เข้าสู่ระบบผ่าน

กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 1079

เฉินหลิงจวินเห็นว่าอาจารย์จวินเชี่ยนเอาแต่ยิ้มไม่เอ่ยอะไร สายตาคล้ายจะแฝงไว้ด้วยการให้ก าลังใจและการยอมรับ…

เฉินหลิงจวินจึงมองประเมินเด็กหนุ่มหน้าตางามพิสุทธิ์คนนั้น แล้วเอ่ยชื่นชมเหมือนคนแก่ว่า ดีๆๆ ข้าก็เคยบอกแล้วว่าเจ้าเด็กที่ชื่อ เจิ้งโย่วเฉียนนั่นดีมาก วันหน้าต้องได้ดิบได้ดีแน่นอน ส่วนพี่ชายน้อย ที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้ ชื่อแซ่อะไร แค่มองก็รู ้แล้วว่าเป็ นตัวอ่อนด้านการ ฝึ กตนที่ฐานกระดูกยอดเยี่ยม ดีมาก ยังคงดีมากอยู่เหมือนกัน อาจารย์จวินเชี่ยนมีเรื่องดีมาเยือนเป็ นคู่ ขอแสดงความยินดีด้วย ไม่ ทราบว่าพี่ชายน้อยท่านนี้ดื่มเหล้าหรือไม่ หากดื่มได้เจ้ากับอาจารย์ ของเจ้า พวกเราสามพี่น้องก็ไปดื่มเหล้ามื้อเช ้าที่เรือนของข้าด้วยกัน …..

จวินเชี่ยนยิ้มเอ่ยว่าเขาชื่อป๋ ายเหย่ ต้องดีมากแน่อยู่แล้ว แต่กลับ ไม่ใช่ลูกศิษย์อะไรของเขา แต่เป็ นสหายรัก

เฉินหลิงจวินสะอึกอึ้งทันใด ความเสียเปรียบแบบเดียวกันจะไม่ เผชิญกับมันเป็ นครั้งที่สองเด็ดขาด! และความผิดพลาดแบบเดียวกัน ก็จะไม่ทาผิดซ้าอีกแน่นอน! ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจว่าจะไม่ให้เด็กหนุ่ม เปลี่ยนชื่อแล้ว

ทั้งยังไม่เอาสองมือเท้าเอวอีกต่อไป สีหน้าของเด็กชายชุดเขียว เคร่งขรึมจริงจัง จากนั้นใช ้เสียงในใจถามอาจารย์จวินเชี่ยนว่า เป็ นป๋ ายเหย่คนไหน?

จวินเชี่ยนยิ้มกล่าวว่าก็คือป๋ ายเหย่คนที่เจ้าคิดนั่นแหละ

เฉินหลิงจวินจึงใช ้ความเร็วที่ฟ้ าผ่าไม่ทันป้ องหูยกมือกุมขมับ อย่างคล่องแคล่วประดุจคนที่ฝึ กมาจนชานาญ เรือนกายโงนเงน พึมพาบอกว่าเหล้ามื้อเช ้านี่ดื่มเข้าไปแล้วหาทิศไม่เจอ ไม่รู ้เหนือรู ้ใต้ แล้ว…จากนั้นหมุนตัวกลับดุจเมฆคล้อยน้าไหล เดินโงนเงนออกห่าง ไปสี่ห้าก้าว ชักเท้าแล้ววิ่งตะบึง เพียงชั่วพริบตาเด็กชายชุดเขียวก็ หายวับไปอย่างไร ้ร่องรอย

หลังจากนั้นมา ก่อนที่โจวอันดับหนึ่งจะขึ้นมาบนภูเขา เฉินหลิง จวินก็หลบอยู่แต่ในบ้านของตัวเองตลอด พูดเสียไพเราะว่าปิดประตู ทบทวนตัวเอง ต้องฝึกคาถาปิดประตู

ชุยตงซานเดินออกมาจากเรือนแล้วก็ครุ่นคิด อาจารย์พูดได้ ถูกต้อง

การรอคอยอย่างยากลาบากครั้งหนึ่งผ่านพ้นก็ยังต้องรอคอย อย่างยากล าบากต่อ ในที่สุดก็รอจนจะได้พบกันแล้ว

ชุยตงซานพรูลมหายใจยาวเหยียด กระโดดตัวขึ้นแล้วโฉบ ออกไปเบื้องหน้า ใช ้หมัดต่อยเท้า ใช ้เท้าเตะหมัดพร ้อมส่งเสียงร ้องดัง ฮือฮ่า ชายแขนเสื้อสองข้างสะบัดดังพึ่บพั่บต่อยหมัดไปหนึ่งชุด

เฉินผิงอันผู้เป็ นอาจารย์มีสภาพจิตใจเช่นนี้ ลูกศิษย์อย่างชุยตง ซานไยจะไม่ใช่แบบเดียวกัน

เรื่องร ้ายไม่กลัวว่าจะเกิดขึ้นเร็ว เรื่องดีไม่กลัวว่าจะมาถึงช ้า ตาม คากล่าวนี้ก็พอจะถือว่าเป็ นการมองมรสุมอันตรายที่ยาวเป็ นพรวน เป็ นนิมิตหมายและการเริ่มต้นของเรื่องดีเรื่องหนึ่งได้จริงๆ

ทว่าระหว่างนี้ทั้งภูเขาเบื้องบนและสานักเบื้องล่างต่างก็ต้อง กลุ้มใจ เปลืองแรงกายแรงใจกันมากก็เท่านั้น

ชุยตงซานไม่ได้เดินกลับไปที่เรือนของตัวเอง แต่พุ่งร่างออกไป จากนั้นปืนข้ามกาแพงไปยังลานบ้านที่วางร่มใบถงเอาไว้

นั่งรอคนอยู่ตรงขั้นบันได ยกนิ้วทั้งห้าขึ้นนับคานวณ พลาง สะบัดชายแขนเสื้อของมืออีกข้างอยู่เป็ นระยะ

ชุยตงซานเบื่อหน่ายอย่างมาก เขาอ้าปากหาว ในที่สุดก็รอจน ได้พบคนสองคน นั่นก็คือหลิวเสี้ยนหยางและกู้ช่านที่ไปเยือนพรรคหู ซานด้วยกันมาครั้งหนึ่ง

ไม่ต้องโอภาปราศรัยอะไรกันแล้ว ชุยตงซานสะบัดชายแขนเสื้อ ก็สร ้างค่ายกลกระบี่วงแสงสีทองขึ้นมา หยิบม้วนภาพม้วนหนึ่ง ออกมาจากชายแขนเสื้อ กดเสียงต่าเอ่ยว่า “ภาพเหมือนภาพนี้มา จากมือของหวงถิงนักพรตหญิงแห่งใบถงทวีป นางวาดเผ่าปีศาจตน หนึ่งที่ออกอาละวาดเอาไว้ แต่ความเป็ นไปได้ที่มากที่สุดก็น่าจะเป็ น

แค่รูปโฉมของร่างจาแลงที่ใช ้ยันต์แทนกายแผ่นหนึ่ง พี่ใหญ่หลิว คิด

ว่าอย่างไร? เอาอย่างไรดี? ข้าจะเชื่อฟังพี่ใหญ่หลิวทุกอย่างเลย!” หลิวเสี้ยนหยางยื่นมือออกมา ไม่พูดให้เปลืองน้าลายแม้แต่คา

เดียว ชุยตงซานยื่นม้วนภาพไปให้ แต่กลับไม่ยอมปล่อยมือ “จะเป็ น

การแหวกหญ้าให้งูตื่นหรือไม่?”

หลิวเสี้ยนหยางหลุดหัวเราะพรืด “คาพูดนี้น้องซุยพูดไม่ถูกแล้ว ได้เห็นงูกับตาตัวเองจะเอาอะไรมาแหวกหญ้าให้งูตื่นหรือตีงูแหวก หญ้า? อย่ามัวอืดอาดอยู่เลย รีบปล่อยมือเร็วเข้า ฟาดไปสักทีหนึ่ง ก่อน จะตีโดนจุดเจ็ดรุ่นหรือไม่ รอให้ข้าผู้อาวุโสตีไปก่อนแล้วค่อยว่า

กัน”

“พี่ใหญ่หลิว พอขอบเขตสูงขึ้น ความกล้าหาญก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น แล้วนะ ไม่เสียแรงที่เป็ นเจ้าสานัก เผด็จการยิ่งนัก!”

“พี่น้องคนกันเอง พูดประจบให้น้อยหน่อยเถอะ เจ้าสานักชุย ขยับไปห่างๆ ข้าผู้เป็ นเจ้าส านักด้วย”

ชุยตงซานรีบประกบสองขาเข้าด้วยกันแล้วกระโดดออกไป ด้านข้างทันที “น้องชายรับคาสั่ง!”

หลิวเสี้ยนหยางหันไปมองกู้ช่าน กดเสียงลงต่าเอ่ยว่า “เจ้าขี้มูก ยึด หากเฉินผิงอันมาขัดขวาง เจ้าก็ช่วยขวางไว้ให้หน่อย โน้มน้าว เขาว่าอย่าได้ยุ่งวุ่นวาย….”

กู้ช่านกลับชิงพูดขึ้นมาก่อนแล้วว่า “เขาไม่ได้มา แค่เหลือบมอง มาทางนี้แวบเดียวแล้วพาอวี๋เสวียนเดินเล่นไปที่ยอดเขาแล้ว”

หลิวเสี้ยนหยางปวดร ้าวใจยิ่งนักจึงเปิดปากด่าโดยตรง “เจ้าคน ใจจืดใจด า!”

ชุยตงซานกล่าวอย่างเดือดดาล “พวกเราทั้งสองต่างก็เป็ นเจ้า สานักกันแล้ว นั่งลงทัดเทียมกัน พี่ใหญ่หลิว หากท่านยังพูดแบบนี้ อีก น้องชายอย่างข้าจะไม่ชอบใจแล้วนะ!”

หลิวเสี้ยนหยางสะบัดกางม้วนภาพ ให้มันลอยอยู่กลางอากาศ จากนั้นโบกมือเป็ นวงกว้างบอกเป็ นนัยให้ชุยตงซานถอยไปห่างๆ

ห่านขาวใหญ่จึงกระโดดออกไปด้านข้างอีกครั้ง

หลิวเสี้ยนหยางเพียงแค่เหลือบมองนักพรตที่อยู่ในภาพวาดแล้ว เริ่มเก็บความคิดรวบรวมสมาธิ ก่อนจะหลับตาเหมือนงีบหลับไป

ชุยตงซานไม่กล้ารบกวนการ…ถามกระบี่ในฝันของหลิวเสี้ยนห ยาง เพียงแค่ยิ้มกว้างจ้องเป๋ งไปที่กู้ช่าน

กู้ช่านยิ้มบางๆ ส่งกลับคืนมาตามมารยาท

ชุยตงซานใช ้เสียงในใจเอ่ยว่า “บอกตามตรงนะ คนอื่นรู ้สึก อย่างไรต่อเจ้า ข้าไม่อาจรู ้ได้ แต่อย่างน้อยข้ากับเผยเฉียนต่างก็ ไม่ได้รังเกียจเจ้า”

กู้ช่านพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม “ดีเลย”

ชุยตงซานถูมือ “ในเมื่อเจ้าเองก็ไม่รังเกียจข้า พวกเราต่างก็ถูก ชะตากัน ถ้าอย่างนั้นก็ไม่สู้ให้พวกเราสองคนมา…”

กู้ช่านตัดบทโดยตรง “ฝันไปเถอะ”

ชุยตงซานถลึงตาใส่ “จะดีจะชั่วก็ช่วยฟังก่อนว่าข้าจะพูดอะไร แล้วค่อยปฏิเสธสิ”

กู้ช่านกล่าว “หากเป็ นคนนอก ข้าจะคุยเล่นกับคนนอกอยู่นอก ประตูสองสามประโยค”

ชุยตงซานยกนิ้วโป้ ง เอ่ยชื่นชม “คาพูดนี้พูดได้ดี!”

กู้ช่านลังเลเล็กน้อย ก่อนจะประสานมือคารวะเด็กหนุ่มชุดขาวที่ มีไฝแดงกลางหว่างคิ้วผู้นี้ แต่กลับไม่ได้พูดอะไรสักคา

ชุยตงซานยิ้มกว้างสดใส ประสานมือคารวะกลับคืน

พวกเขาต่างก็เป็ นคนฉลาดกันมาก ทั้งยังเป็ นคนที่ใกล้ชิด กับเฉินผิงอันที่สุด ถ้าอย่างนั้นทุกอย่างก็ไม่จาเป็ นต้องเอื้อนเอ่ยออก มาแล้ว

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!