กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 1015

ซากปรักสนามรบโบราณมีวิญญาณวีรบุรุษที่สวมเสื้อเกราะบาง ประเภทพักอาศัยอยู่เป็ นประจา เนื่องจากมีความยึดติดบางอย่าง พวกมันจึงร่อนเร่อยู่ระหว่างฟ้ าดิน หากในมือได้ถือครองอาวุธก็จะมี ภาพเหตุการณ์ประหลาดที่ “ปลายหอกมีแสงสีทองไหลริน ปลายทวน มีประกายเพลิงจากฟ้ า” หรือก็คือคากล่าวที่ว่า “ไฟลุกไหม้อยู่ที่ปลาย ง้าว มองไกลไปดั่งแสงเทียนลอยค้าง” ที่ระบุไว้ในหนังสือ ประวัติศาสตร ์บางเล่ม

เพียงแต่ว่าทัศนียภาพเช่นนี้ไม่ใช่ว่าภูตผีจิตหยินทุกตนจะมีได้ เกิดขึ้นได้น้อยมาก หาได้ยากยิ่ง

แล้วก็เพราะหาได้ยากถึงได้ทาให้ทั้งคนและผีหวาดกลัว

เด็กหนุ่มสะพายกระบี่ถามว่า “นี่คือ?”

ป๋ ายเหมาที่เงียบกริบเป็ นจักจั่นในหน้าหนาวอยู่นานแล้วรีบส่าย หน้า ยื่นนิ้วมาดันไว้ที่ริมฝีปาก บอกเป็ นนัยว่าห้ามพูด อย่าได้ปาก พล่อยส่งเสียงในเวลานี้เด็ดขาด

เห็นว่าเด็กหนุ่มยังจะเปิดปากพูดต่อ ป๋ ายเหมาก็รีบยื่นมือไปกา แขนของเด็กหนุ่มเอาไว้แน่น ไม่ว่าค าพูดประหลาดอะไรก็พูดออกมา ได้หมด แต่ตอนที่กองทัพติดอาวุธเบากลุ่มนี้ขยับเข้ามาใกล้จะต้อง ระวังแล้วระวังอีก!

รอกระทั่งม้าสิบกว่าตัวหายลับไปท่ามกลางม่านราตรีที่อยู่เบื้อง หน้าอย่างว่องไว แสงไฟเปล่งวาบลากทิ้งไว้เป็ นเส้นยาวเส้นหนึ่ง ก่อน จะค่อยๆ ผลุบหายเข้าไปในเมืองเล็กตีนเขาป๋ ายเหมาถึงได้กล้าหอบ หายใจ ปาดหน้าผากที่ไม่มีเหงื่อตามจิตใต้สานึก

เด็กหนุ่มถามว่า “คือทหารม้ามากฝีมือใต้อาณัติของจวนซานจ วินภูเขาเหอฮวานหรือ?”

ป๋ ายเหมาส่ายหน้า เอ่ยด้วยสีหน้าประหลาด “อย่าได้คิดเลย ภูเขาเหอฮวานหรือจะมีความสามารถในการปกครองกองทัพ”

เห็นได้ชัดว่าป๋ ายเหมารู ้ตัวตนที่แท้จริงของกองทัพม้า ลาดตระเวนกลุ่มนี้ แต่เขาจะไม่ยอมเปิดปากพูดอย่างเด็ดขาด

ตอนมีชีวิตอยู่และหลังจากตายไป ฤดูใบไม้ผลิฤดูร ้อนและฤดู ใบไม้ร่วงฤดูหนาวของในหนึ่งปี ล้วนมีชีวิตอยู่บนหลังม้า

ป๋ ายเหมาเบี่ยงหัวข้อสนทนา แสร ้งทาเป็ นพูดอย่างผ่อนคลายว่า “อีกเดี๋ยวก็จะเข้าไปในเมืองเล็กแล้ว เจ้าจ าไว้ว่าให้ติดตามอยู่ข้าง กายข้า อย่าเดินไปไหนมั่วซั่ว หากเดินแยกไปจะถูกผีบังตา มองดู เหมือนห่างไปไม่กี่ก้าว แต่อันที่จริงกลับอยู่ไกลสิบกว่าลี้ มลพิษและ กลิ่นอายสกปรกปะทุไปทั่ว หมอกขาวแผ่อบอวล อ้อมไปอ้อมมา อันตรายแล้วอันตรายอีก”

เข้ามาในเมืองเล็กที่เต็มไปด้วยโคมไฟหลากสีสัน สุดปลายของ ถนนหลักเชื่อมต่ออยู่กับเส้นทางเทพที่มุ่งหน้าไปยังภูเขาเหอฮวาน

ข้างทางมีหอเรือนอยู่หลังหนึ่ง ข้างหอเรือนมีต้นไม้โบราณที่กิ่งใบเป็ น พุ่มหนา ด้านบนแขวนกระดาษสีแดงไว้เต็มไปหมด

ดินแดนแห่งภูตผี กลิ่นอายวังเวงน่าสะพรึงกลัว แม้กระทั่งแสง จันทร ์ก็ราวกับว่าเยียบเย็นไปด้วย

สองข้างถนนแขวนโคมสีแดงสดไว้เป็ นแถวเรียงราย มีร ้านไม่ น้อยที่เปิดประตูอ้า เห็นเงาคนผลุบโผล่ แต่กลับแทบไม่มีเสียงใดๆ เล็ดรอดออกมา

ผีสาวถือร่มผู้นั้นคล้ายจะคุ้นเคยกับเมืองเล็กอย่างมาก นางหัน ตัวกลับมาโบกมืออ าลาป๋ ายเหมากับเด็กหนุ่ม จากนั้นก็เดินเข้าไปใน ตรอกเล็กแล้วหายตัวไป

ป๋ ายเหมาใช ้เสียงในใจบอกเล่าประวัติความเป็ นมาคร่าวๆ ของ ร ้านสองข้างทางให้เด็กหนุ่มฟังว่าไม่ควรไปมีเรื่องด้วยและเหตุใดถึง ไม่อาจไปมีเรื่องด้วยได้ เพียงแต่ว่าเดินไปถึงจุดหนึ่ง ชั้นสองมีสตรี หน้าตางามเย้ายวนสวมเสื้อผ้าบางเบาก าลังกวักมือเรียก เจ้าจวนป๋ า ยจึงชะลอฝี เท้า สอบถามเด็กหนุ่มข้างกายว่าจะดื่มเหล้าเคล้านารี หรือไม่ แล้วยังพูดด้วยว่าที่นี่ไม่มีอะไรน่ากลัว ค้าขายยุติธรรม พวก นางไม่กินคน กินแค่เงินเท่านั้น แค่จ่ายเงินเกล็ดหิมะสองเหรียญก็ สามารถดื่มเหล้ากาหนึ่งได้แล้ว ส่วนเหล้ากาหนึ่งจะดื่มนานเท่าไรก็ ต้องดูที่ความสามารถของตัวเองแล้ว แต่แล้วเจ้าจวนป๋ ายก็หัวเราะหึหึ ก็ถือว่ากินคนเหมือนกันนะไม่อย่างนั้นจะเรียกได้ว่าเป็ นสุสานแห่ง วีรบุรุษได้อย่างไร

เด็กหนุ่มเพียงแค่ยกสองแขนกอดอก สายตามองตรงไม่ล่อกแล่ก หัวเราะพรืดเอ่ยว่าโอ้โห แค่พูดถึงเรื่องนี้เจ้าจวนป๋ ายก็คึกคักเลยหรือ ไร?

ป๋ ายเหมาจึงได้แต่ล้มเลิกความคิด

ในหอเรือนที่ตั้งอยู่สุดปลายทางของถนน ในหอสามารถดื่มเหล้า ได้ แสงไฟสว่างไสวเจิดจ้าราวกับเวลากลางวัน ผู้คนนั่งกันเต็มห้อง โถงเตรียมพร ้อมส าหรับการเข้าร่วมงานพิธีรับสมัครลูกเขย

ป๋ ายเหมาจ่ายเงินเกล็ดหิมะหนึ่งเหรียญ ขอที่นั่งในมุมของห้อง โถงใหญ่จากทางเหลาสุรา กาชับเฉินเหรินว่าแค่นั่งอยู่เฉยๆ ก็พอ อย่าได้ก่อเรื่องเด็ดขาด หากใครมาหาเรื่องถึงที่จริงๆ ก็ให้บอกชื่อ ของเขาไป ส่วนตัวป๋ ายเหมาเองวิ่งตุปัดตุเป๋ ไปมอบของขวัญแล้ว

ด้านล่างป้ ายของหอเรือนตรงตีนเขาแห่งนี้วางโต๊ะที่ปูไว้ด้วยผ้า ต่วนสีแดงสด มีผู้เฒ่าสวมชุดแพรลักษณะคล้ายคนดูแลคนหนึ่งกาลัง ป่ าวประกาศรายชื่อเสียงดัง และยังมีนักบัญชีที่รับหน้าที่จดรายการ ของขวัญอยู่ด้วยอีกคนหนึ่ง

“ซิ่งแดงราดรดด้วยเปลวเพลิงสายฟ้ าครึ่งจิน โอสถมรกตที่หลอม ด้วยสายน้าหนึ่งเส้นฮูหยินผีผาแห่งถ้าเสียงสวรรค์มอบซิ่งสายฟ้ า ตระกูลเซียนให้หนึ่งลูกและโอสถวารีหนึ่งเม็ด!

“ชุดขนนกที่มีแสงเมฆเรืองรอง สวมเสื้อกันฝนตกปลาในบ่อ มังกร เฮยหลงเซียนจวินมาถึงแล้ว! ซองแดงหนึ่งซอง เงินเกล็ดหิมะ สิบแปดเหรียญ”

ผู้เฒ่าที่มีฉายาว่า “เฮยหลงเซียนจวิน” ถลึงตากล่าว “หืม?!”

ผู้ดูแลรีบยิ้มประจบทันใด “บอกผิดไปแล้ว คือแปดสิบเหรียญ!”

นักบัญชีหนุ่มที่เขียนสิบแปดเหรียญไปแล้วเงยหน้าขึ้น ใบหน้า เต็มไปด้วยสีหน้าลาบากใจ ถูกผู้ดูแลเฒ่าตบหัว “ขีดทิ้งเสียสิแล้ว ค่อยเขียนใหม่ แค่นี้ก็ทาไม่เป็ นหรือ?”

รอกระทั่งนายท่านเซียนจวินขอบเขตชมมหาสมุทรผู้นั้นเดินขึ้น เขาจากไปไกล ผู้ดูแลยังด่านักบัญชีไม่เลิก “ไม่มีสมองเลยหรือไง”

“ราชาปีศาจผู้อาศัยอยู่บนถนนหยวนเหนา หมัดเท้าดุดันไร้ผู้ใด ทัดเทียม ถังคุนปรมาจารย์ใหญ่ถัง คืนนี้มาร่วมแสดงความยินดี ทองคาหนึ่งหีบ อัญมณีสองกล่อง!”

“เปลี่ยนจากโครงกระดูกมาเป็ นเจ้าจวน ตอนมีชีวิตอยู่เคยเป็ น ขุนนางใหญ่ จวนชิงป๋ ายแห่งสันเขาเซียจื่อ ป๋ ายเหมาเจ้าจวนป๋ าย เงินเกล็ดหิมะห้าสิบเหรียญ หมึกโบราณ…อีกหลายก้อน”

ป๋ ายเหมารีบก้มหน้าค้อมเอว ถูมือพูดกลั้วหัวเราะเสียงเบาว่า “ผู้ ดูแลอวี๋ หมึกโบราณชุดนี้ทาขึ้นจากในวัง พอจะมีค่าอยู่บ้าง”

ผู้ดูแลพยักหน้ารับ เอ่ยเตือนนักบัญชีหนุ่มผู้นั้นว่า “เพิ่มคาว่า “ทาขึ้นจากในวัง” ให้กับเจ้าจวนป๋ ายด้วย”

เรือยันต์ส่วนตัวลักษณะคล้ายเรือตั๊กแตนลาหนึ่งแหวกอากาศ มาถึง พริบตาเดียวก็จอดสนิทกับพื้น มีชายฉกรรจ์ร่างกายาผู้หนึ่งที่ ข้างกายน าพาสาวใช ้มาด้วยสองคนเดินมาสตรีผู้หนึ่งทามุทราเก็บ เรือยันต์ลานั้นกลับคืน ชายฉกรรจ์ยื่นฝ่ ามือที่ใหญ่เท่าใบลานมารับ เรือยันต์ จากนั้นผลักป๋ ายเหมาที่ขวางทางออก ไม่เสียแรงที่เป็ นผู้ฝึก ยุทธขอบเขตหก ผลักเสียจนป๋ ายเหมากระเด็นออกไปสองจั้ง เขาไม่ เสียเวลาพูดคุยกับผู้ดูแลอวี่ของภูเขาเหอฮวาน เพียงแค่พาสาวใช ้ สองคนตรงดิ่งขึ้นเขาไป หากจะให้เขาควักเงินมาให้ผู้อื่นก็เท่ากับรอ ให้ไก่ตัวผู้ออกไข่โดยแท้

ผู้ดูแลเฒ่าท าท่าจะพูดแต่ไม่พูด คิดดูแล้วก็ยอมปล่อยอีกฝ่ ายไป ฉายาของเจ้าหมอนี่คือชีวิตนี้ไม่ว่าใครก็ไม่ยอมแพ้ เลื่อมใสแค่ซานจ วินเว่ยแห่งขุนเขาเหนือที่ชายแขนเสื้อสองข้างมีลมเย็นเท่านั้น!

บทที่ 1015.5 เยาว์วัยมองฟ้ าจากก้นบ่อน้า 1

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!