คงเป็ นเพราะใกล้ช่วงเทศกาลชิงหมิง ฝนใหญ่จึงตกติดต่อกัน นานหลายวัน แต่บรรยากาศและสภาพจิตใจของผู้ฝึ กตนท าเนียบ ของภูเขาไฉอวี้พรรคกิ่งไผ่ในช่วงที่ผ่านมานี้กลับเหมือนแสงตะวัน สาดส่องเจิดจ้า
เพียงแค่เพราะว่าภูเขาไฉอวี้ที่เดิมที่ควรตกเป็ นของภูเขาตะวัน เที่ยง หลังจากที่กวอฮุ่ยเฟิ งเจ้าประมุขเดินทางไปเยือนยอดเขาอี เซี่ยนมารอบหนึ่ง จ่ายเงินฝนธัญพืชไปแค่สามสิบเหรียญก็สามารถ ซื้อกลับมาได้แล้ว
ส่วนกวอฮุ่ยเฟิ งพูดคุยกับจู่หวงเจ้าสานักที่เป็ นเซียนกระบี่ อย่างไร นางไม่ได้เล่าให้ใครฟัง
ผู้ฝึกตนพรรคกิ่งไผ่ยังอาศัยข่าวลือเล็กๆ บางอย่างที่แพร่มาจาก ภูเขาตะวันเที่ยงท าให้รู ้ว่าจู๋หวงถึงกับมาปรากฏตัวที่ตีนเขาของภูเขา บรรพบุรุษ มารอต้อนรับเจ้าประมุขบ้านตนด้วยตัวเอง
ขณะเดียวกันความสัมพันธ ์ระหว่างพรรคกิ่งไผ่กับภูเขาตะวัน เที่ยงก็ยังคงเดิม จะไม่กลายไปเป็ นภูเขาเบื้องล่างของฝ่ ายหลัง เพียงแต่ว่าทุกปี จะยังต้อง “ส่งบรรณาการ” ให้ดังเดิม ยังคงเป็ น ความสัมพันธ ์ที่ต้องจ่ายเงินเพื่อซื้อการปกป้ องคุ้มกัน
วันนี้ป๋ ายหนีที่รับหน้าที่เป็ นขุนนางผู้ดูแลการขุดเจาะของภูเขา ไฉอวี้เพิ่งจะเข้าภูเขามาก็มองเห็นใบหน้าของคนคุ้นเคยนั่งยองอยู่ หน้าถ้าของหลุมขุดเจาะเก่า ทุกวันนี้หากไม่มีสถานะเป็ นจือเค่อก็ไม่ มีทางเข้าไปในหลุมเหมืองเก่าได้
ผู้เฒ่าเดินเร็วๆ ไปหา พอขยับเข้าใกล้หน้าปากถ้าของหลุมเก่าก็ ชะลอฝีเท้าให้ช ้าลงเอ่ยสัพยอกคนหนุ่มผู้นั้นว่า “เจ้าหนูเจ้าเกิดปีจอ หรือไร ข่าวสารถึงได้ว่องไวเพียงนี้?”
ก็ดีเหมือนกัน ช่วยลดทอนความยุ่งยากในการตามหาตัวคนไป ได้มากมาย ทุกวันนี้พรรคกิ่งไผ่ได้ข้ามผ่านด่านยากมาได้แล้ว หาก จะบอกว่าได้รับโชคดีหลังเคราะห์ร ้ายก็ไม่มีปัญหาเลยสักนิด ถ้าอย่าง นั้นเฉินจิ้วจือเค่อฝ่ ายนอกที่ก่อนหน้านี้ไม่นานถูกตนไล่ออกไปเพื่อ หลบเลี่ยงความวุ่นวายก็สามารถกลับคืนสู่ตาแหน่งเดิมได้แล้ว เพียงแต่ว่าท าไมเจ้าส านักจู๋ถึงได้ยินดีปฏิบัติต่อพรรคกิ่งไผ่อย่างมี น้าใจ เป็ นฝ่ ายแสดงความเป็ นมิตรกับนางเช่นนี้ คราวก่อนกวอฮุ่ย เฟิ งที่อยู่ตรงตีนเขาของยอดเขาอีเซี่ยนก็ยังคิดไม่เข้าใจ ภายหลัง กลับมาเปิดการประชุมศาลบรรพจารย์ที่พรรคกิ่งไผ่ นางก็แค่พูดถึง ผลลัพธ ์สุดท้ายที่สองฝ่ ายปรึกษากันออกมา ช่วงนี้ให้ผู้คุมกฎหลิง เซี่ยควบคุมค าพูดค าจาของผู้ฝึกตนบ้านตนให้ดี อย่าได้หลงระเริง ลาพองตน หลีกเลี่ยงไม่ให้เหล่าเซียนกระบี่ที่อายุน้อยอารมณ์พลุ่ง พล่านของภูเขาตะวันเที่ยงบางคนได้ยินเข้าแล้วไม่สบอารมณ์ มาหา เรื่องพวกเขาจนเกิดเรื่องขึ้นมาอีก
เฉินจิ้วสอดสองมือไว้ในชายแขนเสื้อ ใบหน้าเต็มไปด้วยความ สงสัย ถามว่า “ท่านลุงป๋ าย ข่าวอะไรหรือ?”
เห็นว่าเขาไม่เหมือนแกล้งโง่ ลุงป๋ ายก็ลังเลไปเล็กน้อย ก่อนจะใช ้ เสียงในใจเล่าให้อีกฝ่ ายฟังคร่าวๆ ก็หนีไม่พ้นว่าความสัมพันธ ์ ระหว่างพวกเขากับภูเขาตะวันเที่ยงมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี ขึ้น เจ้าประมุขกวอได้อธิบายเรื่องความเข้าใจผิดให้เจ้าสานักจู๋ฟัง อย่างชัดเจนแล้ว ช่วยให้พรรคกิ่งไผ่ได้มีภาพบรรยากาศสงบสุข หลายร ้อยปี ดังนั้นเขาจึงคิดจะให้เฉินจิ้วมารับตาแหน่งเป็ นเตี่ยนเค่อ ฝ่ายนอกต่อ ถามเฉินจิ้วว่ายินดีหรือไม่
คนหนุ่มเอ่ยอย่างขุ่นเคือง “คนที่ไล่ข้าไปคือท่านลุงป๋ าย วันนี้คน ที่เชิญข้ากลับมายังภูเขาไฉอวี้ก็เป็ นท่านลุงป๋ ายอีก นี่ท่านลุงป๋ ายคิด จะขุดบ่อล่อปลาหรือ?”
ลุงป๋ ายยิ้มเอ่ย “ได้ผลประโยชน์ไปแล้วอย่าทามาตีหน้าชื่ออีกเลย เจ้าพูดมาตามตรงเถอะว่ายินดีจะกลับมาเป็ นจือเค่ออีกหรือไม่ หาก พยักหน้าตกลงก็อย่าได้รีบดีใจเร็วเกินไปนัก เพราะมีงานหนักงาน เหนื่อยรอเจ้าอยู่ แต่ก็จะไม่ให้เจ้าต้องเหนื่อยเปล่า สามารถเพิ่ม เงินเดือนให้ได้”
ผู้เฒ่ามีสีหน้าเมตตาปราณี มองคนหนุ่มที่บนรองเท้าเปรอะเปื้อน ไปด้วยดินโคลนบนภูเขาผู้นี้แล้ว คงเป็ นเพราะใช ้ชีวิตอยู่ข้างนอกได้ ไม่ง่ายเลยจริงๆ หาไม่แล้วเจ้าเด็กนี่ก็คงไม่มีทางบากหน้ากลับมาที่ ภูเขาไฉอวี้ ลองเอาตัวไปอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน หากตอนที่
ตัวเองยังเป็ นหนุ่มแล้วถูกคนไล่ไปก็คงไม่คิดจะกลับมาปรนนิบัติอีก ฝ่ ายแล้วจริงๆ เป็ นจือเค่อฝ่ ายนอก เงินเดือนทุกเดือนที่ได้รับคือสิบ สองเหรียญเงินเกล็ดหิมะ พรรคกิ่งไผ่ดูแลเรื่องการกินการอยู่ แทบจะ ไม่มีค่าใช ้จ่ายส่วนต่างอะไร เท่ากับได้เงินมาเปล่าๆ เฉินจิ้วสามารถ ประหยัดเงินเทพเซียนก้อนนี้เอาไว้ แล้วนับประสาอะไรกับที่จือเค่อทา หน้าที่ต้อนรับผู้คน หากเป็ นพวกหัวไวสักหน่อย หักค่าหัวกินส่วน ต่าง ขอแค่ไม่ใจด าเกินไป ด้วยความใจกว้างของท่านลุงป๋ าย รวมไป ถึงความชื่นชอบและเอ็นดูที่ผู้เฒ่ามีต่อเฉินจิ้วแล้วจะต้องยอมหลับตา ข้างหนึ่งลืมตาข้างหนึ่งอย่างแน่นอน ไม่พูดว่าจะได้ค่าน้าร ้อนน้าชา มากมาย แต่ให้คนหนุ่มได้สะสมเงินแต่งภรรยาตอนอยู่ในพรรคกิ่งไผ่ ถึงอย่างไรก็สามารถท าได้ แต่หากว่าเจ้าเฉินจิ้วใฝ่ สูงทะเยอทะยาน เกินตัว ถูกใจเทพธิดาของจวนเซียนใหญ่บางคน ยกตัวอย่างเช่นซู เจี้ย แห่งภูเขาตะวันเที่ยง ก็ช่วยไม่ได้แล้ว นอนเยอะๆ ฝันมากๆ น่าจะ พอได้อยู่
เฉินผิงอันยิ้มเอ่ย “ท่านลุงป๋ าย ข้ากลับมาที่ภูเขาไฉอวี้ครั้งนี้ก็ เพราะตั้งใจมาเสวยสุขไหนลองบอกมาก่อนสิว่าเป็ นงานยากล าบาก แบบใด? ข้าต้องฟังก่อนแล้วค่อยตัดสินใจไม่ใช่ว่ามีจุดจบเป็ นการพา ตัวไปติดกับดักหรอกนะ”
ท่านลุงป๋ ายยิ้มเอ่ย “งานการขุดเจาะของภูเขาไฉอวี้ที่เดิมทีถูก พักไว้ ตอนนี้เริ่มกลับมาทากันได้อีกครั้งแล้ว แต่เจ้าประมุขกวอกับผู้ คุมกฏหลิงต่างก็รู ้สึกว่าหากใช ้วิธีอย่างเมื่อก่อนดูจะพึ่งพาไม่ค่อย
ได้มากนัก เจ้าหนูเจ้าเป็ นคนหัวไว ข้อเสนอหลายอย่างที่เจ้าเสนอมา กับข้า ข้าเอาไปพูดในศาลบรรพจารย์แล้ว คิดไม่ถึงว่าสมาชิกส่วน ใหญ่ของศาลบรรพจารย์ต่างก็รู ้สึกว่าไม่เลว ดังนั้นข้าจึงช่วยของาน มาให้เจ้า ให้เจ้าช่วยดูแลบัญชี เป็ นอย่างไร?”
เซียนกระบี่ที่เป็ นเจ้าสานักคนหนึ่งรับปากด้วยตัวเองย่อมเชื่อถือ ได้ยิ่งกว่าคาสาบานแห่งภูเขาสายน้าอย่างการเผายันต์ยื่นส่งคาร ้อง อะไรทั้งนั้น นี่หมายความว่าอย่างน้อยภายในเวลาสามร ้อยห้าร ้อยปี หรือถึงขั้นนานยิ่งกว่านั้น ขอแค่จู๋หวงยังเป็ นเจ้าส านักของภูเขาตะวัน เที่ยงวันหนึ่ง ถ้าอย่างนั้นพรรคกิ่งไผ่ที่โงนเงนอยู่ท่ามกลางสายลมก็ ไม่มีภัยภายในและภายนอกอะไรให้ต้องกังวลอีกแล้ว
ก็เหมือนอย่างการประชุมในศาลบรรพจารย์คราวก่อน ป๋ ายหนีที่ ในอดีตเพียงแค่รับฟังอย่างเดียวไม่เคยเสนอความคิดอะไร ได้เป็ น ฝ่ ายเปิดปากถามอย่างที่หาได้ยากว่าจะสามารถรับเตี่ยนเค่อเฉินจิ้ว เป็ นลูกศิษย์ผู้สืบทอดของตนได้หรือไม่
วางท่าชัดเจนว่าต้องการจะอบรมปลูกฝังอีกฝ่ ายให้ดีๆ ต้องการ ยกต าแหน่งขุนนางผู้ดูแลการขุดเจาะซึ่งเป็ น “บรรดาศักดิ์ที่สืบทอด รุ่นต่อรุ่น” ให้กับคนหนุ่มแซ่เฉินผู้นั้นแล้ว
เจ้าประมุขกวอฮุ่ยเฟิ งก็มีความประทับใจที่ไม่เลวต่อคนหนุ่มที่ มักจะไปตกปลาที่ริมลาคลองเป็ นประจาผู้นั้น ผู้คุมกฎหลิงเซี่ยก็ตั้งใจ ไปพลิกเปิดเอกสารข้อมูลเกี่ยวกับเฉินจิ้วมาโดยเฉพาะ พบว่าจือเค่อ ฝ่ายนอกผู้นี้มีชื่อเสียงไม่เลวอยู่ในพรรคบ้านตัวเอง ถ้าอย่างนั้นนางก็
ไม่มีความจาเป็ นที่จะต้องงัดข้อกับเจ้าประมุขเพราะเรื่องเล็กน้อย เท่านี้ เป็ นเหตุให้เรื่องที่เฉินจิ้วจะกลายเป็ นลูกศิษย์ผู้ถวายงานของ ศาลบรรพจารย์ได้กลายเป็ นเรื่องที่จริงแท้แน่นอนแล้ว
ส่วนตัวป๋ ายหนีเอง หลังจากเขามีความคิดนี้แล้วก็ยิ่งสบายใจ ผ่อนคลายมากขึ้นกว่าเดิม มีความรู ้สึกว่าในอนาคตตัวเองจะเลี้ยง เป็ ดเลี้ยงห่านสักฝูง ปลูกผักสักแปลง ไปตกปลาที่ริมลาคลอง ทอดสายตามองไปนอกพันภูเขา อ่านต าราอย่างเพลิดเพลิน
คนหนุ่มไม่ควรไร ้ความทะเยอทะยาน แต่จะปล่อยให้มีมากเกินไป ไม่ได้ ไม่สะดวกจะฉายประกายคมกริบมากเกินไป ต้องใช ้เรื่องราว ทางโลกและผู้คนช่วยขัดเกลาเหลี่ยมมุมบ้าง
ดังนั้นผู้เฒ่าจึงไม่ได้บอกความคิดที่แท้จริงของตัวเองให้เฉินจิ้ว ฟังว่า
วันใดตนถอยออกไปก็จะให้เฉินจิ้วขึ้นมาแทนที่ ในศาลบรรพ จารย์ของพรรคกิ่งไผ่จะมีเก้าอี้สาหรับเขา
กลายมาเป็ นลูกศิษย์ผู้สืบทอดของตนก่อน แล้วค่อยอดทนขัด เกลาประสบการณ์อีกสักสี่ห้าปีก็ถือโอกาสรับตาแหน่งขุนนางผู้ดูแล การขุดเหมืองคนถัดไป ผู้เฒ่าล้วนปูทางไว้ให้กับคนหนุ่มหมดแล้ว
“ท่านลุงป๋ าย เอ่ยความในใจสักคา นี่ไม่เท่าไรเลยจริงๆ”
เฉินผิงอันนวดคลึงใบหน้า “จะเป็ นการเอาคนมีฝีมือมาใช ้ในงาน เล็กน้อยหรือไม่?”
ป๋ ายหนีหัวเราะอย่างขันๆ ปนฉุน ตบลงบนไหล่ของคนหนุ่ม “ดีๆๆ ขอบเขตของเฉินจือเค่อสูง พูดจาวางโต ปณิธานยิ่งใหญ่ยาว ไกล เป็ นการเอาคนมีฝีมือมาใช ้ในงานเล็กน้อยจริงๆ!”



ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!