ในนามนั้นทั้งสองฝ่ ายคือคู่บาเพ็ญเพียร แต่แท้จริงแล้วกลับ เหมือนสหายที่มีปณิธานและผลประโยชน์สอดคล้องตรงกันมากกว่า พวกเขาตกลงกันว่าในอนาคตเมื่อทั้งสองต่างก็มีขอบเขตเท่าเทียม กับเกาจวินแห่งพรรคหูซานในทุกวันนี้แล้วก็จะไปหาศาสตร ์แห่งการ ประกอบกามกิจในห้องหอของลัทธิเต๋าที่หยินหยางช่วยส่งเสริมกัน และกันมาเพิ่มสักสองสามบทแล้วกลายเป็ นคู่บ าเพ็ญเพียรกันอย่าง แท้จริง จัดงานเลี้ยงฉลองสมรสแล้วเปิดส านักก่อตั้งพรรค อันที่จริง ตอนนั้นเด็กสาวสวมชุดคลุมมังกรที่ตั้งชื่อให้ตัวเองว่าหูเจียวก็รู ้สึก ประหลาดใจแล้ว นางจึงถามเว่ยเหลียงว่าเจ้าพูดว่าเปิดสานักก่อตั้ง พรรคหรือ? มีความแตกต่างจากการเปิดภูเขาก่อตั้งพรรคหรือไม่?
เว่ยเหลียงเงียบงันไปนานกว่าจะบอกว่าฟ้ าดินของโลกภายนอก แห่งนั้น จวนเซียนบนภูเขา อักษรค าว่าส านักใหญ่มาก แต่อักษรค า ว่าลัทธิกลับใหญ่ที่สุด ไม่อาจนามาเปรียบเทียบกับส านักหรือลัทธิ อะไรของพรรคในยุทธภพพวกเราได้
เด็กสาวคนหนึ่งถามขึ้นอย่างเป็ นกังวลว่า “ท่านพ่อ เกิดเรื่อง อะไรขึ้นหรือ?”
เว่ยเหลียงยิ้มเอ่ย “ไม่มีอะไร หูเจียวแค่บาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้น”
วันนี้คนที่อยู่ในกระท่อมหลังนี้ยังมีเว่ยเจินผู้หลอมลมปราณที่ อายุแท้จริงไม่น้อย แต่กลับมีรูปโฉมเป็ นเด็กสาวอยู่ด้วย นางก็คือลูก สาวของเว่ยเหลียง
เว่ยเจินที่มีฐานะเป็ นองค์หญิงแคว้นหนันเยวี่ยนไม่เหมือนกับเว่ย แย่นพี่ชายที่ขึ้นครองราชย์ตั้งตัวเป็ นราชานานแล้ว นางมีคุณสมบัติ ในการฝึกตน อีกทั้งคุณสมบัติยังค่อนข้างไม่เลว ตามการประมาณ การณ์ล่วงหน้าของเว่ยเหลียง อาศัยตาราลับทั้งหลายที่ราชสานัก แคว้นหนันเยวี่ยนรวบรวมมา ในอนาคตเว่ยเจินจะเปิ ดถ้าสถิตรับ ปราณวิญญาณฟ้ าดินเข้ามาก็ไม่ใช่ความเพ้อฝันอะไรเลย หากโชค ดีกว่านั้นอีกสักหน่อย ยกตัวอย่างเช่นได้รับความโปรดปรานจากเจ้า ขุนเขาของภูเขาลูกใดลูกหนึ่ง เป็ นขอบเขตประตูมังกรที่อยู่ห่างจาก การสร ้างโอสถทองแค่เสี้ยวเดียวได้อย่างเขาก็พอจะมีความมั่นใจอยู่ เหมือนกัน
เว่ยเจินยื่นมือไปจับชีพจรให้กับหูเจียวตามความเคยชิน พยัก หน้าเอ่ย “ลมปราณมั่นคง ไม่ได้เป็ นอะไรมากจริงๆ”
เพียงแต่ว่าเมื่อเว่ยเจินโคจรปราณวิญญาณในร่างมาใช ้มาก กว่าเดิม พยายามที่จะตรวจโรคให้เด็กสาวสวมชุดคลุมมังกรตาม “ศาสตร ์แห่งการรักษาโรคโดยใช ้คาถา” อย่างที่เขียนไว้ในต าราลับ บางเล่ม พริบตานั้นปลายนิ้วของเว่ยเจินก็รู ้สึกร ้อนแผดเผาปวด ปลาบขึ้นมา นางต้องสะบัดมือแรงๆ กว่าจะขับไล่ความเจ็บเสียดที่ เหมือนปลายนิ้วสัมผัสกับถ่านร ้อนๆ นั้นไปอย่างไม่ง่ายนัก เว่ยเจิน
ถามเสียงหนักจริงจังอย่างเป็ นกังวลว่า “เสด็จพ่อ นางไปมีเรื่องกับ ใครมากันแน่ ภัยแฝงถึงได้รุนแรงขนาดนี้!”
เว่ยเหลียงลังเลเล็กน้อย ก่อนจะใช ้เสียงในใจตอบว่า “คือเฉินผิง อัน”
เว่ยเจินอึ้งตะลึง พลันปิดปากหัวเราะคิก “ยังดีๆ โชคดีมาก โชคดี มาก!”
เว่ยเหลียงยิ้มเอ่ยด้วยอารมณ์ซับซ ้อนว่า “หากมีโอกาสจะพาเจ้า ไปเลี้ยงเหล้าเลี้ยงข้าวเซียนกระบี่เฉินสักมื้อ”
อุบายเล็กๆ น้อยๆ ส่วนนั้นของตนต้องไม่มีทางปิดบังเฉินผิงอันที่ มองการณ์ไกลมีแผนการลึกล้า สามารถพลิกวิกฤตให้กลายเป็ น โอกาสได้ตั้งแต่อายุยังน้อยได้แน่นอน ถ้าอย่างนั้นคนที่สามารถเอา มาใช ้รับมือกับเฉินผิงอันได้อย่างแท้จริงกลับมีเพียงแค่คนที่มี ความคิดจิตใจซื่อบริสุทธิ์อย่างเว่ยเจินเท่านั้น
เว่ยเหลียงไม่เหมือนผู้หลอมลมปราณในท้องถิ่นคนใด เนื่องจาก ปีนั้นเขาเคยรับผิดชอบเรื่องของการนาทัพทหารฝีมือดีแคว้นหนัน เยวี่ยนให้ช่วยเปิดเส้นทางอย่างลับๆ จึงเคยดื่มเหล้าพูดคุยกับเซียน กระบี่คนหนึ่งที่ชื่อว่าเฉาจวิ้นบ่อยๆ ทาให้เขาหลอกถามเรื่องวงใน ของฟ้ าดินด้านนอกจากเซียนกระบี่หนุ่ มเฉาที่นิสัยเอ้อระเหย ลอยชาย แต่กลับติดสุรายิ่งกว่าชีวิตมาได้ไม่น้อย กลับเป็ นลูกหลาน สกุลเจียงที่มาจากพื้นที่มงคลถ้าเมฆาเสียอีกที่แต่ละคน ปิดปากแน่น
สนิท ไม่ว่าจะมอบค่าน้าร ้อนน้าชาอะไรให้ก็ไม่รับ พูดคุยสื่อสารด้วย ยากมากแต่นอกจากเฉาจวิ้นที่บอกว่าตัวเองมาจากภูมิลาเนา เดียวกับเฉินผิงอัน ทว่ากลับเติบโตมาในสถานที่ที่ชื่อว่าทักษิณาตย ทวีปแล้ว ตอนนั้นยังมียาเอ๋อร ์ที่ไม่ใช่คนแปลกหน้าสาหรับเว่ยเหลียง อยู่ด้วย นางเป็ นคนของลัทธิมาร เคยติดตามติงอิงเข้ามาในเมือง หลวงแคว้นหนันเยวี่ยน สุดท้ายดูเหมือนว่าจะถูกโจวเฝยแห่งตาหนัก คลื่นวสันต์ที่เดินขึ้นหัวกาแพงเมืองพาตัวจากไป
นอกจากนี้แล้วเว่ยเหลียงยังได้เจอกับคนมหัศจรรย์ของบ้านเกิด อีกคนหนึ่ง นั่นคือสุยโย่วเปียนที่ตายไปแล้วฟื้นคืนชีพกลับมา!
ส่วนเฉาจวิ้นเซียนกระบี่ที่บางครั้งก็จะออกกระบี่ฟันเปิดรากภูเขา เปิดเส้นทางผู้นั้นกลับชอบพูดว่าตัวเองอยู่ที่บ้านเกิดก็คือเศษสวะที่ เดินอยู่ข้างทางหมายังเห่าใส่ไม่กี่ที
ชั่วชีวิตนี้เว่ยเหลียงเพิ่งจะเคยเห็นเป็ นครั้งแรกว่าถึงกับมีคนผู้ หนึ่งที่สามารถใช ้กาลังของตัวเองคนเดียว ฟันเปิดขุนเขาใหญ่สูง ตระหง่านให้เป็ นรูโหว่ขนาดใหญ่ยักษ์ได้….
และคนคนนี้กลับพูดด้วยหน้าตาจริงจังว่าตัวเองคือคนไร ้ ประโยชน์ที่หมาข้างทางไม่คิดจะกัด ไม่ถือว่าเป็ นผู้มีพรสวรรค์ด้าน การฝึกตนครึ่งตัวด้วยซ้า เป็ นแค่คนที่หาได้เกร่อตามท้องถนนทั่วไป
เว่ยเหลียงวางหูเจียวลงบนเตียงในห้องอย่างระมัดระวัง เดิน ออกมาจากห้องแล้ว เขากับเว่ยเจินก็มานั่งลงบนม้านั่งยาวที่ทามา จากไม้ท่อนหนาใหญ่ซึ่งวางไว้ใต้ชายคาด้วยกัน
เว่ยเจินถามเสียงเบา “ไม่ไปประชุมที่อารามต้ามู่แล้วหรือ?” เว่ยเหลียงยิ้มเงื่อนเอ่ยว่า “เซียนกระบี่เฉินออกคาสั่งแล้วว่าข้ากับ หูเจียวมาจากทางไหนก็ให้กลับไปทางนั้น”
เว่ยเจินยิ้มเอ่ย “ไม่ลงไปลุยน้าขุ่นก็ดีเหมือนกัน เซียนกระบี่เฉิน ไม่ใช่คนเจ้าคิดเจ้าแค้นนี่ก็ไม่เห็นจะเป็ นไร คราวหน้าที่ดื่มเหล้ากันก็ อธิบายเรื่องความเข้าใจผิดบางอย่างให้ชัดเจนก็พอแล้ว”
เว่ยเหลียงพยักหน้า คากล่าวที่ว่าเมื่อความโชคดีมาเยือน สติปัญญาก็พลันบังเกิดที่เขียนไว้ในต าราหลายๆ เล่มก็น่าจะพูดถึง คนอย่างบุตรสาวของเขากระมัง คนฉลาดหลายคนที่วางแผนทุกย่าง ก้าว รอบคอบและมีเจตนากับทุกเรื่อง เสี่ยงอันตรายทาเรื่องต่างๆ เหมือนเดินอยู่บนน้าแข็งแผ่นบางอย่างเขา ดูเหมือนว่าจะไม่เป็ น ธรรมชาติ ปล่อยให้ความคิดและการกระท าเป็ นไปตามความรู ้สึกหรือ อารมณ์ได้ดีเท่าคนที่จับผลัดจับผลูอย่างนาง
เด็กสาวสวมชุดคลุมมังกรในห้องที่ชื่อจริงคือหูเจียว ฉายาคือเจี่ย เจียว อันที่จริงได้นอนขดตัวอยู่ในสุสานหลวงของแคว้นหนันเยวี่ยน มานานแล้ว รอกระทั่งเกิดการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ นางที่มี ชาติก าเนิดมาจากงูภูเขาก็แค่เงยหน้ากราบไหว้ดวงจันทร ์ ไม่รู ้ว่า
สามารถดึงดูดเอาปราณมังกรจานวนไม่น้อยที่ซุกซ่อนอยู่ในสุสาน หลวงมาส าเร็จได้อย่างไร นี่ทาให้เว่ยเหลียงที่รู ้ความจริงทั้งตกตะลึง ทั้งเดือดดาล เดิมคิดอยากจะตบนางให้ตายด้วยฝ่ ามือเดียว ทว่าพอ ไท่ซ่างหวงท่านนี้นึกถึงเรื่องเล่าจากชาวบ้านร ้านตลาดที่เคยได้ยินได้ ฟังมาตอนเด็กๆ กลับเป็ นกังวลขึ้นมา หากในบ้านมีงูเลื้อยเข้ามาคือ เรื่องดี ไม่ควรฆ่ามันทิ้ง แค่ปล่อยให้มันเลื้อยไปมาก็พอ ไม่จาเป็ นต้อง เชิญแล้วก็ไม่จ าเป็ นต้องส่ง…ดังนั้นเว่ยเหลียงจึงเก็บจิตสังหารส่วนนั้น มา ทั้งยังยังมอบตาราตระกูลเขียนเล่มหนึ่งที่บันทึกเกี่ยวกับเรื่องที่ว่า ภูตผีควรจะบรรลุมรรคาอย่างไรไว้โดยเฉพาะไปให้มัน จากนั้นหากิ่ง ไม้มาทาแทนพู่กัน เขียนและวาดลงบนพื้น อธิบายความหมายของ ตัวอักษรที่อยู่บนพื้นให้มันฟังอย่างอดทน กาลเวลาในภูเขาผันผ่าน ไปอย่างเชื่องช ้า ไม่รู ้ถึงอากาศร ้อนหนาวของโลกมนุษย์ด้านนอก เว่ยเหลียงเลื่อนเป็ นขอบเขตประตูมังกรโดยที่ตัวเองก็ไม่รู ้ตัว เพียงแต่ ว่าหลังจากนั้นเว่ยเหลียงก็มาหยุดชะงักอยู่ที่ขอบเขตนี้ ปิดด่านสร ้าง โอสถหลายครั้งก็ยังไม่สาเร็จ เขาจึงเริ่มหงุดหงิดจิตใจว้าวุ่น หรือว่า ผลส าเร็จบนมหามรรคาในชีวิตจะต้องหยุดอยู่แค่ที่คอขวดขอบเขต ประตูมังกรเท่านั้นจริงๆ มิอาจสร ้างโอสถทองกลายเป็ นเซียนดินได้ เลย?!
ในช่วงเวลาที่หัวใจรุ่มร ้อนเหมือนถูกไฟเผา จิตแห่งมรรคาไม่ มั่นคง ช่วงเวลาระหว่างที่เว่ยเหลียงสอนให้ “แมลงตัวยาวในภูเขา” รู ้จักตัวอักษร บางครั้งยามมองไปที่มันที่ชอบขดตัวนอนนิ่งอยู่ข้างฝ่ า
เท้า เขาก็มักจะอดมีสายตาที่เยียบเย็น เกิดจิตสังหารในใจไม่ได้ คิด ไปว่าหรือเป็ นเพราะการปรากฏตัวของมันที่มาช่วงชิงปราณมังกร ส่วนหนึ่งไปจากสุสานหลวง ขณะเดียวกันก็แย่งชิงโชคชะตาที่เดิมที ควรเป็ นของตนไปด้วย?! เว่ยเหลียงคิดไปคิดมาก็ตัดสินใจว่าการปิด ด่านในครั้งสุดท้าย หากยังคงไม่อาจเป็ น “ผู้ที่สร ้างโอสถทองได้ ส าเร็จก็คือคนรุ่นเดียวกับข้า” ได้เสียที ถ้าอย่างนั้นก็จะโทษที่ตน จิตใจอ ามหิต สังหารงูสลายปราณมังกร จากนั้นตัวเองค่อยดูดดึง ปราณมังกรมาหล่อหลอมเป็ นโชคชะตาของตนไม่ได้แล้ว!
การปิดด่านครั้งสุดท้ายยังคงไม่อาจฝ่ าทะลุขอบเขตสร ้างโอสถ ทองได้ เพียงแต่ว่าเมื่อเว่ยเหลียงได้เจอกับงูภูเขาตัวนั้นอีกครั้ง เขาก็ ต้องตกตะลึงอย่างหนัก ที่แท้มันก็ถึงกับหลอมเรือนกายได้สาเร็จ กลายเป็ นเด็กสาวบ้านป่าที่เปลือยกายไปทั้งตัว พอเจอกับเว่ยเหลียง นางก็ชี้ไปยังเนื้อหาบทหนึ่งในตาราที่ตัวเองเขียนไว้แล้วร ้องอ้อแอ้ ยังคงพูดได้ไม่ชัด เว่ยเหลียงจึงยิ้มพลางก้มศีรษะคารวะนาง เรียกนาง ว่าสหาย

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!