบโลนจนเกิดเสียงลามกของเนื้อกระทบเนื้อดังก้องภายในห้องทำงาน
"ไม่คิดถึงกันเลยเหรอ หรือมีแค่เฮียคนเดียวที่คิดถึงนิ้ง" ต้นน้ำผ่อนแรงลงเมื่อเห็นสีหน้าไม่พอใจของเด็กสาว แต่ยังไม่ยอมคืนอิสระให้เธอง่ายๆ
"ยะ..อย่ามาทำเสียงแบบนั้นใส่หนูนะ หนูไม่หลงกลคนเจ้าเล่ห์อย่างต้นหรอก"
"เสียงแบบไหน?"
"เสียงกระเส่าแบบนั้นไง"
"ก็คนมันต้องการ จะให้ทำเสียงยังไงล่ะ"
"แต่นี่มันห้องทำงานของพี่พัดชานะ แล้วหนูก็ต้องรีบเอามือถือไปให้พี่พัดชาด้วย"
"ซื่อบื้อ" เขาว่าให้อย่างเหลืออด พลางถอนหายใจเบาๆ "โดนพัดชาหลอกให้เข้ามาในห้องนี้ยังไม่รู้ตัวอีกนะ"
"ต้นหมายความว่ายังไง"
"ก็หมายความตามที่พูดนั่นแหละ"
"ร้ายกาจที่สุดเลย!" กำปั้นน้อยๆฟาดลงกลางแผ่นหลังแกร่งเต็มแรงเป็นการระบายอารมณ์ คะนิ้งปั้นหน้าบูดบึ้ง รีบคลายพันธนาการออกจากลำคอหนา แล้วเอื้อมไปหยิบทิชชูที่วางอยู่ข้างหลังมาหมายจะเช็ดทำความสะอาดคราบน้ำรัก
"อื้อ!..อะ..เอามันออกไปนะ!"
"ใครอนุญาตให้แต่งหน้าทำผมแบบนี้"
"ไม่ต้องมาเฉไฉไปเรื่องอื่นเลยนะ เอามันออกไปก่อนที่หนูจะหมดความอดทนแล้วหักมันทิ้ง"
"งั้นคงต้องเอาเข้าไปลึกๆ จะได้ไม่โดนหักทิ้ง"
"อื้อ!..ตะ..ต้นมันจุก" มือบางกำทิชชูแน่นเมื่อต้นน้ำค่อยๆดันแก่นกายลึกเข้ามาจนร่างกายของเขาและเธอแนบชิดกันมากกว่าเดิม
"ตะ..ต้นหนูจะโกรธจริงๆแล้วนะ!" ต้นน้ำทำหน้าเซ็ง แล้วค่อยๆดึงแก่นกายออกมาอย่างอ้อยอิ่ง ทำเอาคะนิ้งกัดปากเบาๆด้วยความเสียวซ่าน
"แล้วใครอนุญาตให้แต่งหน้าทำผมแบบนี้"
"อยากให้เฮียอาละวาดเหมือนวันนั้นอีกรึไง"
"ต้นไม่เชื่อใจหนูเลยเหรอ"
"หวงกับเชื่อใจมันคนละความหมายกันนะ"
"..."
"เฮียหวง ไม่อยากให้ใครมองคนของเฮีย" ริมฝีปากหยักได้รูปกระซิบบอกเสียงเบาข้างกกหู พร้อมกันนั้นก็ติดกระดุมเสื้อให้คนตัวเล็กไปด้วย
"ปะ..ไปกันได้แล้วค่ะ" เธอปัดท่อนแขนแกร่งออกจากเอวคอด แล้วกรีดกรายเดินออกไปทันที แต่ใช่ว่าต้นน้ำจะยอมเดินตามหลัง เขาก้าวตามไปคว้ามือเธอมากุมไว้ แล้วเดินขึ้นไปบนดาดฟ้าพร้อมกัน
"แหมมมม หายไปครึ่งชั่วโมงผีมุ้งมิ้งเข้าสิงเลยนะมึง" สหรัฐยิ้มหยอกล้อเมื่อเห็นต้นน้ำเดินจูงมือคะนิ้งกลับมาที่โต๊ะอย่างอารมณ์ดี
"นิลรู้สึกได้ว่าพลังงานบางอย่างมันหายไปแล้ว" ญาณินที่นั่งอยู่ข้างๆแฟนหนุ่มหันไปกระซิบกระซาบกับนาร์เนียที่นั่งกินไอศกรีมอยู่บนหน้าตักของเหมราช
"พลังงานอะไรเหรอ~" นาร์เนียถามหน้าซื่อ ทำเอาญาณินถอนหายใจเบาๆ เธอส่ายหน้าน้อยๆ แล้วหันไปคุยกับไพลินที่นั่งอยู่บนหน้าตักของบดินทร์แทน
"นั่งกับพวกนี้ไปก่อนนะ เดี๋ยวเฮียไปเอาของกินให้" ต้นน้ำปล่อยมือออกจากการเกาะกุม ขยี้ผมคนตัวเล็กเบาๆ แล้วเดินเลี่ยงออกไป
"นิ้งปลดกระดุมออกสักเม็ดไม่ได้เหรอ เห็นชุดว่ายน้ำของนิ้งแล้วนิลกระชุ่มกระชวย~" ญาณินทำเสียงออดอ้อนในตอนที่คะนิ้งหย่อนตัวนั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม ทำเอาคะนิ้งไปต่อไม่ถูก
"นิ้งไปกินติมกัน!" นาร์เนียเอ่ยชวนอย่างใจดี ซึ่งคะนิ้งก็พยักหน้าตกลงในทันที
"ไว้อาลัยให้ถังไอติมล่วงหน้าเลย" ไพลินทำหน้าเอือมระอาหลังจากนาร์เนียและคะนิ้งเดินควงแขนกันออกไปแล้ว เรียกรอยยิ้มจากบดินทร์และสหรัฐที่ฟังอยู่ ต่างจากเหมราชที่ถอนหายใจพรืดใหญ่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กินเด็ก 20+